“แบงก์’อเมริกา” ชี้ทั่วโลกมี “คิวอี” จ่อเข้าอีก 3 ล้านล.-ลุ้นขาขึ้นต่อ แม้ PE พุ่งสูงลิบ!

ผู้สื่อข่าวรายงานว่า ในการประชุม Thailand Investment Conference 2020 ผ่านทางระบบออนไลน์วันนี้ (30 มิ.ย.63) ได้มีการให้ข้อมูลเกี่ยวกับตัวเลขเศรษฐกิจ และมุมมองต่อตลาดทุนหลายประเด็น โดยหนึ่งในประเด็นที่น่าสนใจคือมุมมองของนักวิเคราะห์ที่มีต่อตลาดทุนในทวีปเอเชีย และตลาดเกิดใหม่

โดย Ajay Singh Kapur นักกลยุทธ์ตลาดตราสารทุน ธนาคารแห่งอเมริกา หรือ BofA เปิดเผยมุมมองภาวะเศรษฐกิจและแนวโน้มการฟื้นตัวของตลาดตราสารทุนในตลาดเอเชีย และตลาดเกิดใหม่ ซึ่งจะต้องอาศัยปัจจัยขับเคลื่อนการเติบโตทั้งหมด 4 ด้าน ดังนี้

1. การควบคุมการแพร่ระบาดของเชื้อไวรัสโควิด-19 ของแต่ละประเทศทั่วโลก ซึ่งหากแต่ละประเทศสามารถควบคุมการแพร่ระบาดได้ดีจะเป็นตัวหนุนภาวะเศรษฐกิจทั่วโลกกลับมาฟื้นตัวได้อย่างรวดเร็ว
2. การใช้นโยบายการเงินแบบผ่อนคลายของธนาคารกลาง เพื่อเพิ่มสภาพคล่อง โดยธนาคารกลางหลายประเทศทั่วโลก ได้ปรับลดอัตราดอกเบี้ยนโยบายลงรับมือเศรษฐกิจชะลอตัวจากปัญหาการระบาดของโควิด-19 ซึ่งธนาคารจำนวน 33 แห่งจากทั้งหมด 34 ได้ใช้นโยบายไปในทิศทางเดียวกัน

ขณะที่งบดุลของ 6 ประเทศในกลุ่ม G6 ยังเห็นการเติบโตขึ้นอย่างรวดเร็ว ถึงแม้ภาครัฐบาลจะมีการเบิกจ่ายเงินไปแล้วกว่า 4 ล้านล้านดอลลาร์สหรัฐ อีกทั้งคาดการณ์ว่าจะมีแผนกระตุ้นเศรษฐกิจอีกจำนวน 3 ล้านล้านดอลลาร์สหรัฐในครึ่งปีหลังของปีนี้ ซึ่งจะเป็นตัวเสริมสภาพคล่องให้ภาคธุรกิจที่สูงขึ้น และจะเป็นตัวบ่งชี้ถึงพื้นฐานของบริษัท และตลาดตราสารทุนได้

3. บรรยากาศโดยรวมในการลงทุน (Sentiment) ยังอยู่ในระดับกลางถึงแม้จะมีสัดส่วนราคาหุ้นต่อกำไร (PER) ในระดับสูง แต่ยังเชื่อว่าส่วนต่างระหว่าง Earning Yield ของตลาดหุ้น เมื่อเทียบกับอัตราผลตอบแทนพันธบัตรรัฐบาลระยะยาวยังอยู่ในเกณฑ์ที่น่าสนใจ ขณะที่บรรยากาศโดยรวมในการลงทุนเริ่มคลี่คลาย และสภาพคล่องที่สูงขึ้นนั้น แสดงให้เห็นถึงความคาดหวังว่าจะมีปัจจัยบวกเข้ามา
4. การถือครองสินทรัพย์ที่มีมูลค่าในตลาดเอเชีย และตลาดเกิดใหม่เริ่มฟื้นตัว หลังจากมีการเพิ่มสภาพคล่องของธนาคาร ส่งผลให้มีการปรับประมาณการกำไรสุทธิในหลายๆ บริษัทขึ้น