“ศักดิ์สยาม” ดิ้นสู้ “ค่าโง่โฮปเวลล์” งัดหลักฐานใหม่ จดทะเบียนโดยมิชอบ ยื่นศาลใน 90 วัน

นายศักดิ์สยาม ชิดชอบ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงคมนาคม เปิดเผยกรณีที่ศาลปกครองสูงสุดได้มีคำวินิจฉัยไม่รับคำร้องของกระทรวงคมนาคม และการรถไฟแห่งประเทศไทย (รฟท.) ขอให้พิจารณาคดีโฮปเวลล์ใหม่ว่า ขณะนี้ รฟท.ยังไม่รายงานมาที่กระทรวงคมนาคมอย่างเป็นทางการ ซึ่งจากที่ได้หารือกับฝ่ายกฎหมายเพื่อศึกษาเพื่อหาวิธีการที่จะสามารถดำเนินการได้อีกหรือไม่ โดยพบว่ายังมีกระบวนที่จะดำเนินการได้ภายในเวลาไม่เกิน 90 วัน

ทั้งนี้ แม้ว่าประเด็นตามคำสั่งของศาลปกครองสูงสุดวินิจฉัยถือว่าถึงที่สุดแล้ว แต่หากมีข้อเท็จจริงอื่นที่อาจร้องขอพิจารณาคดีใหม่ได้ตามมาตรา 75 แห่ง พ.ร.บ.จัดตั้งศาลปกครองและวิธีพิจารณาคดีปกครอง พ.ศ. 2542 ฝ่ายรัฐอาจยื่นคำร้องต่อศาลปกครองชั้นต้นได้ โดยต้องกระทำภายใน 90 วันนับแต่วันที่รู้หรือควรรู้ถึงเหตุนั้น แต่ต้องไม่เกิน 5 ปีนับแต่วันที่อ่านคำพิพากษาของศาลปกครองสูงสุด

นายศักดิ์สยาม กล่าวว่า ขณะนี้มีข้อมูลใหม่ในเรื่องความไม่สมบูรณ์ของการจดทะเบียนบริษัทโฮปเวลล์  ซึ่ง รฟท.ได้มอบหมายให้ทนายความยื่นดำเนินการทางแพ่ง เพราะหากการจดทะเบียนจัดตังบริษัทไม่สมบูรณ์จะทำให้การทำนิติกรรมสัญญาอาจไม่ชอบ

  “เรื่องนี้เป็นเรื่องเก่าก่อนที่ผมจะมารับตำแหน่ง  เมื่อได้มีข้อมูลใหม่ที่ไม่ได้อยู่ในสำนวนเดิม ก็ไปดำเนินการ จึงขอเวลาให้ฝ่ายกฎหมายได้ทำหน้าที่ก่อน  ซึ่งมีการชะลอการบังคับคดีอยู่ ทำให้การจ่ายเงิน ยังชะลออยู่ ผมยืนยันว่า เราจะทำให้ครบทุกช่องทาง เพราะเรื่องนี้มีค่าชดเชยเป็นเงินกว่า 2 หมื่นล้านบาทหากทำไป ครบถ้วน หมดแล้ว คำวินิจฉัยออกมาเป็นอย่างไร ก็เป็นไปตามนั้น” นายศักดิ์สยาม ระบุ

สำหรับคดีทางอาญาจะดำเนินการด้วย โดยส่งเรื่องให้กรมสอบสวนคดีพิเศษ(ดีเอสไอ) และ สำนักงานคณะกรรมการป้องกันและปราบปรามการทุจริตแห่งชาติ(ปปช.)  ดำเนินการตามขั้นตอน ตอนนี้ถือว่าเรายังมีเวลาในการและผมจะทำหน้าที่ให้ดีที่สุดในการรักษาผลประโยชน์ของประเทศและประชาชน

ด้านพล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี และรมว.กลาโหม กล่าวถึงกรณีดังกล่าวว่า เพิ่งทราบคำตัดสินของศาล ซึ่งได้มอบหมายให้กระทรวงคมนาคมแก้ปัญหาในเรื่องนี้แล้ว โดยคดีนี้เกิดขึ้นมานาน ซึ่งที่ผ่านมารัฐบาลก็พยายามอย่างเต็มที่ และต้องยอมรับคำตัดสินของศาล และไม่อยากไปโทษใคร ส่วนเงินชดเชยที่ต้องจ่ายให้กับบริษัท โฮปเวลล์นั้น นายกรัฐมนตรี กล่าวว่า ต้องไปหาทางก่อน ก็มอบหมายให้กระทรวงคมนาคมดำเนินการอยู่