CCP ตั้งเป้ารายได้ปีนี้แตะ 2.6 พันลบ. หลังตุนแบ็กล็อกแน่น 1.8 พันลบ.-ผลงานครึ่งแรกโตเด่น
CCP ตั้งเป้ารายได้ปีนี้แตะ 2.6 พันลบ. หลังตุนแบ็กล็อกแน่น 1.8 พันลบ.-ผลงานครึ่งแรกโตเด่น
นายอาทิตย์ ทีปกรสุขเกษม กรรมการผู้จัดการ บริษัท ผลิตภัณฑ์คอนกรีตชลบุรี จำกัด (มหาชน) หรือ CCP เปิดเผยว่า ผลประกอบการงวดครึ่งปีแรกบริษัทมีรายได้รวมอยู่ที่ 1,326 ล้านบาท เพิ่มขึ้นจากช่วงเดียวกันของปีก่อนที่มีรายได้ 1,255 ล้านบาท และมีกำไรสุทธิ 56.95 ล้านบาท เพิ่มขึ้นจากช่วงเดียวกันของปีก่อนที่มีกำไรสุทธิ 5.65 ล้านบาท หรือเพิ่มขึ้น 907%
ขณะที่ผลประกอบการครึ่งแรกปี 2563 บริษัทมีรายได้รวมเฉพาะกิจการอยู่ที่ 849.80 ล้านบาท เพิ่มขึ้นจากช่วงเดียวกันปีก่อนที่มีรายได้รวม 767.46 ล้านบาท จำนวน 82.35 ล้านบาท หรือเพิ่มขึ้น 11% และมีกำไรสุทธิ 68.50 ล้านบาท เพิ่มขึ้นจากช่วงเดียวกันปีก่อนที่มีกำไรสุทธิ 21.75 ล้านบาทหรือเพิ่มขึ้น 215 %
ส่วนผลประกอบการไตรมาส 2 ปี 2563 บริษัทมีรายได้รวมเฉพาะกิจการ 389.95 ล้านบาท เพิ่มขึ้นจากช่วงเดียวกันปีก่อนที่มีรายได้รวม 365.25 ล้านบาท จำนวน 24.70 ล้านบาท หรือเพิ่มขึ้น 7% และมีกำไรสุทธิ 23.40 ล้านบาท เพิ่มขึ้นจากช่วงเดียวกันปีก่อนที่ขาดทุนสุทธิ 4.83 ล้านบาท หรือเพิ่มขึ้น 584%
ทั้งนี้ ผลประกอบการของบริษัทปรับตัวเพิ่มขึ้นทุกกลุ่มธุรกิจ โดยกลุ่มรายได้จากการขายเพิ่มขึ้น 5% จากปริมาณความต้องการผลิตภัณฑ์คอนกรีตสำเร็จรูปของโครงการภาครัฐและเอกชนสูงขึ้น และการพัฒนาสินค้าใหม่ออกสู่ตลาด ส่งผลให้ยอดขายปรับตัวเพิ่มขึ้น สำหรับกลุ่มรายได้จากการให้เช่าและบริการปรับตัวเพิ่มขึ้นถึง 29 % จากการให้เช่าและบริการรถขนส่งสินค้าประเภทคอนกรีตผสมเสร็จ (Ready-Mixed Concrete) อีกทั้งผลการดำเนินงานของบริษัทย่อย บริษัท สมาร์ทคอนกรีต จำกัด (มหาชน) หรือ SMART
ปรับตัวดีขึ้นมาก
สำหรับความต้องการผลิตภัณฑ์คอนกรีตในช่วงครึ่งปีหลังแนวโน้มดี ปัจจัยสนับสนุนจากงานโครงการลงทุนเมกะโปรเจ็ค โครงสร้างพื้นฐานในโครงการระเบียงเศรษฐกิจภาคตะวันออก (EEC) ทยอยดำเนินงานก่อสร้าง และโครงการของหน่วยงานภาครัฐในพื้นที่ต่างๆ ที่มีการก่อสร้างอย่างต่อเนื่อง อาทิ สนามบินอู่ตะเภา รถไฟฟ้าความเร็วสูง 3 สนามบิน งานถนนพัทยา-อู่ตะเภา ท่าเรือแหลมฉบัง ท่าเรือน้ำลึกมาบตาพุด งานภาคเอกชน อาทิ นิคมอุตสาหกรรม
ขณะที่แผนการดำเนินธุรกิจของ CCP ในช่วงครึ่งปีหลัง บริษัทยังคงมุ่งเน้นกลยุทธ์การบริหารจัดการต้นทุน เพิ่มความสามารถในการทำกำไร และพัฒนาความสามารถในการแข่งขัน โดยการพัฒนาผลิตภัณฑ์คอนกรีตสำเร็จรูปร่วมกับลูกค้า เพื่อรองรับงานโครงสร้างพื้นฐาน เมกะโปรเจกต์ งานกรมทางหลวง และเดินหน้าติดตามโครงการต่างๆอย่างต่อเนื่อง อีกทั้งขยายฐานลูกค้า กลุ่มสถาปนิก ผู้รับเหมารายย่อย โครงการขนาดกลาง-เล็ก ที่มีความต้องการใช้งานคอนกรีตสำเร็จรูปเพื่องานก่อสร้าง Land Scape เพิ่มยอดขายสินค้าคอนกรีตสำเร็จรูป กลุ่มบล็อกกำแพง บล็อกกันหน้าดิน บล็อกปูพื้น ที่ช่วยแก้ปัญหางานก่อสร้าง ขาดแคลนแรงงาน ลดต้นทุน ทำให้งานเสร็จรวดเร็ว
ด้านงานเอกชน มุ่งเน้นเข้ารับงานนิคมอุตสาหกรรม ที่ทยอยดำเนินงานก่อสร้างต่อเนื่อง ขณะที่ภาพรวมการเติบโตของกลุ่มผู้ประกอบการรับเหมา และผู้พัฒนาอสังหาริมทรัพย์ ขยายตัวค่อนข้างน้อย อีกทั้งธุรกิจคอนกรีตผสมเสร็จ (Ready Mix) หลังจากที่ได้ปรับโมเดลธุรกิจ ส่งผลให้บริษัทสามารถขยายฐานลูกค้าใหม่ทั่วประเทศ ยอดขายปรับตัวดีขึ้นและความสามารถในการทำกำไรเพิ่มขึ้น ดังที่เห็นจากผลการดำเนินการช่วง 2-3 ไตรมาสที่ผ่านมา
โดยปัจจุบันบริษัทมีมูลค่างานในมือ (Backlog) ประมาณ 1,800 ล้านบาท ทยอยรับรู้รายได้ในระยะเวลา 1 ปี 6 เดือน แบ่งเป็นการรับรู้รายได้ภายในปีนี้ 60% ซึ่งบริษัทจะทยอยประมูลงานเข้ามาเพิ่มอีกในอนาคต เพื่อรักษาระดับไว้ไม่ต่ำกว่า 1,800-2,000 ล้านบาท โดยมุ่งเน้น Backlog ที่มีคุณภาพ คัดเลือกกลุ่มลูกค้าและโครงการที่มีกำลังซื้อเพื่อเพิ่มอัตรากำไร ขณะที่การเติบโตปีนี้ บริษัทตั้งเป้าหมายรายได้ไว้ประมาณ 2,600 ล้านบาท สัดส่วนรายได้มาจากงานภาครัฐ 80% และภาคเอกชน 20%