มติ “กบน.” ตรึงราคา LPG อีก 3 เดือน ถึงสิ้น ก.ย. ลดภาระค่าครองชีพ ปชช. เยียวยา “โควิด”
"สนธิรัตน์" เผยที่ประชุม “กบน.” มีมติเห็นชอบตรึงราคา LPG อีก 3 เดือน ถึงสิ้น ก.ย. ลดภาระค่าครองชีพปชช. พร้อมเร่งผลักดันโครงการโรงไฟฟ้าชุมชน กระตุ้นศก.แก้วิกฤต “โควิด-19”
นายสนธิรัตน์ สนธิจิรวงศ์ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงพลังงาน เปิดเผยว่า ที่ประชุมคณะกรรมการบริหารกองทุนน้ำมันเชื้อเพลิง (กบน.) เห็นชอบคงราคาขายส่งก๊าซปิโตรเลียมเหลว (LPG) หน้าโรงกลั่นน้ำมัน ซึ่งไม่รวมภาษีมูลค่าเพิ่มสำหรับการซื้อขายก๊าซฯ อยู่ที่ 14.3758 บาท/กิโลกรัม (กก.) ซึ่งจะทำให้ราคาขายปลีก LPG อยู่ที่ระดับ 18.87 บาท/กก. หรือราคาขายปลีกบรรจุถัง 15 กก.อยู่ที่ 318 บาท ตั้งแต่วันที่ 24 มิ.ย.-30 ก.ย.63 ซึ่งเป็นไปตามมติคณะกรรมการบริหารนโยบายพลังงาน (กบง.) ในการประชุมเมื่อวันที่ 15 มิ.ย.ที่ผ่านมา
ทั้งนี้ เพื่อเป็นการช่วยเหลือบรรเทาผลกระทบต่อค่าครองชีพของประชาชน จากสถานการณ์การแพร่ระบาดของไวรัสโควิด-19 ที่ยังคงส่งผลกระทบต่อเศรษฐกิจไทยและการดำรงชีพของประชาชน ประกอบกับราคา LPG ในตลาดโลก (LPG Cargo) ยังไม่สูงมากนัก แม้ว่าปัจจุบันจะมีความผันผวน และขึ้นลงตามราคาน้ำมันดิบในตลาดโลก
โดยราคาได้ปรับลงจาก 255 เหรียญสหรัฐ/ตัน ในเดือนมี.ค.63 เหลือ 206 เหรียญสหรัฐ/ตันในเดือนเม.ย.63 และเพิ่มขึ้นเป็น 269 เหรียญสหรัฐ/ตัน ในเดือนพ.ค.63 ขณะที่ในช่วงต้นเดือนมิ.ย. เพิ่มเป็น 315 เหรียญสหรัฐ/ตัน ก่อนจะขยับเป็น 340 เหรียญสหรัฐ/ตันในปัจจุบัน ซึ่งคาดว่าราคา LPG จะทรงตัวก่อนจะขยับเพิ่มขึ้นในช่วงปลายปีนี้ เนื่องจากความต้องการใช้จะสูงขึ้น ทำให้คาดว่าราคาเฉลี่ยปีนี้จะไม่เกิน 400 เหรียญสหรัฐ/ตัน
ส่วนสถานการณ์ราคาน้ำมันในปีนี้คาดว่าจะเฉลี่ยอยู่ที่ 40-50 เหรียญสหรัฐ/บาร์เรล โดยขณะนี้ราคาน้ำมันดิบตลาดโลกปรับตัวสูงขึ้น หลังจากในช่วงเดือนเม.ย. ปรับลดลงต่ำสุดอยู่ที่ราว 20 เหรียญสหรัฐ/บาร์เรล และเดือนมิ.ย.ปรับขึ้นมายืนเหนือ 40 เหรียญสหรัฐ/บาร์เรล ส่งผลให้ราคาขายปลีกน้ำมันปรับตัวสูงขึ้น
ขณะที่ฐานะกองทุนน้ำมันเชื้อเพลิง ณ วันที่ 21 มิ.ย.63 มีจำนวนสุทธิ 34,199 ล้านบาท แบ่งเป็น บัญชีน้ำมัน 40,617 ล้านบาท และบัญชี LPG ติดลบ 6,418 ล้านบาท โดยประมาณการสภาพคล่องของกองทุนน้ำมันเชื้อเพลิง ในส่วนบัญชี LPG จะมีรายจ่าย 7.87 ล้านบาท/วัน หรือ 236 ล้านบาท/เดือน
นอกจากนี้ นายสนธิรัตน์ ยังกล่าวว่า วันพรุ่งนี้ (25 มิ.ย.) นายสมคิด จาตุศรีพิทักษ์ รองนายกรัฐมนตรี จะเดินทางมาที่กระทรวงพลังงาน เพื่อร่วมการประชุมพลังงานสร้างชาติ โดยกระทรวงพลังงานจะเสนอโครงการโรงไฟฟ้าชุมชนเพื่อเศรษฐกิจฐานราก เป็นนโยบายเร่งด่วนเพื่อแก้วิกฤติโควิด-19 รวมถึงการผลักดันให้ไทยเป็นศูนย์กลางการซื้อขายก๊าซธรรมชาติเหลว (LNG) เป็นต้น โดยจะประกาศเป็นนโยบายระยะสั้น 3-6 เดือน ซึ่งคาดหวังจะช่วยกระตุ้นเศรษฐกิจราว 1 แสนล้านบาท