“ครม.” อัดงบ 2.2 หมื่นลบ. หนุน “เราเที่ยวด้วยกัน-เที่ยวปันสุข” เปิดลงทะเบียน 15 ก.ค.นี้!
ที่ประชุม “ครม.” อัดงบ 2.2 หมื่นลบ. หนุน “เราเที่ยวด้วยกัน-เที่ยวปันสุข” ปรับเงื่อนไข ช่วยค่าตั๋วเครื่องบิน-ที่พัก-อาหาร เปิดลงทะเบียน 15 ก.ค.นี้!
น.ส.ไตรศุลี ไตรสรณกุล รองโฆษกประจำสำนักนายกรัฐมนตรี เปิดเผยว่า ที่ประชุมคณะรัฐมนตรี (ครม.) อนุมัติงบประมาณ 22,400 ล้านบาทให้การท่องเที่ยวแห่งประเทศไทย (ททท.) เพื่อดำเนินการฟื้นฟูเศรษฐกิจสังคมภาคการท่องเที่ยวจำนวน 2 โครงการ คือ
1.โครงการ “เราเที่ยวด้วยกัน” ที่เป็นรวมโครงการ “เราเที่ยวด้วยกัน”กับโครงการ “เที่ยวปันสุข” มาไว้ด้วยกัน โดยจะมีการปรับเปลี่ยนเงื่อนไขเกี่ยวกับเงินช่วยเหลือค่าเดินทาง จะให้เฉพาะค่าตั๋วเครื่องบินเพียงอย่างเดียว ส่วนค่ารถโดยสารประจำทางนั้นเนื่องจากจะมีผู้ประกอบการให้บริการรถร่วมที่เป็นรถโดยสารไม่ประจำทางและรถเช่าเป็นจำนวนมาก ทำให้ไม่สามารถจัดทำแพลตฟอร์มที่จะตรวจสอบได้ทัน
ทั้งนี้ ธนาคารกรุงไทยจะจัดทำแพลตฟอร์มให้ผู้ประกอบการโรงแรม ร้านอาหาร โฮมสเตย์ สถานที่ท่องเที่ยว ลงทะเบียนได้ในวันที่ 1ก.ค.นี้ โดยราคาห้องพักโรงแรมที่กำหนดต้องไม่สูงกว่าราคาที่เสนอขายผ่านผู้ให้บริการจองที่พักออนไลน์ (OTA) ในเวลาเดียวกัน ส่วนประชาชนจะสามารถลงทะเบียนขอใช้สิทธิได้ตั้งแต่วันที่ 15 ก.ค.63 ทางแอปพลิเคชั่น”เป๋าตัง” โดยเข้าไปกรอกข้อมูลส่วนบุคคลก่อน เมื่อได้สิทธิแล้วจึงเข้าไปลงทะเบียนทางเว็บไซต์ www.เราเที่ยวด้วยกัน.com
สำหรับการช่วยเหลือค่าที่พักกำหนดจำนวน 5 ล้านคืนนั้น รัฐบาลจะโอนเงินค่าที่พักให้ผู้ประกอบการในอัตรา 40% แต่ไม่เกิน 3,000 บาท/ห้อง/คืน โดยแต่ละคนจะได้รับสิทธิจองห้องพักไม่เกิน 5 คืน ส่วนค่าอาหารและเข้าชมสถานที่ จำนวน 5 ล้านสิทธิ รัฐบาลจะสนับสนุนในอัตรา 40% แต่ไม่เกิน 600 บาท/วัน ค่าตั๋วเครื่องบินจะสนับสนุน 2,000 บาท/คน จำกัดจำนวน 2 ล้านใบ โดยผู้ได้รับสิทธิจะต้องสำรองจ่ายไปก่อน รัฐบาลจะจ่ายคืนให้ในอัตรา 40% ตั๋วไป-กลับช่วยไม่เกิน 1,000 บาท/ที่นั่ง
ในรายละเอียดของมาตรการกำหนดว่า
– เมื่อผู้เข้าร่วมโครงการได้ลงทะเบียน และผ่านการยืนยันตัวตนแล้ว จะสามารถจองโรงแรม (รวมถึงโฮมสเตย์) ผ่านช่องทางต่าง ๆ ได้แก่ 1 โรงแรมโดยตรง ผ่านทั้งทางโทรศัพท์ โดยโรงแรมจะส่งรายละเอียดของผู้จองผ่านเว็บไซด์ที่จัดทำขึ้นโดยธนาคารกรุงไทย สำหรับผู้ประกอบการที่ไม่มีเว็บไซต์การจองห้องพักเป็นของคนเองและไม่ได้เข้าร่วม OTA (Online Travel Agency) ที่ได้ทำข้อตกลงกับ ททท.ว่าจะไม่คิดค่าธรรมเนียมใด ๆ เพิ่มเติม ทั้งนี้ จะมีระบบตรวจสอบ จังหวัดที่ผู้เข้าร่วมโครงการฯ จองโรงแรมนั้นจะต้องตั้งอยู่ในพื้นที่จังหวัดอื่นที่ไม่ใช่จังหวัดในทะเบียนบ้าน โดยการเชื่อมต่อข้อมูลชของกระทวงมหาดไทย
