CFRESH บวกต่อ 11% ลุ้นปีนี้ยอดขายกระฉูด รับข่าวดีจีนระงับนำเข้ากุ้งเอกวาดอร์

ผู้สื่อข่าวรายงานว่า ราคาหุ้น บริษัท ซีเฟรชอินดัสตรี จำกัด (มหาชน) หรือ CFRESH ล่าสุด ณ เวลา 10.51 น. อยู่ที่ระดับ 2.94 บาท ปรับตัวขึ้น 0.28  บาท หรือ 10.53% ด้วยมูลค่าการซื้อขาย 25.79 ล้านบาท

ทั้งนี้ บล.เอเชีย เวลท์ ระบุในบทวิเคราะห์ โดย CFRESH คาดว่าธุรกิจกุ้งจะเริ่มฟื้นตัวในปี 2563 หลังจากเกิดการแข่งขันที่รุนแรงในช่วง 6-7 ปีที่ผ่านมา ซึ่งการแข่งขันดังกล่าวส่งผลให้บริษัทขนาดเล็กที่ไม่มีการบริหารการจัดการที่ดีไม่สามารถดำเนินธุรกิจต่อไปได้ ทำให้เหลือเพียงผู้ประกอบการรายใหญ่

ทั้งนี้บริษัทได้วางแผนการเติบโตของทั้งรายได้และกำไร โดยจะเน้นการเพิ่มการเลี้ยงกุ้ง ซึ่งเป็นธุรกิจต้นน้ำ รวมถึงพัฒนาระบบจัดการให้มีประสิทธิภาพมากขึ้น อาทิ การสร้างรูปแบบขายผ่านช่องทางออนไลน์ ซึ่งคาดว่าจะเริ่มดำเนินงานได้ในประเทศอังกฤษ นอกจากนี้บริษัทยังเน้นการบริหารต้นทุนให้ลดลง ทั้งระบบจัดการขนส่ง ช่องทาง จัดจำหน่าย รวมไปถึงการใช้เทคโนโลยีหุ่นยนต์ เข้ามาช่วยในระบบผลิต ซึ่งคาดว่าจะช่วยให้บริษัทมีผลการดำเนินงานในอนาคตที่ดีขึ้น

อย่างไรก็ตาม แม้ในช่วงสถานการณ์ระบาดของ COVID-19 จะส่งผลกระทบต่อรายได้จากการขายสินค้าสำหรับธุรกิจร้านอาหาร (Food Service) ซึ่งลดลง หลังจากมีการปิดเมือง ประกอบกับมาตรการ Social Distance ทำให้กำลังซื้อลดลง แต่ถูกชดเชยด้วยจำนวนของลูกค้ารายย่อย ซึ่งหันมาใช้ผลิตภัณฑ์ในช่วงเกิดการระบาด สะท้อนผ่านยอดขายในอังกฤษที่มีการเติบโตอย่างก้าวกระโดด ทำให้บริษัทประเมินว่าหลังสถานการณ์ การแพร่ระบาดคลี่คลายจะเกิดการเปลี่ยนแปลงของพฤติกรรม ซึ่งจะเน้นการสั่งซื้อผ่านช่องทางออนไลน์ ทำให้ในอนาคตคาดบริษัทจะรุกการจัดจำหน่ายในช่องทางดังกล่าวให้มากขึ้น

ขณะที่บริษัทมีกำไรสุทธิในไตรมาส 1/63 ที่ 35 ล้านบาท พลิกจากขาดทุนใน 1Q62 ที่ 66 ล้านบาท  ทั้งนี้หากไม่รวมกำไรจากอัตราแลกเปลี่ยนจำนวน 102 ล้านบาท จะทำให้บริษัทมีผลขาดทุนจำนวน 67 ล้านบาท (-2%YoY) อย่างไรก็ตามบริษัทมีรายได้ปรับตัวสูงขึ้น 9% จากช่วงเดียวกันเมื่อปีก่อน เป็น 1,232 ล้านบาท โดยรายได้ที่ปรับตัวสูงขึ้นเกิดจากรายได้ในยุโรป และสหรัฐฯ ปรับตัวดีขึ้น

