ผู้ว่าการรัฐนิวยอร์ก เรียกร้อง “ทรัมป์” ออกคำสั่งปชช. สวมหน้ากากอนามัย หยุดยั้ง “โควิด”
"แอนดรูว์ คัวโม" ผู้ว่าการรัฐนิวยอร์ก เรียกร้องให้ "โดนัลด์ ทรัมป์" ประธานาธิบดีสหรัฐฯ ออกคำสั่งปชช. สวมหน้ากากอนามัย หยุดยั้ง "โควิด" ระบาด
สำนักข่าวซินหัว รายงานว่า เมื่อวันจันทร์ที่ 29 มิ.ย.ที่ผ่านมา แอนดรูว์ คัวโม (Andrew Cuomo) ผู้ว่าการรัฐนิวยอร์กของสหรัฐฯ เรียกร้องให้โดนัลด์ ทรัมป์ ประธานาธิบดีสหรัฐฯ ลงนามคำสั่งฝ่ายบริหารเพื่อกำหนดให้ประชาชนชาวสหรัฐฯ ทุกคนสวมหน้ากากอนามัยเมื่ออยู่ในสถานที่สาธารณะ เพื่อช่วยหยุดยั้งการแพร่ระบาดของโรคติดเชื้อไวรัสโคโรนาสายพันธุ์ใหม่ (โควิด-19)
“ประธานาธิบดีไม่จำเป็นต้องอนุมัติกฎหมายหรือเรียกประชุมสภาคองเกรส แค่ลงนามในคําสั่งฝ่ายบริหารกําหนดให้ประชาชนสวมหน้ากากอนามัยก็พอ” คัวโมกล่าวระหว่างการรายงานความคืบหน้าด้านการต่อสู้กับโรคโควิด-19 ของรัฐนิวยอร์ก
คัวโมระบุว่า นิวยอร์กบังคับให้ประชาชนปิดคลุมจมูกและปากมาตั้งแต่ 2 เดือนก่อน ซึ่งเห็นผลแล้วว่าช่วยลดการแพร่ระบาดได้จริง พร้อมกล่าวว่าทำเนียบขาวควรดำเนินการให้ประชาชนชาวสหรัฐฯ ตระหนักว่าภัยของโรคโควิด-19 เป็นเรื่องจริง และประธานาธิบดีควรสวมหน้ากากอนามัย “เป็นตัวอย่าง” ให้กับประชาชน
ผู้ว่าการรัฐระบุว่าปัจจุบันยอดผู้ป่วยโควิด-19 ที่เข้ารับการรักษาในโรงพยาบาลลดลงเหลือ 853 ราย และเมื่อวันอาทิตย์ (28 มิ.ย.) นิวยอร์กตรวจเชื้อให้ประชาชนรวม 46,428 ครั้ง โดยมีผู้ที่มีผลตรวจเชื้อเป็นบวก 391 ราย หรือคิดเป็นร้อยละ 0.84
ช่วงหนึ่งสัปดาห์ก่อนที่นิวยอร์กซิตีจะเข้าสู่ระยะที่ 3 ของการเปิดเมือง คัวโมกล่าวถึงความกังวลของเขาว่าการอนุญาตให้ร้านอาหารในอาคารและห้างสรรพสินค้ากลับมาเปิดทำการอีกครั้งในระยะที่ 3 นี้อาจทำให้ยอดผู้ติดเชื้อเพิ่มขึ้นอีก
คัวโมระบุว่าเขาจะหารือกับเจ้าหน้าที่รัฐท้องถิ่นและเจ้าของธุรกิจต่างๆ ให้ “พิจารณาเลื่อนการเปิดธุรกิจไปเป็นสัปดาห์หน้า”
ผู้ว่าการรัฐกล่าวว่านิวยอร์กซิตีเป็นเมืองที่มีความซับซ้อนกว่าพื้นที่อื่นๆ ในรัฐ และปัจจุบันพบ “สัญญาณน่าเป็นห่วง” แล้ว เช่น มีประชาชนรวมตัวกันเป็นจำนวนมากตามท้องถนน ซึ่งไม่เป็นผลดีต่อการหยุดยั้งการแพร่ระบาดของโรคโควิด-19
“ผมไม่อยากถอยหลังกลับไป ผมต้องการเดินไปข้างหน้า แต่เราต้องก้าวต่อไปอย่างระมัดระวัง” คัวโมกล่าวระหว่างให้สัมภาษณ์กับสถานีโทรทัศน์เอ็นวาย1 (NY1)