กลุ่ม PTT อัดฉีด 1.49 แสนล. ลงทุนช่วงครึ่งหลังปี 63 -เล็งขยับแผนโครงการปี 64 เร็วขึ้น
กลุ่ม PTT อัดฉีด 1.49 แสนล. ลงทุนช่วงครึ่งหลังปี 63 -เล็งขยับแผนโครงการปี 64 เร็วขึ้น
นายอรรถพล ฤกษ์พิบูลย์ ประธานเจ้าหน้าที่บริหารและกรรมการผู้จัดการใหญ่ บริษัท ปตท. จำกัด (มหาชน) หรือ PTT เปิดเผยว่า ปตท.และบริษัทในกลุ่มยังคงเดินหน้าลงทุนเพื่อขับเคลื่อนเศรษฐกิจอย่างต่อเนื่อง โดยปีนี้วางเป้าหมายจะใช้เงินลงทุนราว 2.74 แสนล้านบาท ซึ่งได้ใช้ไปแล้วในช่วงครึ่งปีแรกกว่า 1.2 แสนล้านบาท และเตรียมจะใช้เงินอีกประมาณ 1.49 แสนล้านบาท เพื่อลงทุนในช่วงครึ่งปีหลัง มีโครงการสำคัญ ได้แก่ ท่อส่งก๊าซธรรมชาติเส้นที่ 5, สถานีรับจ่ายก๊าซธรรมชาติเหลว (LNG Receiving Terminal), การขยายสถานีบริการน้ำมัน ของบริษัท ปตท.น้ำมันและการค้าปลีก จำกัด (มหาชน) หรือ OR
โดยโครงการสำรวจและผลิตปิโตรเลียม เอส 1, อาทิตย์, สินภูฮ่อม, G2/61, G1/61, บงกช และโครงการพัฒนาพื้นที่พัฒนาร่วมไทย-มาเลเซีย ของ บริษัท ปตท.สำรวจและผลิตปิโตรเลียม จำกัด (มหาชน) หรือ PTTEP, โครงการพลังงานสะอาด (Clean Fuel Project: CFP) ของ บริษัท ไทยออยล์ จำกัด (มหาชน) หรือ TOP และโครงการโรงงานโอเลฟินส์ (Olefins Reconfiguration Project :ORP) ของ บริษัท พีทีที โกลบอล เคมิคอล จำกัด (มหาชน) หรือ PTTGC เป็นต้น
นอกจากนี้ ปตท.ยังทบทวนแผนลงทุนปี 64 เพื่อพิจารณาว่าจะสามารถเร่งโครงการลงทุนปีหน้าให้เร็วขึ้นมาเป็นปีนี้ได้หรือไม่ ซึ่งจะมีการทบทวนแผนลงทุนดังกล่าวในช่วงเดือนก.ค.นี้ โดยตามแผนปตท.และบริษัทในกลุ่ม จะลงทุนรวมประมาณ 2.09 แสนล้านบาทในปี 64 ขณะที่ภาพรวมงบลงทุนช่วง 5 ปี (ปี 63-67) มีเงินลงทุนรวมประมาณ 9.63 แสนล้านบาท
นายอรรถพล กล่าวว่า สำหรับการคาดการณ์อัตราการเติบโตทางเศรษฐกิจ (GDP) ของไทยที่ล่าสุดธนาคารแห่งประเทศไทย (ธปท.) คาดว่าเศรษฐกิจไทยจะติดลบ 8.1% ในปีนี้ ก็คาดว่ายอดขายของกลุ่ม ปตท.น่าจะได้รับผลกระทบไม่เกิน 10% เนื่องจากยอดขายของกลุ่ม ปตท.ขึ้นอยู่กับเศรษฐกิจ แต่ยังมองว่ายอดขายในช่วงครึ่งหลังของปีนี้จะดีขึ้น จากสถานการณ์โควิด-19 ที่คลี่คลาย ราคาน้ำมันที่ปรับตัวสูงขึ้น ก็จะทำให้ผลขาดทุนจากสต็อกน้ำมันลดลง และยอดขายน่าจะดีขึ้นเมื่อเทียบกับช่วงเดือนมี.ค.-เม.ย. โดยคาดว่าราคาน้ำมันดิบเฉลี่ยปีนี้อยู่ที่ราว 40 เหรียญสหรัฐ/บาร์เรล