น้ำมันดิบปิดบวกรับแรงซื้อกลับหลังร่วงหนัก
สัญญาน้ำมันดิบเวสต์เท็กซัส (WTI) ตลาดนิวยอร์กปิดฟื้นตัวขึ้นเมื่อคืนนี้ (14 ส.ค.) หลังจากเทรดเดอร์ช้อนซื้อเมื่อราคาร่วงลงจากการเทขายอย่างหนักเมื่อวันพฤหัสบดี
สำนักข่าวอินโฟเควสท์รายงานว่า สัญญาน้ำมันดิบ WTI ส่งมอบเดือนก.ย.ปิด (14 ส.ค.) เพิ่มขึ้น 27 เซนต์ แตะที่ 42.50 ดอลลาร์/บาร์เรล ส่วนสัญญาน้ำมันดิบเบรนท์ (BRENT) ส่งมอบเดือนก.ย.ที่ตลาดลอนดอน ปิดลดลง 19 เซนต์ ที่ 49.03 ดอลลาร์/บาร์เรล
ราคาน้ำมันปรับตัวดีขึ้นเล็กน้อย หลังจากปิดแตะระดับต่ำสุดในรอบเกือบ 6 ปีครึ่งในวันก่อนหน้า แต่สัญญาน้ำมันก็ยังอ่อนแรงลงเป็นสัปดาห์ที่ 7 ติดต่อกันจากความวิตกเกี่ยวกับอุปสงค์จากจีนและความกังวลเกี่ยวกับปริมาณน้ำมันจำนวนมากในตลาดโลก บรรดาบริษัทน้ำมันของสหรัฐได้เพิ่มการขุดเจาะในสัปดาห์นี้ แม้ว่าราคาน้ำมันดิบร่วงลง ซึ่งส่งผลให้จำนวนบ่อน้ำมันในสหรัฐเพิ่มขึ้นเป็นสัปดาห์ที่ 4 ติดต่อกัน
ทั้งนี้ ข้อมูลเศรษฐกิจที่สดใสนับเป็นปัจจัยที่ช่วยหนุนราคาน้ำมันดิบสหรัฐ โดยธนาคารกลางสหรัฐ (FED) เปิดเผยเมื่อคืนนี้ว่า การผลิตภาคอุตสาหกรรมปรับตัวขึ้น 0.6% ในเดือนก.ค. ซึ่งบ่งชี้ว่าภาคการผลิตได้ฟื้นตัวขึ้น ขณะที่นักวิเคราะห์คาดว่าเพิ่มขึ้นเพียง 0.4% โดยการผลิตได้ปรับตัวขึ้นติดต่อกันเป็นเดือนที่ 2 ในเดือนก.ค. หลังจากที่ร่วงลง 5 เดือนติดต่อกันจากช่วงต้นปี
ขณะเดียวกัน อัตราการใช้กำลังการผลิตในเดือนก.ค.ปรับตัวขึ้น 0.3% สู่ระดับ 78.0% สอดคล้องกับการคาดการณ์ของวิเคราะห์ ด้านกระทรวงแรงงานสหรัฐเปิดเผยว่า ดัชนีราคาผู้ผลิต (PPI) เพิ่มขึ้น 0.2% ในเดือนก.ค. เมื่อเทียบรายเดือน หลังจากเพิ่มขึ้น 0.4% ในเดือนมิ.ย. โดยดัชนีปรับตัวขึ้นเป็นเดือนที่ 3 ในเดือนก.ค. และสูงกว่าคาดการณ์ของนักวิเคราะห์