“ทัพเรือ” ชี้จำเป็นซื้อเรือดำน้ำ จวกนักการเมือง! หยุดสร้างความเกลียดชัง

"กองทัพเรือ" แถลงข่าวชี้แจง เหตุจำเป็นจัดซื้อเรือดำน้ำอีก 2 ลำ วงเงิน 2.25 หมื่นลบ. เพื่อปกป้องทรัพย์สินประเทศ จวกนักการเมือง หยุดสร้างความเกลียดชัง


ผู้สื่อข่าวรายงานว่า จากกรณีที่คณะอนุกรรมาธิการครุภัณฑ์ ไอซีที รัฐวิสาหกิจ และทุนหมุนเวียน ในคณะกรรมาธิการวิสามัญพิจารณาร่าง พ.ร.บ.งบประมาณรายจ่ายประจำปีงบประมาณ 2564 ได้มีมติ 5 ต่อ 4 ผ่านงบฯ จัดซื้อเรือดำน้ำของกองทัพเรือ 2 ลำ มูลค่า 22,500 ล้านบาท จนเกิดเสียงวิพากษ์วิจารณ์อย่างหนักในสังคมนั้น

ล่าสุดวันนี้ (24 ส.ค.63) ที่กองบัญชาการกองทัพเรือ (ทร.) ได้มีการจัดแถลงข่าวชี้แจงเหตุผลความจำเป็นการจัดซื้อเรือดำน้ำ โดยยืนยันว่า จะมีการลงนามในข้อตกลงจัดซื้อเรือดำน้ำกับทางการจีนจำนวน 2 ลำ วงเงิน 22,500 ล้านบาทภายในเดือน ก.ย.นี้ พร้อมย้ำความจำเป็นในการขยายกองเรือดำน้ำของไทยในการปกป้องทรัพย์สินของประเทศ ซึ่งเป็นโครงการต่อเนื่องจากการจัดซื้อเรือดำน้ำลำแรก

แต่ทั้งนี้ จะชะลอการจ่ายเงินงวดแรก 3,375 ล้านบาทที่กำหนดจ่ายในปีนี้ออกไป เพื่อนำไปสมทบกับงบประมาณส่วนอื่นให้กับรัฐบาลรวมกว่า 4 พันล้านบาท สำหรับนำไปใช้จ่ายในการแก้ไขปัญหาของประเทศตามความจำเป็นก่อน อีกทั้งการใช้เงิน 22,500 ล้านบาท ไม่ได้จัดซื้อในปี 2564 ครั้งเดียว แต่เป็นแบ่งจ่ายใน 7 ปี ดังนั้น การกล่าวหาเช่นนี้ ถือเป็นการสร้างความเกลียดชังให้สังคมต่อกองทัพเรือ

“การนำเนื้อหาการจัดซื้อมาโจมตีและให้ข่าวที่ผิด ทั้งใช้เงินฟุ่มเฟือย ถือเป็นเรื่องการเมืองและเห็นแก่ตัวที่สุด จะยอมให้นักการเมืองนำเรื่องไม่จริงมาสร้างความเดือดร้อนทำไม จึงขอให้หยุดทำให้ประชาชนเกลียดชังกองทัพ ขอให้เปลี่ยนมุข”

นอกจากนี้ จากการที่กองทัพเรือเข้าชี้แจงอนุกมธ. เมื่อวันที่ 21 ส.ค.ที่ผ่านมา ก่อนมีอนุกมธ.บางคนนำข้อมูลไม่ครบถ้วนมาแถลง โดยหวังผลทางการเมืองและสร้างผลกระทบต่อรัฐบาล ยืนยันว่าการจัดซื้อเรือดำน้ำเป็นไปตามยุทธศาสตร์ แต่ที่ผ่านมาถูกโยงเป็นประเด็นการเมือง โดยประเทศไทยจัดหาเรือดำน้ำในปี 2560 และจะมีประจำการในปี 2566

อย่างไรก็ตาม แม้มีคนกล่าวว่าจะไม่เกิดสงครามโลกครั้งที่ 3 ในเร็วๆ นี้ แต่ในทะเลจีนใต้ที่ใกล้ไทยนั้น มีหลายชาติประกาศความเป็นเจ้าของ มีการก่อสร้างสถานี และสนามบินเกิดขึ้น สิ่งเหล่านี้เป็นเหตุที่อาจทำให้เกิดการปะทะกันได้ หากเกิดการปะทะกัน นี่คือเส้นเลือดใหญ่ของไทยในการค้าและจะมีปัญหาตามมา โดยจะมีปัญหาในเวลาใกล้หรือไกลต้องรอประเมิน แต่การจัดซื้อเรือดำน้ำวันนี้อีก 6 ปีถึงได้รับ

ทั้งนี้ กองทัพเรือย้ำว่าการจัดหาเรือดำน้ำอีก 2 ลำ เป็นการจัดหาแบบต่อเนื่อง ไม่ใช่การผูกพันงบใหม่ โดยเป็นรายการเสริมสร้างกำลังกองทัพ ทยอยตั้งงบประจำปีตามกรอบ ไม่ได้ขอรับงบเพิ่มเติม ซึ่งงบนี้อยู่ในงบประมาณปี 63 แล้ว โดยรายการนี้กำหนดว่าปี 63 จ่าย 3,375 ล้านบาท ปี 64 จ่าย 3,925 ล้านบาท ปี 65 จ่าย 2,640 ล้านบาท ปี 66 จ่าย 2,500 ล้านบาท ปี 67 จ่าย 3,060 ล้านบาท ปี 68 จ่าย 3,500 ล้านบาท ปี 69 จ่าย 3,500 ล้านบาท

“แต่ในช่วงโควิดระบาด จึงประสานไปยังจีนและขอคืนงบประมาณก้อนแรกปี 63 ที่ตั้งไว้แล้ว 3,375 ล้านบาท โดยเป็นการชะลอโครงการ รวมถึงโครงการอื่น เพื่อใช้แก้ปัญหาโควิด ซึ่งกองทัพเรือได้ปรับปรุงเนื้อหาใหม่ โดยมีกำหนดลงนามรัฐต่อรัฐในเดือนก.ย. โดยการจัดงบของกองทัพเรือ ทำโดยความรอบคอบและประหยัด ตระหนักถึงงบของชาติและตั้งงบในกรอบ โดยยืนยันงบ 22,500 ล้านบาท เป็นการจ่ายใน 7 ปี โดยใช้จ่ายตามงบประจำปี ด้วยการตัดงบจัดซื้อยุทโธปกรณ์อื่นลง” กองทัพเรือ ระบุ

Back to top button