“นายกฯ” ลุยจัดทีมศก. ก่อนเคาะภาพรวมปรับ ครม.-“พปชร.” ส่อเค้าป่วน ทวงเก้าอี้ รมต.ฝุ่นตลบ
“พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา" นายกรัฐมนตรี ลุยจัดทีมศก. ก่อนเคาะภาพรวมปรับ ครม. ขณะที่บรรยากาศภายในพรรค “พปชร.” ส่อเค้าป่วน หลังแกนนำกลุ่มต่างๆ เริ่มกดดันทวงเก้าอี้ รมต.ฝุ่นตลบ
รายงานข่าวจากแกนนำรัฐบาล เปิดเผยว่า พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี อยู่ระหว่างการพิจารณาปรับคณะรัฐมนตรี (ครม.) ฝ่ายเศรษฐกิจในส่วนของคนนอกที่จะดึงเข้ามาช่วยงานให้ลงตัวก่อนพิจารณาปรับในเก้าอี้อื่น ๆ หลังจากที่มีการเปิดชื่อของนายปรีดี ดาวฉาย กรรมการผู้จัดการ ธนาคารกสิกรไทย (KBANK) และประธานสมาคมธนาคารไทย ออกมาแล้ว ซึ่งมีรายงานว่าบ่ายวันนี้นายกรัฐมนตรีจะหารือกับนายปรีดีเป็นการส่วนตัว
ขณะที่เกิดกระแสกดดันอย่างหนักในการทวงเก้าอี้รัฐมนตรีในกระทรวงสำคัญต่างๆ จากภายในพรรคพลังประชารัฐ โดยเฉพาะเก้าอี้สำคัญอย่าง รัฐมนตรีว่าการการะทรวงพลังงาน ที่กลุ่มสามมิตรพยายามออกแรงผลักดันให้นายสุริยะ จึงรุ่งเรืองกิจ รมว.อุตสาหกรรม โยกมารับตำแหน่งแทนนายสนธิรัตน์ สนธิจิรวงศ์ และให้นายอนุชา นาคาศัย เลขาธิการพรรค ไปรับตำแหน่ง รมว.อุตสาหกรรมแทน ด้วยการเสนอผ่านที่ประชุมพรรคในวันที่ 21 ก.ค.นี้ โดยหวังจะให้พล.อ.ประวิตร วงษ์สุวรรณ หัวหน้าพรรคนำเสนอต่อนายกรัฐมนตรี โดยอ้างเป็นโควตาพรรคและเป็นสัญญาใจที่เคยให้กันไว้
พร้อมกันนั้น กลุ่ม กปปส.ในพรรค พปชร.เริ่มเคลื่อนไหวทวงเก้าอี้ รมว.พลังงาน ให้นายณัฏฐพล ทีปสุวรรณ รมว.ศึกษาธิการเช่นกัน โดยใช้ข้ออ้างเรื่องสัญญาใจที่พล.อ.ประวิตรให้ไว้เช่นเดียวกัน ส่วนนายพุทธิพงษ์ ปุณณกันต์ รมว.กระทรวงดิจิทัลเพื่อเศรษฐกิจและสังคม หรือดีอีเอส เป็นที่แน่นอนแล้วว่าจะหลุดจาก ครม.ในคราวนึ้ และกำลังหาคนเหมาะสมมาทำงานแทน ซึ่งมีส.ส.บางกลุ่มในพรรคปล่อยข่าวว่านายฐากร ตัณฑสิทธิ์ อดีตเลขาธิการกสทช.เหมาะกับการทำงานที่กระทรวงดีอีเอส ขณะที่อีกกระแสข่าวระบุว่านายฐากรต้องการไปเป็นบอร์ดแห่งหนึ่งมากกว่า
