สรุปภาวะตลาดต่างประเทศ ประจำวันที่ 20 ส.ค. 2563

สรุปภาวะตลาดต่างประเทศ ประจำวันที่ 20 ส.ค. 2563


ดัชนีดาวโจนส์ตลาดหุ้นนิวยอร์กปิดบวกเมื่อคืนนี้ (20 ส.ค.) ขณะที่ดัชนี Nasdaq ปิดทำนิวไฮ เนื่องจากนักลงทุนแห่ซื้อหุ้นกลุ่มเทคโนโลยีอย่างคึกคัก ท่ามกลางความหวังที่ว่าอุตสาหกรรมเทคโนโลยีจะฟื้นตัวเร็วกว่าภาคส่วนอื่นๆในช่วงเวลาที่เศรษฐกิจสหรัฐยังคงเผชิญกับวิกฤตโควิด-19 โดยแรงซื้อหุ้นกลุ่มเทคโนโลยีได้ช่วยสกัดปัจจัยลบจากตัวเลขคนว่างงานในสหรัฐที่สูงกว่าการคาดการณ์

ดัชนีเฉลี่ยอุตสาหกรรมดาวโจนส์ปิดที่ 27,739.73 จุด เพิ่มขึ้น 46.85 จุด หรือ +0.17% ขณะที่ดัชนี S&P500 ปิดที่ 3,385.51 จุด เพิ่มขึ้น 10.66 จุด หรือ +0.32% ส่วนดัชนี Nasdaq ปิดที่ 11,264.95 จุด เพิ่มขึ้น 118.49 จุด หรือ +1.06%

 

ตลาดหุ้นยุโรปปิดปรับตัวลงเมื่อคืนนี้ (20 ส.ค.) ตามการร่วงลงของตลาดหุ้นทั่วโลกซึ่งถูกกดดันหลังธนาคารกลางสหรัฐ (เฟด) ส่งสัญญาณว่าการฟื้นตัวของเศรษฐกิจสหรัฐต้องใช้เวลานานท่ามกลางการแพร่ระบาดของโรคโควิด-19 โดยนักลงทุนได้เทขายหุ้นที่ปรับตัวตามภาวะเศรษฐกิจ อาทิ หุ้นกลุ่มเหมืองแร่และกลุ่มธนาคาร

ดัชนี Stoxx Europe 600 ลดลง 1.07% ปิดที่ 365.64 จุด

ดัชนี DAX ตลาดหุ้นเยอรมนีปิดที่ 12,830.00 จุด ลดลง 147.33 จุด หรือ -1.14%, ดัชนี CAC-40 ตลาดหุ้นฝรั่งเศสปิดที่ 4,911.24 จุด ลดลง 65.99 จุด หรือ -1.33% และดัชนี FTSE 100 ตลาดหุ้นลอนดอนปิดที่ 6,013.34 จุด ลดลง 98.64 จุด หรือ -1.61%

 

ตลาดหุ้นลอนดอนปิดลบเมื่อคืนนี้ (20 ส.ค.) เนื่องจากนักลงทุนขายหุ้นออกมาท่ามกลางความวิตกเกี่ยวกับการฟื้นตัวของเศรษฐกิจสหรัฐ หลังธนาคารกลางสหรัฐ (เฟด) เปิดเผยรายงานการประชุมเดือนก.ค.โดยระบุว่าแนวโน้มเศรษฐกิจสหรัฐไม่มีความแน่นอน โดยแรงขายหุ้นกลุ่มเหมืองแร่ถ่วงตลาดลง และการที่หุ้นหลายตัวขึ้นเครื่องหมาย XD ส่งผลกดดันตลาดด้วย

ดัชนี FTSE 100 ตลาดหุ้นลอนดอนปิดที่ 6,013.34 จุด ลดลง 98.64 จุด หรือ -1.61%

 

สัญญาน้ำมันดิบเวสต์เท็กซัส (WTI) ตลาดนิวยอร์กปิดลบเมื่อคืนนี้ (20 ส.ค.) หลังจากกระทรวงแรงงานสหรัฐเปิดเผยตัวเลขผู้ยื่นขอสวัสดิการว่างงานที่สูงกว่าการคาดการณ์ ซึ่งทำให้นักลงทุนวิตกกังวลเกี่ยวกับแนวโน้มเศรษฐกิจและความต้องการใช้น้ำมัน