– การชำระเงิน ผ่านแอปพลิเคชั่น “เป๋าตัง” ในอัตรา 60% ของราคาที่โรงแรมเสนอขาย โดยผู้เข้าร่วมโครงการจะต้องรอการยืนยันการจองที่พักและสิทธิเข้าร่วมโครงการก่อนจึงจะสามารถชำระค่าห้องพักในสัดส่วน 60% ดังกล่าวได้ ซึ่งจะมีการแจ้งเตือนเพื่อยืนยันการจองที่พักผ่าน “Notification” ในแอปพลิเคชั่น “เป๋าตัง”ให้ผู้เข้าร่วมโครงการสามารถชำระค่าที่พักในรูปแบบต่างๆ ได้หลากหลาย อาทิ บัตรเครดิตหรือการโอนเงิน หรือ ช่องทาง E-payment อื่นๆ ตามที่โรงแรม/ที่พัก จัดเตรียมไว้ (Payment Gateway) ทั้งนี้ต้องชำระค่าโรงแรมภายใน 24 ชม.นับจากการจองห้องพักในขั้นตอนที่ 2 และเมื่อชำระเงินแล้วจะไม่สามารถขอคืนเงินได้ (non-refundable)
– การรับค่าสนับสนุนการเดินทาง (ค่าอาหารและค่าเข้าสถานที่ท่องเที่ยวที่เข้าร่วมโครงการฯ ซึ่งตั้งอยู่ในพื้นที่จังหวัดอื่นที่ไม่ใช่จังหวัดในทะเบียนบ้าน) เมื่อผู้เข้าร่วมโครงการฯ check-in จะได้รับเงินสนับสนุนการเดินทางในอัตรา 40% ของค่าใช้จ่ายดังกล่าว แต่ไม่เกินวันละ 600 บาท ตามจำนวนคืนที่เข้าพักจริงผ่าน app เป๋าตัง ซึ่งรัฐจะจ่ายเงินสนับสนุนการเดินทางเป็นรายวัน และสามารถสะสมจำนวนเงินได้ตามจำนวนวันที่เข้าพักจริงได้จนถึงวันที่ check-out และจะสามารถใช้สิทธิดังกล่าวได้ภายในเวลา 23.59 น. ของวันที่ check-out เท่านั้น
ทั้งนี้ รัฐจะจ่ายเงินสนับสนุนให้แก่ผู้ประกอบธุรกิจที่เข้าร่วมโครงการฯ โดยโรงแรมจะได้รับเงินสนับสนุนในอัตรา 40% แต่ไม่เกิน 3,000 บาท/ห้อง/คืน ภายหลังจากที่ผู้จองที่พัก check-out แล้ว และสำหรับร้านอาหารและสถานที่ท่องเที่ยว รัฐจะจ่ายเงินสนับสนุนให้เป็นรายวัน
– สำหรับผู้จองที่พักที่เดินทางโดยเครื่องบิน จะต้องดำเนินการจองและชำระค่าบัตรโดยสารในเส้นทางบินในประเทศเต็มจำนวน โดยผู้จองที่พักมีสิทธิได้รับเงินสนับสนุนค่าบัตรโดยสารในลักษณะการจ่ายเงินคืน (redeem) ผ่าน App เป๋าตัง 40% แต่ไม่เกิน 1,000 บาท/บัตรโดยสารหนึ่งที่นั่ง และการจองห้องพัก 1 ห้องจะได้รับสิทธิบัตรโดยสารจำนวนไม่เกิน 2 ใบ ทั้งนี้ เมื่อการเดินทางเสร็จสิ้น ผู้ใช้สิทธิต้องดำเนินการขอรับเงินสนับสนุนค่าบัตรโดยสารที่ www.เราเที่ยวด้วยกัน.com ตามขั้นตอนที่กำหนดไว้
2.โครงการ”กำลังใจ”สำหรับเจ้าหน้าที่อาสาสมัครสาธารณสุข (อสม.) และโรงพยาบาลส่งเสริมสุขภาพตำบล (รพ.สต.) จำนวน 1.2 ล้านคนผ่านบริษัทท่องเที่ยวไม่น้อยกว่า 2 วัน 1 คืน โดยสาธารณสุขจังหวัดจะรวบรวมรายชื่อผู้ที่ได้รับสิทธิส่งให้ ททท.ประสานไปยังบริษัทท่องเที่ยว