SET บ่ายผวาต่อ! “บิ๊กตู่” สั่งห้ามเที่ยวบินเข้าไทย-ทบทวนผ่อนคลาย พร้อมย้ำ “การ์ดอย่าตก”
SET บ่ายผวาต่อ! “บิ๊กตู่” สั่งห้ามเที่ยวบินเข้าไทย-ทบทวนผ่อนคลาย พร้อมย้ำ “การ์ดอย่าตก”
พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี และ รมว.กลาโหม กล่าวว่า ในฐานะผู้อำนวยการ ศูนย์บริหารสถานการณ์โควิด-19 (ศบค.) ขอแสดงความรับผิดชอบต่อความผิดพลาดกรณีทหารอียิปต์และเด็กหญิงชาวซูดานติดเชื้อโควิด-19 โดยขณะนี้ได้สั่งการให้ระงับเที่ยวบินจากต่างประเทศไว้ก่อนจนกว่าจะหาแนวทางไม่ให้เกิดปัญหาในลักษณะเดียวกัน
พร้อมกันนั้น ยังสั่งการให้ ศบค.ทบทวนมาตรการผ่อนคลายในกรณีของชาวต่างชาติที่จะเดินทางเข้ามาในประเทศไทย และกำชับให้กิจการและกิจกรรมต่าง ๆ ที่ได้รับการผ่อนคลายให้เปิดทำการแล้วทั้งหมดเข้มงวดกับการปฏิบัติตามมาตรการด้านสาธารณสุขเพื่อไม่ให้การ์ดตก
ทั้งนี้ เป็นที่น่าจับตามองว่า ประเด็นดังกล่าวอาจกดดันให้ดัชนีตลาดหุ้นไทยช่วงบ่าย มีโอกาสปรับตัวลงต่อจากภาคเช้า โดย นายกรภัทร วรเชษฐ์ ผู้อำนวยการฝ่ายวิจัยและบริการการลงทุน-กลยุทธ์การลงทุน บล.โนมูระ พัฒนสิน กล่าวว่า ตลาดหุ้นไทยเช้านี้ผันผวนในเชิงลบ ตาม Sentiment จากต่างประเทศ โดยตลาดหุ้นในภูมิภาคเอเชียเช้านี้ส่วนใหญ่เคลื่อนไหวในแดนลบ ท่ามกลางความกังวลสถานการณ์การแพร่ระบาดไวรัสโควิด-19 ทั้งในไทย และสหรัฐฯ
นอกจากนี้ เงินบาทที่อ่อนค่าลงมาก็ทำให้ไปกดดัน Fund Flow ทำให้มีความเสี่ยงที่เงินจะไหลออก อย่างไรก็ดี ให้ติดตามการประชุมกลุ่มประเทศผู้ส่งออกน้ำมัน (โอเปก) และชาติพันธมิตร หรือโอเปกพลัสในวันพรุ่งนี้ ที่จะหารือกันในเรื่องการลดกำลังการผลิตน้ำมัน และติดตามการประชุมธนาคารกลางยุโรป (ECB) ในวันที่ 16 ก.ค.นี้ ส่วนคืนนี้ให้ติดตามการประกาศผลประกอบการของกลุ่มแบงก์ในสหรัฐฯ
สำหรับแนวโน้มการลงทุนในช่วงบ่ายนี้ คาดว่า ตลาดฯคงจะแกว่งไซด์เวย์ในทางพักฐานอยู่ พร้อมให้แนวรับ 1,326-1,320 จุด ส่วนแนวต้าน 1,345-1,350 จุด
ด้าน บล.ฟิลลิป (ประเทศไทย) คาดว่า ตลาดหุ้นไทยภาคบ่ายจะผันผวนออกข้างบวกสลับลบระหว่าง 1325 -1350 จุด โดยรวมตลาดยังคงถูกปกคลุมด้วยความกังวลเดิมๆ แต่ตอบรับไปบางส่วนแล้วในช่วงเช้า โดย ศบค.ได้มีมติทบทวนการผ่อนคลายมาตรการ State Quarantine ให้กับกลุ่มบุคคลพิเศษ รวมถึงให้กระทรวงต่างประเทศยกเลิกเที่ยวบินขาเข้าจากอียิปต์จำนวน 8 เที่ยวบินที่ได้อนุมัติไปก่อนหน้านี้
ส่วนสถานการณ์ COVID-19 ในต่างประเทศยังซ้ำเติมสินทรัพย์เสี่ยงต่อเนื่อง โดยหลายประเทศได้เพิ่มมาตรการคุมเข้มมากขึ้น อาทิ 1) บางรัฐในสหรัฐเริ่มสั่งปิดกิจกรรมทางเศรษฐกิจบางส่วน 2)ญี่ปุ่นพร้อมกลับมาประกาศใช้ภาวะฉุกเฉินอีกครั้งหากสถานการณ์ยังแย่ลง และ3)ฮ่องกงสั่งเพิ่มค่าปรับกรณีไม่ใส่หน้ากากอนามัยและจำกัดการรวมตัวในที่สาธารณะเหลือเพียง 4 ราย นอกจากนี้แล้วนักลงทุนบางส่วนยังอาจชะลอการลงทุนเพื่อรอคอยผลการประชุม OPEC ใน 1-2 วันนี้
อนึ่ง ดัชนีช่วงเช้าปิดที่ระดับ 1,336.47 จุด ลดลง 5.90 จุด หรือ 0.44% มูลค่าการซื้อขาย 3.32 หมื่นล้านบาท