THAI-NOK ควงแขนวิ่งสนั่น! ปิดตลาดฯราคาชนซิลลิ่ง

ผู้สื่อข่าวรายงานว่า ราคาหุ้น บริษัท การบินไทย จำกัด (มหาชน) หรือ THAI ปิดตลาดวันนี้ที่ระดับ 3.88 บาท ปรับตัวขึ้น 0.50 บาท หรือ 14.79% ด้วยมูลค่าซื้อขาย 32.33 ล้านบาท

อีกทั้ง ราคาหุ้นบริษัท สายการบินนกแอร์ จำกัด (มหาชน) หรือ NOK ปิดตลาดวันนี้ที่ระดับ 0.73 บาท ปรับตัวขึ้น 0.09 บาท หรือ 14.06% ด้วยมูลค่าซื้อขาย 3.72 ล้านบาท

ทั้งนี้ ปัจจัยที่คาดว่าส่งผลให้ราคาหุ้น THAI ปรับตัวขึ้นแรงวันนี้ มาจากการรายงานข่าว นายชาญศิลป์ ตรีนุชกร รักษาการแทนกรรมการผู้อำนวยการใหญ่ THAI เปิดเผยว่า ตนคาดว่าเจ้าหนี้ทั้งต่างประเทศและในประเทศส่วนใหญ่ราว 70-80% ของจำนวนรายเจ้าหนี้ จะเห็นด้วยกับการที่บริษัทจะจัดทำแผนฟื้นฟูกิจการ

อีกทั้งยังมีความมั่นใจจะใช้เวลา 3-5 ปีในการพลิกฟื้นกิจการ THAI ให้กลับมาได้ เพราะธุรกิจของ THAI ยังมีข้อได้เปรียบอยู่มาก และมีจุดแข็งของแบรนด์ที่มีชื่อเสียงในตลาดโลกติด 1 ใน 10 สายการบินที่ดีที่สุดในโลก ขณะเดียวกันบริษัทได้ตัดค่าใช้จ่ายที่ไม่จำเป็น และหารายได้เพิ่มในธุรกิจที่มีความถนัด อาทิ ครัวการบิน ขนส่งสินค้า (คาร์โก้) ทำให้มีสภาพคล่องเพียงพอกับการดำเนินธุรกิจในปัจจุบันที่ทำการบินบางเส้นทางในลักษณะเที่ยวบินพิเศษ

นายชาญศิลป์ กล่าวอีกว่า ในวันที่ 17 ส.ค.นี้ศาลได้นัดไต่สวนคำร้องแผนฟื้นฟูที่จะพิจารณาเหตุผลการเข้าฟื้นฟูจากการมีหนี้สินล้นพ้นตัว แนวทางการฟื้นธุรกิจ และผู้บริหารแผนทั้ง 6 รายมีความน่าเชื่อถือ เป็นที่รู้จักผลงานที่ผ่านมา โดยย้ำว่าธุรกิจการบินไทยถูกกระทบจากภายนอก ทั้งจากสงครามการค้าระหว่างสหรัฐกับจีน การเกิดโรคระบาดไวรัสโควิด-19 ส่วนใหญ่มีสาเหตุจากปัจจัยภายนอก

ส่วนกระบวนการยื่นขอรับชำระหนี้ที่จะเกิดขึ้นหลังจากศาลมีคำสั่งให้บริษัทเข้าสู่การฟื้นฟูกิจการ ซึ่ง THAI ได้ประสานงานกับหน่วยงานที่เกี่ยวข้องในทุกภาคส่วน ซึ่งรวมถึงกรมบังคับคดี เพื่อเตรียมความพร้อมในการอำนวยความสะดวกแก่เจ้าหนี้ในการยื่นคำขอรับชำระหนี้ให้ได้มากที่สุด ซึ่งในวันนัดไต่สวนคำร้อง 17 ส.ค.นี้ บริษัทได้เตรียมความพร้อมและดำเนินการรวบรวมข้อมูลที่จำเป็นทั้งหมดเพื่อนำเสนอต่อศาลล้มละลายกลางอย่างเต็มที่

“หลังวันที่ 17 ส.ค.ที่ศาลให้เราทำแผนฟื้นฟูฯ จะลงราชกิจจานุเบกษาให้เจ้าหนี้มายืนยันภายในไม่เกิน 3 เดือนจะยื่นแผนฟื้นฟู ถ้าได้รับอนุมัติเราจะสามารถปรับโครงสร้างผู้ถือหุ้น ก็เหมือนที่เคยดูธุรกิจ IRPC” นายชาญศิลป์  กล่าว

ด้าน นายกิจพณ ไพรไพศาลกิจ ผู้อำนวยการฝ่ายวิเคราะห์และนักกลยุทธ์ บล.ยูโอบี เคย์เฮียน (ประเทศไทย) กล่าวว่า การที่นักลงทุนเข้ามาเก็งกำไรหุ้นธุรกิจการบินที่กำลังจะเข้าสู่กระบวนการฟื้นฟูกิจการ อย่างหุ้นบมจ.การบินไทย (THAI) และบมจ.สายการบินนกแอร์ (NOK) ในช่วงนี้อาจจะยังเผชิญความเสี่ยงในอนาคตจากแผนฟื้นฟูกิจการที่ส่วนใหญ่มักจะมีการลดทุน หรือการปรับโครงสร้างต่าง ๆ ก็อาจจะส่งผลกระทบต่อผู้ถือหุ้นเดิมที่ถือหุ้นอยู่ก่อนที่จะเข้าสู่กระบวนการฟื้นฟูกิจการ เพราะอาจจะทำให้มีมูลค่าหุ้นที่ลดลง

“นักลงทุนอาจจะเข้ามาเก็งกำไรเพราะช่วงที่ตลาดปรับลงมาเยอะ และการบินไทยก็จะมีการลดค่าใช้จ่ายและคาดหวังเรื่องการกลับมาบินได้ แต่ภาพรวมธุรกิจการบินอย่างการบินไทยที่จะต้องเข้าแผนฟื้นฟู การปรับโครงสร้างต่าง ๆ ส่วนใหญ่คนที่จะได้รับผลกระทบคือผู้ถือหุ้นเดิมที่ถือหุ้นอยู่ก่อนเข้าแผนฟื้นฟู ทำให้ยังไม่แนะเก็งกำไรช่วงนี้ ภาพประเด็นการเก็งกำไรจากแผนฟื้นฟูอาจจะไม่คุ้มกับความเสี่ยงที่อาจจะเกิดขึ้น” นายกิจพณ กล่าว

ทั้งนี้ THAI และ NOK ได้ยื่นค้ำร้องขอฟื้นฟูกิจการของบริษัทต่อศาลล้มละลายกลางหลังธุรกิจการบินเผชิญกับสถานการณ์โควิด-19 ส่งผลรกะทบต่อการดำเนินธุรกิจ โดยศาลล้มละลายได้รับคำร้องของทั้งสองบริษัทไว้พิจารณาและนัดไต่สวนคำร้องในวันที่ 17 ส.ค.63 และ 27 ต.ค.63 ตามลำดับ