ASIAN แรลลี่ยาว! พุ่งอีก 12% นิวไฮรอบเกือบ 2 ปี ลุ้นปีนี้กำไรโตทะลัก 253% ซื้อเป้า 10 บ.

ASIAN แรลลี่ยาว! พุ่งอีก 12% นิวไฮรอบเกือบ 2 ปี ลุ้นปีนี้กำไรโตทะลัก 253% ซื้อเป้า 10 บ.


ผู้สื่อข่าวรายงานว่า บริษัท เอเชี่ยนซี คอร์ปอเรชั่น จำกัด (มหาชน) หรือ ASIAN ณ เวลา 15.29 น. อยู่ที่ระดับ 9.60 บาท บวก1.00 บาท หรือ 11.63% ด้วยมูลค่าซื้อขาย 396.78 ล้านบาท ราคาหุ้นปรับตัวแรงในรอบ 1 ปี 9 เดือน โดยนับตั้งแต่หุ้นยืนที่ระดับ 9.65 บาท เมื่อวันที่ 1 ต.ค.61

 

บล.กสิกรไทย ระบุว่า ASIAN แนะนำ “ซื้อ” ราคาเป้าหมาย 10 บาท/หุ้น ผลิตภัณฑ์ที่มีอัตรากำไรสูงของ ASIAN มีสัดส่วนเพิ่มขึ้นจาก 50% ในปี 59 เป็น 80% ในไตรมาส 1 ส่งผลให้ GPM ปรับเพิ่มขึ้นเป็น 14% จาก 8%

ธุรกิจอาหารสัตว์เลี้ยงของ ASIAN เติบโตด้วย CAGR 50% ในช่วง 5 ปีที่ผ่านมา และเราคาดว่าจะเติบโตขึ้น 24%/10%/10% ในปี 63-65

เริ่มต้นบทวิเคราะห์ด้วยคำแนะนำ “ซื้อ” ราคาเป้าหมายที่ 10 บาท/หุ้น คาดว่ากำไรของ ASIAN ในปี 63 จะพุ่งขึ้น 253% เทียบช่วงเดียวกันของปีก่อน จากธุรกิจอาหารสัตว์เลี้ยงที่เติบโตขึ้น

 

บล.กรุงศรี จำกัด (มหาชน) ระบุว่า กลยุทธ์การลงทุน: Selective Buy (1.) กลุ่มอาหาร (TU CPF GFPT TFG ASIAN) และ กลุ่มอิเล็ค (KCE DELTA HANA SVI) ได้อานิสงส์เงินบาทอ่อนค่าลง (2.) กลุ่มที่คาดว่างบ 2Q20 จะเติบโตขึ้น  (TOP PTTGC SPRC SCC BGRIM CKP CPF TU TASCO STA STGT SPALI PRM PTL AJ STARK CBG TQM)

 

ด้านนางสาววรัญรัชต์ อัสสานุพงศ์ ผู้จัดการฝ่ายการเงินและนักลงทุนสัมพันธ์ บริษัท เอเชี่ยนซี คอร์ปอเรชั่น จำกัด (มหาชน) หรือ ASIAN เปิดเผยว่า บริษัทคงเป้ารายได้ปีนี้จะเติบโตตามเป้าหมายที่วางไว้ 10% จากระดับ 8.33 พันล้านบาทในปีก่อน แม้ว่าสินค้าบางกลุ่มของบริษัทอาจจะได้รับผลกระทบจากสถานการณ์การแพร่ระบาดของเชื้อไวรัสโควิด-19 ทำให้ยอดขายลดลง แต่ยังมีสินค้าบางกลุ่มที่มียอดขายขึ้นมาทดแทน อาทิ กลุ่มอาหารสัตว์เลี้ยง และอาหารกลุ่ม Pre-fried หรือ กลุ่มของทอด ที่ในช่วงของการใช้มาตรการล็อกดาวน์ เพื่อสกัดการแพร่ระบาดทำให้ประชาชนทำงานที่บ้าน (Work from Home) ส่งผลให้ส่วนใหญ่หันมาทำอาหารทานเองที่บ้าน และให้อาหารสัตว์มากขึ้นด้วย

ปัจจุบันสัดส่วนรายได้ของบริษัทมาจากตลาดสหรัฐ 35% กลุ่มสหภาพยุโรป 30% ประเทศไทย 15% ประเทศญี่ปุ่น 10% และอื่น ๆ 10% โดยกลุ่มประเทศหลักยังคงออกมาใช้ชีวิตตามปกติ เพราะมองว่าโควิด-19 เป็นเพียงโรคชนิดหนึ่ง จึงไม่ได้ตื่นตระหนกกับสถานการณ์การแพร่ระบาดที่เกิดขึ้นมากนัก ขณะที่บางส่วนอาจปรับมาทำงานแบบ Work from Home ก็จะหันมาทำอาหารเองที่บ้านมากขึ้น จึงยังเป็นปัจจัยหนุนยอดขายสินค้าของบริษัทในช่วงที่ผ่านมา และมองว่ายังจะหนุนการเติบโตในช่วงที่เหลือของปีนี้ด้วย

นางสาววรัญรัชต์ กล่าวอีกว่า ส่วนกรณีที่มีข่าวจีนระงับนำเข้ากุ้งแช่แข็งจากเอกวาดอร์ หลังพบเชื้อโควิด-19 นั้น ขณะนี้ยังไม่สามารถระบุได้ว่าบริษัทจะได้รับประโยชน์หรือไม่ เนื่องจากในช่วงที่ผ่านมาบริษัทได้ปรับลดการผลิตและจำหน่ายผลิตภัณฑ์กลุ่มแช่เยือกแข็งจากกุ้งต้มไปแล้ว ขณะเดียวกันสัดส่วนของตลาดจีนก็ยังอยู่ในระดับที่ค่อนข้างน้อยด้วย

ส่วนมาตรการของบริษัทในช่วงของการแพร่ระบาดของเชื้อไวรัสโควิด-19 คือการดูแลควบคุมให้บริษัทสามารถเดินเครื่องการผลิตได้ตามปกติไม่หยุดชะงัก พร้อมกับการห้ามพนักงานเดินทางไปยังพื้นที่เสี่ยง และการดูแลเรื่องความปลอดภัยในโรงงาน ซึ่งได้รับความร่วมมือที่ดีจากพนักงาน และปัจจุบันก็ยังมีการดูแลอย่างเข้มงวดแม้ว่าสถานการณ์จะคลี่คลายแล้วก็ตาม

Back to top button