“นิตินัย” แจง 2 ปมร้อน! AOT เอื้อประโยชน์ “คิงเพาเวอร์” – ปรับแผนไม่ผ่านมติผถห.
“นิตินัย” แจง 2 ปมร้อน! เอื้อประโยชน์ “คิงเพาเวอร์” - ปรับแผนไม่ผ่านมติผถห.
นายนิตินัย ศิริสมรรถการ ผู้อำนวยการใหญ่ บริษัท ท่าอากาศยานไทย จำกัด (มหาชน) หรือ AOT เปิดเผยผ่านรายการ “ข่าวหุ้นธุรกิจ” เฉพาะกิจ วันนี้ (6 ส.ค.63) ถึงกรณีการปรับลดค่าสัมปทานในส่วนของงานพื้นที่เชิงพาณิชย์ และงานกิจการสินค้าปลอดอากร หรือ ดิวตี้ฟรี แก่บริษัท “คิงเพาเวอร์” โดยระบุว่าเงื่อนไขในการเยียวยาผู้ประกอบการดังกล่าวนั้น เป็นมาตรการที่ใช้กับผู้ประกอบการเอกชนทุกราย ไม่ใช่คิงเพาเวอร์เพียงรายเดียว เพื่อที่จะช่วยประคับประคองให้ผู้ประกอบการทุกรายสามารถผ่านช่วงวิกฤตนี้ไปด้วยกัน
สำหรับการเยียวยานั้นจะแบ่งเป็น 2 ช่วง คือปัจจุบันยาวไปจนถึงช่วง เม.ย.65 ทาง AOT จะเรียกเก็บอัตราค่าตอบแทนตามสัญญากับผู้ประกอบการเอกชนทุกรายเป็นแบบ Revenue Sharing 20% และในช่วงที่ 2 หลังจาก เม.ย.65 เป็นต้นไปทาง AOT จะเรียกเก็บอัตราค่าผลตอบแทนตามสัญญากับผู้ประกอบการเอกชนแบบ Minimum Guarantee โดยใช้เกณฑ์ปี 2562 ยกเว้นคิงเพาเวอร์ เนื่องจากเป็นคนละสัญญากัน
ทั้งนี้ เหตุผลที่ “คิงเพาเวอร์” ใช้เงื่อนไขที่ไม่เหมือนผู้ประกอบการรายอื่น เนื่องจากทางคิงเพาเวอร์เป็นสัญญาใหม่ ทาง AOT จึงได้มีการปรึกษากันภายในถึงแนวทางในการจัดการเพื่อรักษาผลประโยชน์ของ AOT ให้ได้มากที่สุด และได้ข้อสรุปว่าให้ คิงเพาเวอร์ จ่ายที่อัตราRevenue Sharing 20% เหมือนเดิม แต่หากว่ารายได้ที่จ่ายต่ำกว่า Minimum Guarantee ทางคิงเพาเวอร์จะต้องจ่ายที่เกณฑ์ Minimum Guarantee
อย่างไรก็ดีในช่วงปี 2565 เป็นต้นไป ทาง AOT คาดการณ์ว่าจำนวนผู้โดยสารมีแนวโน้มที่จะกลับเข้าสู่ภาวะปกติ และการเรียกเก็บค่าผลตอบแทนตามสัญญาจากเอกชนนั้น ทาง AOT จะอิงตามสัญญาที่ได้รับผลตอบแทนสูงสุด ระหว่าง Minimum Guarantee กับ revenue sharing
ส่วนในเรื่องประเด็นการไม่นำประเด็นดังกล่าวเข้าที่ประชุมผู้ถือหุ้นเพื่อขออนุมัตินั้น นายนิตินัย ระบุว่า กรณีนี้เป็นเรื่องของการบริหารสัญญา จึงไม่เข้าข่ายที่จะต้องขออนุมัติจากผู้ถือหุ้น ซึ่งคล้ายกับกรณีการปิดสนามบินช่วงก่อนหน้านี้ ที่ไม่ได้นำเข้าที่ประชุมผู้ถือหุ้นเพื่อขออนุมัติเช่นกัน
รับฟังบทสัมภาษณ์เต็มๆ ของ นายนิตินัย ศิริสมรรถการ ผู้อำนวยการใหญ่ AOT ที่คลิปนี้