สัญญาน้ำมันดิบ WTI ส่งมอบเดือนก.ย. ลดลง 35 เซนต์ หรือ 0.8% ปิดที่ 42.58 ดอลลาร์/บาร์เรล

สัญญาน้ำมันดิบเบรนท์ส่งมอบเดือนต.ค. ลดลง 47 เซนต์ หรือ 1%, ปิดที่ 44.90 ดอลลาร์/บาร์เรล

 

สัญญาทองคำตลาดนิวยอร์กปิดร่วงลงเมื่อคืนนี้ (20 ส.ค.) เนื่องจากนักลงทุนผิดหวังที่ธนาคารกลางสหรัฐ (เฟด) ไม่ได้ส่งสัญญาณการปรับเปลี่ยนนโยบายการเงิน แม้เฟดได้แสดงความกังวลต่อแนวโน้มเศรษฐกิจสหรัฐในรายงานการประชุมเดือนก.ค.ก็ตาม

สัญญาทองคำตลาด COMEX (Commodity Exchange) ส่งมอบเดือนธ.ค. ร่วงลง 23.8 ดอลลาร์ หรือ 1.21% ปิดที่ 1,946.5 ดอลลาร์/ออนซ์

สัญญาโลหะเงินส่งมอบเดือนก.ย. ลดลง 19.3 เซนต์ หรือ 0.71% ปิดที่ 27.147 ดอลลาร์/ออนซ์

สัญญาพลาตินัมส่งมอบเดือนต.ค. ร่วงลง 29.4 ดอลลาร์ หรือ 3.07% ปิดที่ 926.9 ดอลลาร์/ออนซ์

ส่วนสัญญาพัลลาเดียมส่งมอบเดือนก.ย. เพิ่มขึ้น 7.80 ดอลลาร์ หรือ 0.4% ปิดที่ 2,186.90 ดอลลาร์/ออนซ์

 

ดอลลาร์สหรัฐอ่อนค่าลงเมื่อเทียบกับสกุลเงินหลักๆ ในการซื้อขายที่ตลาดปริวรรตเงินตรานิวยอร์กเมื่อคืนนี้ (20 ส.ค.) หลังจากกระทรวงแรงงานสหรัฐเปิดเผยตัวเลขผู้ยื่นขอสวัสดิการว่างงานสูงกว่า 1 ล้านรายในสัปดาห์ที่ผ่านมา ซึ่งสะท้อนถึงผลกระทบทางเศรษฐกิจที่เกิดจากการแพร่ระบาดของไวรัสโควิด-19

ดัชนีดอลลาร์ ซึ่งเป็นดัชนีวัดความเคลื่อนไหวของดอลลาร์เมื่อเทียบกับสกุลเงินหลัก 6 สกุลในตะกร้าเงิน ปรับตัวลง 0.09% แตะที่ 92.7998 เมื่อคืนนี้

ดอลลาร์สหรัฐอ่อนค่าลงเมื่อเทียบกับเงินเยน ที่ระดับ 105.77 เยน จากระดับ 105.90 เยน และอ่อนค่าเมื่อเทียบกับฟรังก์สวิส ที่ระดับ 0.9084 ฟรังก์ จากระดับ 0.9136 ฟรังก์ นอกจากนี้ ดอลลาร์สหรัฐยังอ่อนค่าเมื่อเทียบกับดอลลาร์แคนาดา ที่ระดับ 1.3178 ดอลลาร์แคนาดา จากระดับ 1.3186 ดอลลาร์แคนาดา

ยูโรอ่อนค่าลงเมื่อเทียบกับดอลลาร์สหรัฐ ที่ระดับ 1.1850 ดอลลาร์ จากระดับ 1.1856 ดอลลาร์ ขณะที่เงินปอนด์แข็งค่าขึ้นแตะที่ระดับ 1.3207 ดอลลาร์ จากระดับ 1.3115 ดอลลาร์ ส่วนดอลลาร์ออสเตรเลียอ่อนค่าลงสู่ระดับ 0.7191 ดอลลาร์สหรัฐ จากระดับ 0.7203 ดอลลาร์สหรัฐ

Back to top button