ดอลล์ปรับลงหลังเฟดเผยรายงานการประชุม
ดอลลาร์สหรัฐปรับตัวลงเมื่อเทียบสกุลเงินหลักส่วนใหญ่เมื่อคืนนี้ (19 ส.ค.) หลังจากรายงานการประชุมเดือนก.ค.ของธนาคารกลางสหรัฐ (เฟด) แสดงให้เห็นว่าอาจจะยังไม่มีการปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยในเดือนก.ย.นี้
สำนักข่าวอินโฟเควสท์รายงานว่า ค่าเงินยูโรแข็งค่าขึ้นเมื่อเทียบดอลลาร์สหรัฐที่ระดับ 1.1113 ดอลลาร์สหรัฐ จาก 1.1024 ดอลลาร์สหรัฐ ขณะที่เงินปอนด์เพิ่มขึ้นที่ 1.5681 ดอลลาร์สหรัฐ จากระดับ 1.5663 ดอลลาร์สหรัฐ
ค่าเงินดอลลาร์สหรัฐปรับตัวลงเทียบกับสกุลเงินเยนที่ 123.86 เยน จาก 124.39 เยน และลดลงเมื่อเทียบกับฟรังก์สวิสที่ระดับ 0.9655 ฟรังก์ จาก 0.9782 ฟรังก์ ขณะที่ค่าเงินดอลลาร์ออสเตรเลียปรับขึ้นเมื่อเทียบกับดอลลาร์สหรัฐที่ระดับ 0.7356 ดอลลาร์สหรัฐ จากระดับ 0.7340 ดอลลาร์
ดอลลาร์สหรัฐได้รับแรงกดดัน หลังจากรายงานการประชุมนโยบายการเงินของเฟดประจำวันที่ 28-29 ก.ค.ที่มีการเปิดเผยเมื่อคืนนี้ ระบุว่า เจ้าหน้าที่กำหนดนโยบายหลายรายประเมินว่าภาวะทางเศรษฐกิจยังไม่เอื้อต่อการคุมเข้มนโยบายการเงิน โดยแสดงความวิตกว่าชาวอเมริกันจะยังคงชะลอการใช้จ่าย เจ้าหน้าที่เฟดไม่ได้ชี้ชัดถึงช่วงเวลาในการปรับขึ้นดอกเบี้ย แม้มีการระบุว่าใกล้ถึงเวลาที่เฟดจะคุมเข้มนโยบายการเงิน
ขณะที่บรรดานักวิเคราะห์มองว่า เฟดอาจยังไม่พร้อมที่จะปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยในเดือนก.ย. เนื่องจากเฟดกังวลว่าเงินเฟ้อยังค่อนข้างต่ำเมื่อเทียบกับเป้าหมายที่กำหนดไว้ ซึ่งได้สร้างความกดดันต่อดอลลาร์ในระยะใกล้ นอกจากนี้ เจ้าหน้าที่เฟดบางรายยังแสดงความวิตกว่าการขยายตัวที่ชะลอลงของเศรษฐกิจจีนอาจะส่งผลกระทบต่อเศรษฐกิจสหรัฐ แม้ว่าความเสี่ยงจากวิกฤตหนี้กรีซได้ลดน้อยลงไปบ้าง
สำหรับข้อมูลเศรษฐกิจเมื่อคืนนี้ กระทรวงแรงงานสหรัฐเปิดเผยว่า ดัชนีราคาผู้บริโภค (CPI) เพิ่มขึ้น 0.1% ในเดือนก.ค. เมื่อเทียบรายเดือน โดยเป็นการปรับตัวขึ้นเป็นเดือนที่ 6 ติดต่อกัน แต่ต่ำกว่าที่นักวิเคราะห์คาดการณ์ไว้ที่ระดับ 0.2% เมื่อเทียบรายปี ดัชนี CPI ดีดตัวขึ้น 0.2% ในเดือนก.ค. ซึ่งเป็นการปรับตัวขึ้นติดต่อกันเป็นเดือนที่ 2 นับตั้งแต่ต้นปี