PTTGC มั่นใจกำไรปีนี้ดีกว่าปีก่อน แม้ Q3 อาจมีผลขาดทุนสต๊อก
PTTGC เชื่อกำไรปี 58 โตกว่าปีก่อนที่มีกำไรสุทธิ 1.5 หมื่นลบ. รับผลดีจากธุรกิจโอเลฟินส์ที่อยู่ในระดับดีมาก แม้ Q3/58 อาจมีผลขาดทุนสต๊อก หากราคาน้ำมันดิบปรับลงต่ำกว่า 40 เหรียญสหรัฐ/บาร์เรล
นายฐิติพงศ์ จุลพรศิริดี ผู้จัดการฝ่ายการเงินองค์กรและนักลงทุนสัมพันธ์ บริษัท พีทีที โกลบอล เคมิคอล จำกัด (มหาชน) หรืิอ PTTGC เปิดเผยถึงกำไรสุทธิปีนี้จะมากกว่าปีก่อนที่มีกำไรสุทธิ 1.5 หมื่นล้านบาท หลังครึ่งปีแรกทำกำไรสุทธิได้สูงถึง 1.46 หมื่นล้านบาท โดยการเติบโตของกำไรสุทธิปีนี้ได้รับผลดีจากธุรกิจโอเลฟินส์ที่อยู่ในระดับที่ดีมาก
ซึ่งปัจจุบันส่วนต่าง (สเปรด) ผลิตภัณฑ์โพลีเอทิลีนชนิดความหนาแน่นสูง (HDPE) อยู่ที่ราว 800 เหรียญ/ตัน และคาดว่าทั้งปีจะยืนอยู่ระดับ 700-800 เหรียญ/ตัน สูงกว่าเฉลี่ยที่ 682 เหรียญ/ตันในปีที่แล้ว เป็นผลจากความต้องการใช้ที่ยังคงเติบโตได้ราว 4% ต่อปี ขณะที่กำลังการผลิตใหม่ที่เข้าสู่ตลาดไม่มากนัก โดยคาดว่าวัฏจักรขาขึ้นของธุรกิจดังกล่าวจะยังคงอยู่ในช่วง 2-3 ปีจากนี้
อย่างไรก็ตาม ในส่วนของรายได้จะต่ำกว่าปีก่อน เนื่องจากราคาของ HDPE ปรับลงตามราคาน้ำมัน แต่เสปรดยังดีอยู่ สำหรับปีนี้เป็นช่วงขาขึ้นของเม็ดพลาสติกอย่างแท้จริง ซึ่งความต้องการซื้อเม็ดพลาสติกไม่ได้ปรับลง
ส่วนการที่ราคาน้ำมันดิบอยู่ในแนวโน้มขาลงในช่วงไตรมาส 3/58 นั้น หากปรับลงต่ำกว่า 40 เหรียญสหรัฐ/บาร์เรล จะส่งผลให้บริษัทขาดทุนสต๊อกน้ำมัน (stock loss) โดยขณะนี้ยังต้องติดตามสถานการณ์ที่จะกระทบ เช่น การยกเลิกการคว่ำบาตรอิหร่าน และปริมาณสำรองน้ำมันดิบของสหรัฐ ซึ่งมีผลต่อราคาน้ำมันดิบ ทั้งนี้บริษัทได้ปรับลดประมาณการณ์ราคาน้ำมันดิบเฉลี่ยในปีนี้มาอยู่ที่ 58 เหรียญสหรัฐ/บาร์เรล จากเดิม 60 เหรียญสหรัฐ/บาร์เรล