MAJOR ลบ 1.56% คาดรายได้โรงหนังหด 10% ใน Q3/58 หลังบึ้มราชประสงค์
MAJOR ลบ 1.56% คาดรายได้โรงหนังหด 10% ใน Q3/58 หลังบึ้มราชประสงค์
ผู้สื่อข่าวรายงานว่า บริษัท เมเจอร์ ซีนีเพล็กซ์ กรุ้ป จำกัด (มหาชน) หรือ MAJOR ณ เวลา 10.59 น. อยู่ที่ระดับ 31.50 บาท ลบ 0.50 บาท หรือ 1.56% ด้วยมูลค่าซื้อขาย 14.22 ล้านบาท
บล.เอเชีย พลัส ระบุในบทวิเคราะห์ฯวันนี้ (19 ส.ค.) ว่า เหตุระเบิดนอกจากกระทบกลุ่มท่องเที่ยว แล้วยังกระทบธุรกิจอื่น อย่างโรงภาพยนตร์ เช่นกัน เหตุระเบิดที่บริเวณสี่แยกราชประสงค์ ในวันจันทร์ ที่ 17 ส.ค. ที่ผ่านมา ส่งผลกระทบให้ห้างสยามพารากอน ปิดเร็วขึ้นเป็น 21.00 น. และโรงภาพยนตร์ของ บมจ.เมเจอร์ ซีนีเพล็กซ์ กรุ้ป(MAJOR) ในห้างดังกล่าวฉายภาพยนต์รอบดึกสุดของสาขาดังกล่าวจะสิ้นสุดในเวลา 20.30 น. แทนเดิมสิ้นสุด 00.30 น.
ทั้งนี้ เนื่องจากห้างดังกล่าวอยู่ใกล้ที่เกิดเหตุ คือสี่แยกราชประสงค์ ทำให้มีผู้มาใช้บริการในห้างดังกล่าวลดลงอย่างมีนัยสำคัญ รวมถึงผู้ที่มาชมภาพยนตร์ในโรงภาพยนตร์พารากอนซีนิเพล็กซ์ทั้ง 14 โรงที่ลดลงอย่างมีนัยสำคัญ อีกทั้งจำนวนรอบฉายหนังในโรงภาพยนต์ในสาขาดังกล่าวยังลดลงจากเดิมกว่า 10 รอบต่อวัน ทั้งนี้ รายได้จากสาขาพารากอนคิดเป็น 7% ของรายได้ธุรกิจโรงภาพยนต์ของ MAJOR ในขณะที่โรงภาพยนตร์สาขาอื่นยังให้บริการปกติ แต่มีความเสี่ยงที่สาขาอื่นๆในใจกลางเมือง อาทิ สาขาที่ Emquartier อาจได้ผลกระทบผู้ชมภาพยนตร์ลดลงกว่าปกติ เนื่องจากเป็นย่านกลางใจเมือง ที่มีโอกาสเป็นพื้นที่เสี่ยง ต่อการก่อเหตุการณ์รุนแรง
ฝ่ายวิจัยประเมินผลกระทบหากรายได้ธุรกิจโรงภาพยนตร์ในงวด 3Q58 ลดลงจากที่คาด 10% เพียงไตรมาสเดียว จะทำให้กำไรปกติปีนี้ลดลง 2.21%จากประมาณการที่ 1,207 ล้านบาท และทำให้มูลค่าพื้นฐานอิงวิธี DCF ลดลง 0.40 บาท แต่หากเกิดเหตุการณ์รุนแรงและยืดเยื้อไปถึงสิ้นปี ส่งผลให้มูลค่าพื้นฐานหุ้นปีนี้มีโอกาสลดลงราว 1-2 บาท ต่อหุ้น ด้วยข่าว Sentiment เชิงลบ ดังกล่าว จึงแนะนำให้หลีกเลี่ยงการลงทุนไปก่อน เพื่อรอดูสถานการณ์ แม้ยังคงคำนะนำ”ถือ”