5 กลุ่มธุรกิจยอดขาย-กำไรดีหนุน บจ. ไทยกำไร Q2/58 โตต่อเนื่อง
บจ.ไทยมีกำไร Q2/58 รวม 213,141 ลบ. โต 5.65% โดยหมวดธุรกิจที่มีการเติบโตดีทั้งยอดขาย-กำไร ได้แก่ หมวดพัฒนาอสังหาริมทรัพย์ ,หมวดพาณิชย์ ,หมวดการแพทย์ ,หมวดชิ้นส่วนอิเล็กทรอนิกส์ หมวดเงินทุนและหลักทรัพย์ในส่วนของธุรกิจผู้ให้บริการสินเชื่อรายย่อย
ดร.สันติ กีระนันทน์ รองผู้จัดการ ตลาดหลักทรัพย์แห่งประเทศไทย เปิดเผยว่า บจ. ใน SET จำนวน 511 บริษัท หรือ 93.42% จากทั้งหมด 547 บริษัท (ไม่รวมบริษัทในกลุ่มที่เข้าข่ายอาจถูกเพิกถอน หรือ NC และบริษัทที่แก้ไขการดำเนินงานไม่ได้ตามกำหนด หรือ NPG) นำส่งผลการดำเนินงานไตรมาส 2/2558 งวดสิ้นสุดวันที่ 30 มิถุนายน 2558 พบว่า บจ. มีกำไรสุทธิจำนวน 409 บริษัท คิดเป็น 80.04%ของบริษัทที่นำส่งงบการเงินทั้งหมด
โดยมีกำไรสุทธิ 213,141 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 5.65%จากงวดเดียวกันปีก่อน มียอดขายรวม 2,591,971 ล้านบาท ลดลง 7.89% สำหรับผลประกอบการงวด 6 เดือนแรกปี 2558ของ บจ. เป็นไปในทิศทางที่สอดคล้องกับไตรมาส 2/2558 คือ มีกำไรสุทธิ 442,265 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 3.81%แต่มียอดขายรวม 5,115,359 ล้านบาท ลดลง 9.35% จากช่วงเดียวกันในปีก่อน
ทั้งนี้ไตรมาส 2/2558 และในงวดครึ่งแรกของปี 2558 บจ. มียอดขายลดลง เนื่องจากหมวดพลังงานและสาธารณูปโภค และหมวดปิโตรเคมีภัณฑ์มียอดขายลดลงจากราคาน้ำมันที่ปรับลง ทั้งนี้ หากไม่รวมหมวดธุรกิจดังกล่าว บจ.จะมียอดขายและมีกำไรสุทธิเติบโตขึ้นจากงวดเดียวกันในปีก่อน อย่างไรก็ตาม บจ.ยังสามารถทำกำไรได้เติบโตต่อเนื่องเป็นเพราะ บจ. สามารถปรับตัวด้านการบริหารต้นทุนได้ดีมีประสิทธิภาพการทำกำไรดีขึ้น โดยในไตรมาส 2/2558 มีอัตรากำไรขั้นต้นสูงขึ้นจาก 19.69% เป็น 23.18%และมีอัตรากำไรสุทธิเพิ่มขึ้นจาก 7.17% เป็น 8.22% เมื่อเทียบกับงวดเดียวกันในปีก่อนเช่นเดียวกับในงวดครึ่งแรกปี 2558 ที่มีอัตรากำไรขั้นต้นสูงขึ้นจาก 19.37% เป็น 22.60%และมีอัตรากำไรสุทธิเพิ่มขึ้นจาก 7.55% เป็น 8.65%
โดย บจ. ยังมีฐานะทางการเงินที่แข็งแกร่ง โดย ณ สิ้นไตรมาส 2/2558 บจ. มีอัตราส่วนหนี้สินต่อทุน (debt to equity ratio) (ไม่รวมอุตสาหกรรมการเงิน) อยู่ที่ 1.32 เท่า และมีความสามารถในการจ่ายดอกเบี้ย (Interestcoverage ratio) ดีขึ้นมาอยู่ที่ระดับ 6.05 เท่า
โดยหมวดธุรกิจที่มีการเติบโตดีทั้งด้านยอดขายและกำไรสุทธิ ทั้งในช่วงไตรมาส 2/2558 และงวดครึ่งแรกปี 2558 ได้แก่ หมวดพัฒนาอสังหาริมทรัพย์ หมวดพาณิชย์ หมวดการแพทย์ หมวดชินส่วนอิเล็กทรอนิกส์และหมวดเงินทุนและหลักทรัพย์ในส่วนของธุรกิจผู้ให้บริการสินเชื่อรายย่อย (retail finance)