ทั้งนี้ แหล่งข่าวจากพรรคพลังประชารัฐ กล่าวว่า การที่กลุ่มต่างๆ ในพรรคอ้างสัญญาใจที่พล.อ.ประวิตรให้ไว้นั้น ไม่ใช่เรื่องจริง เพราะตั้งแต่การตั้งครม.ประยุทธ์ 2/1 จนถึงการเตรียมปรับ ครม.ในรอบนี้ พล.อ.ประวิตรไม่เคยรับปากกลุ่มใดว่าใครจะไปทำงานในกระทรวงใดบ้าง มีแต่กลุ่มต่างๆ อ้างชื่อ พล.อ.ประวิตรเท่านั้น
ส่วนการลาออกของนายเทวัญ ลิปตพัลลภ แกนนำพรรคชาติพัฒนา จากตำแหน่ง รมต.สำนักนายกรัฐมนตรีโดยให้เหตุผลเพื่อให้การปรับ ครม.ง่ายขึ้นนั้น คาดว่านายเทวัญน่าจะได้รับการแต่งตั้งให้เป็นที่ปรึกษานายกรัฐมนตรี ขณะที่โควตานี้แกนนำหลายคนในพรรคพลังประชารัฐพยายามจะขอไปเป็น รมต.สำนักนายกฯ เพื่อไปดูแลกองทุนหมู่บ้านฯ เพื่อใช้เป็นหลักในการหาเสียงให้พรรคพลังประชารัฐ
ด้านพล.อ.ประวิตร วงษ์สุวรรณ รองนายกรัฐมนตรี ในฐานะหัวหน้าพรรคพลังประชารัฐ (พปชร.) ปฏิเสธว่าไม่ได้มีสัญญาใจกับนายสุริยะ จึงรุ่งเรืองกิจ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงอุตสาหกรรม ตั้งแต่ก่อนการเข้าร่วมรัฐบาลในเรื่องของตำแหน่ง รมว.พลังงาน พร้อมปฏิเสธที่จะแสดงความคิดเห็นกรณีที่นายไพบูลย์ นิติตะวัน รองหัวหน้าพรรคพปชร. ระบุว่า ตำแหน่ง รมว.พลังงานจะต้องเป็นโควต้าของพรรค พปชร.เท่านั้น โดยย้ำว่าขึ้นอยู่กับนายกรัฐมนตรี
ส่วนนางนฤมล ภิญโญสินวัฒน์ โฆษกประจำสำนักนายกรัฐมนตรี จะได้เป็นรัฐมนตรีในการปรับ ครม.ครั้งนี้หรือไม่ พล.อ.ประวิตร ไม่ยอมตอบคำถามเพียงแต่ส่ายศรีษะ
ทั้งนี้ พล.อ.ประวิตร ยืนยันว่าการปรับคณะรัฐมนตรี (ครม.) เป็นเรื่องของนายกรัฐมนตรีที่จะพิจารณาตัดสินใจเพียงคนเดียวว่ารัฐมนตรีคนใดจะทำงานต่อหรือจะพ้นจากตำแหน่ง ส่วนการห้ามปรามสมาชิกพรรคไม่ให้เคลื่อนไหวหรือไม่นั้น เมื่ออำนาจการปรับ ครม.เป็นของนายกรัฐมนตรีก็คงไม่มีปัญหาอะไร
สำหรับการลาออกจากตำแหน่ง รมต.ประจำสำนักนายกรัฐมนตรีของนายเทวัญ ลิปตพัลลภ หัวหน้าพรรคชาติพัฒนานั้น พล.อ.ประวิตร กล่าวว่า ไม่มีผลต่อการปรับ ครม.จะเกิดขึ้นช้าหรือเร็วอยู่ที่นายกรัฐมนตรี ไม่ได้ขึ้นอยู่กับการลาออกของรัฐมนตรี เพราะหากมีการลาออกก็จะมีผู้ปฏิบัติหน้าที่แทนได้ เช่น ปลัดกระทรวง รัฐมนตรีช่วยฯ