ด้าน บล.เคทีบี (ประเทศไทย) ระบุในบทวิเคราะห์ฯแนะ”เพิ่มน้ำหนักลงทุน”กลุ่ม Food หลังมีข่าวผู้ส่งออกกุ้งไทยมองโอกาสเพิ่มหลังมีข่าวจีนระงับนำเข้ากุ้งเอกวาดอร์ หลังพบเชื้อโควิด-19 ฝ่ายวิจัยมีมุมมองเป็นบวก คาดส่งผลดีต่อผู้ประกอบการกุ้งไทยอย่าง บมจ.เอเชี่ยนซี คอร์ปอเรชั่น (ASIAN) (ซื้อ/ราคาเป้าหมาย 6.70 บาท), บมจ. ซีเฟรชอินดัสตรี (CFRESH) (No concensus), บมจ. เจริญโภคภัณฑ์อาหาร (CPF) (ซื้อ/ราคาเป้าหมาย 35.00 บาท), บมจ.ไทยยูเนี่ยน กรุ๊ป (TU) (ซื้อ/ราคาเป้าหมาย 16.00 บาท) โดยมีมุมมองเป็นบวก เนื่องจากเอกวาดอร์เป็นผู้ส่งออกกุ้งรายใหญ่ประมาณ 15% ของโลก ขณะที่สถานการณ์การระบาดของโควิด-19 ในเอกวาดอร์ค่อนข้างรุนแรง  การระงับการนำเข้าจากจีนอาจก่อให้เกิดความกังวลและอาจจะทำให้ประเทศอื่นระงับกุ้งจากเอกวาดอร์ด้วย คาดว่าจะเป็นโอกาสดีของประเทศผู้ผลิตและส่งออกกุ้งรายอื่น

ทั้งนี้ ผู้ประกอบการไทยยังส่งออกไปจีนไม่มากนักประมาณ 10% ของการส่งออกกุ้งทั้งหมด แต่มีแนวโน้มที่จะเพิ่มขึ้นในอนาคต โดยปัจจุบันผู้ประกอบการไทยมีการพัฒนาและปรับปรุงคุณภาพไปได้มากแล้ว โดยมีการปรับปรุงระบบชีวอนามัยที่ปลอดภัยขึ้นหลังจากประสบปัญหาโรค EMS เมื่อหลายปีก่อน จากการพัฒนาบ่อเลี้ยงและปรับสายพันธุ์ใหม่ที่มีความแข็งแรงทนทานต่อโรคได้มากขึ้น โดยผู้ประกอบการที่ได้ประโยชน์มากคือ CFRESH ชึ่งมีรายได้ส่วนใหญ่มาจากกุ้ง ขณะที่ ASIAN, CPF และ TU ซึ่งมีรายได้จากผลิตภัณฑ์กุ้งประมาณ 5 -15% จะได้ประโยชน์บางส่วน ทั้งนี้คาดเห็นการตอบรับ sentiment เชิงบวกต่อหุ้นกลุ่มดังกล่าว

อย่างไรก็ดี ชอบ CPF ซึ่งได้ประโยชน์จากค่าเงินบาท โอกาสส่งออกกุ้งมากขึ้น และราคาหมูในประเทศปรับตัวขึ้น ค่าเงินบาทมีการอ่อนตัวลงมาอยู่ที่ 31.46 บาทต่อดอลลาร์สหรัฐฯ จากเมื่อสิ้นไตรมาสก่อนที่ 30.89 บาทต่อดอลลาร์สหรัฐฯ โดย CPF ยังได้ประโยชน์จากราคาหมูที่ปรับตัวสูงขึ้นด้วยในวันนี้ที่ ราคา 78 บาทต่อกก.ด้วย จากไตรมาสก่อนที่ประมาณ 68 บาทต่อกก.เนื่องจากอุปทานที่น้อยและความต้องการจากภาคร้านอาหารและโรงแรมปรับตัวดีขึ้นด้วย ยังเน้นแนะนำ “ซื้อ” CPF ราคาเป้าหมาย 35.00 บาทอิง SOTP