“ทรัมป์” เสนอเลื่อนเลือกตั้ง ปธน.สหรัฐฯ ชี้ช่องโหว่ โหวตทางไปรษณีย์ “ไม่แม่นยำ-เสี่ยงโกง”
“ทรัมป์” เสนอเลื่อนเลือกตั้ง ปธน.สหรัฐฯ ชี้ช่องโหว่ โหวตทางไปรษณีย์ “ไม่แม่นยำ-เสี่ยงโกง”
โดนัลด์ ทรัมป์ ประธานาธิบดีสหรัฐฯ ทวีตข้อความเสนอเลื่อนการเลือกตั้งประธานาธิบดีในเดือนพฤศจิกายน โดยอ้างว่า “การลงคะแนนเสียงผ่านทางไปรษณีย์” จะทำให้ผลการเลือกตั้งปี 2020 นั้น “ไม่แม่นยำและมีการโกงมากที่สุด” ในประวัติศาสตร์ ซึ่งจะเป็นเรื่องที่น่าขายหน้าอย่างยิ่งสำหรับสหรัฐฯ พร้อมย้ำว่า จะดีกว่าหรือไม่ หากเลื่อนการเลือกตั้งออกไปจนกว่าประชาชนจะสามารถลงคะแนนได้อย่างเหมาะสมและปลอดภัย
โดยการทวีตข้อความข้างต้นของทรัมป์ คือวันเดียวกับที่กระทรวงพาณิชย์สหรัฐฯ รายงานการหดตัวทางเศรษฐกิจของประเทศในไตรมาสที่สอง ที่มากถึงร้อยละ 32.9 โดยข้อความของทรัมป์ก่อให้เกิดคำถามและกระแสกดดันจากพรรคการเมืองทั้งสองทันที
อย่างไรก็ตาม ทอม ยูดอลล์ สมาชิกวุฒิสภาสังกัดพรรคเดโมแครตจากรัฐนิวเม็กซิโก ได้ทวีตว่า ทรัมป์ไม่สามารถชะลอการเลือกตั้งออกไปได้ พร้อมระบุว่า ประธานาธิบดีทรัมป์พยายามเบี่ยงเบนความสนใจของประชาชนออกไปจากประเด็นการรับมือกับการระบาดใหญ่ ขณะที่ลินด์ซีย์ แกรม สมาชิกวุฒิสภาสังกัดพรรครีพับลิกันจากรัฐเซาธ์แคโรไลนา เผยกับผู้สื่อข่าว ณ อาคารรัฐสภาว่าตนคิดว่านี่ไม่ใช่ความคิดที่ดีนัก
ทั้งนี้ รัฐธรรมนูญสหรัฐฯ ระบุไว้ว่าสภาคองเกรส “มีอำนาจกำหนดเวลาในการคัดเลือกสมาชิกคณะผู้เลือกตั้งและวันลงคะแนนเสียง ซึ่งจะเป็นวันเดียวกันทั่วทั้งประเทศ”
นับตั้งแต่ปี 1845 รัฐสภาสหรัฐฯ กำหนดให้การแต่งตั้งคณะผู้เลือกตั้ง (presidential electors) มีขึ้นในวันอังคารถัดจากวันจันทร์แรกของเดือนพฤศจิกายน ซึ่งในปีนี้ตรงกับวันที่ 3 พ.ย.
รายงานจากสำนักข่าวซินหัว เปิดเผยว่า การเคลื่อนไหวของทรัมป์เมื่อวันพฤหัสบดีที่ผ่านมา (30 ก.ค.) เป็นการกล่าวหาครั้งล่าสุดที่เขามีต่อการลงคะแนนเสียงทางไปรษณีย์ว่าจะนำไปสู่การฉ้อโกงอย่างแพร่หลาย หลังหลายรัฐขยายช่องทางการลงคะแนนผ่านทางไปรษณีย์ สืบเนื่องจากการระบาดของโรคติดเชื้อไวรัสโคโรนาสายพันธุ์ใหม่ (โควิด-19) ซึ่งส่งผลให้มีผู้ติดเชื้อในสหรัฐฯ แล้วมากกว่า 4.4 ล้านราย และคร่าชีวิตประชาชนแล้วราว 150,000 ราย
ขณะที่ผลสำรวจแห่งชาติ เผยว่า คะแนนความนิยมของทรัมป์กำลังไล่ตามหลังอดีตประธานาธิบดีโจ ไบเดน คู่แข่งจากพรรคเดโมแครตในศึกเลือกตั้งปี 2020
โดยค่าเฉลี่ยจากเรียลเคลียร์โพลิติกส์ (RealClearPolitics) ผลสำรวจระดับประเทศ ระบุว่า ไบเดนกวาดคะแนนไปร้อยละ 50.1 ส่วนทรัมป์ตามมาด้วยคะแนนร้อยละ 41.9 เมื่อนับถึงวันพฤหัสบดี (30 ก.ค.) ส่วนผลสำรวจในสนามการต่อสู้ที่สำคัญ อาทิ วิสคอนซิน มิชิแกน เพนซิลเวเนีย ฟลอริดา และแอริโซนา ล้วนเผยว่า ไบเดนนำหน้าทรัมป์อยู่หลายแต้ม
อนึ่ง ทรัมป์มักกล่าวว่าผลสำรวจที่รายงานว่าเขามีคะแนนตามหลังไบเดนนั้นไม่ใช่ของจริง