“บินไทย” ลุ้น! ศาลล้มละลายฯ นัดฟังคำสั่ง อนุญาตฟื้นฟูกิจการหรือไม่ 14 ก.ย.นี้
ศาลล้มละลายกลาง นัดฟังคำสั่ง อนุญาต "บินไทย" ฟื้นฟูกิจการหรือไม่ 14 ก.ย.นี้
ผู้สื่อข่าวรายงานว่า วันนี้ (25 ส.ค.63) ศาลล้มละลายกลาง นัดไต่สวนในคดีดำที่ ฟฟ 10/2563 กรณีบริษัทการบินไทย จำกัด (มหาชน) ยื่นคำร้องขอทำแผนฟื้นฟูกิจการ เพื่อเข้าสู่กระบวนการฟื้นฟูบริษัทการบินไทย จำกัด (มหาชน) โดยมีกลุ่มเจ้าหนี้เป็นผู้ยื่นคัดค้านข้อเสนอทำแผนของฝ่ายลูกหนี้จำนวนมาก
ทั้งนี้ ปรากฏว่าเจ้าหนี้ผู้คัดค้านที่ 5 และที่ 7 ขอถอนคำคัดค้าน และศาลมีคำสั่งอนุญาตให้เจ้าหนี้ผู้คัดค้านที่ 5 และที่ 7 ถอนคำคัดค้านตามที่ขอ จากนั้นศาลจึงเริ่มไต่สวนพยานเจ้าหนี้ผู้คัดค้านที่ 11 จำนวน 1 ปาก แล้วเจ้าหนี้ผู้คัดค้านที่ 11 แถลงหมดพยาน คดีเสร็จการพิจารณาในชั้นไต่สวนคำร้อง
โดยศาลมีคำสั่งอนุญาตให้ลูกหนี้ผู้ร้องขอและผู้คัดค้าน ยื่นคำแถลงการณ์ปิดคดีเป็นหนังสือภายใน 7 วัน นับแต่วันนี้ และศาลให้นัดฟังคำสั่งว่าจะรับคำร้องขอฟื้นฟูกิจการหรือไม่ในวันที่ 14 กันยายน 2563 เวลา 10.00 น.
ด้านนายชาญศิลป์ ตรีนุชกร กรรมการบริษัท และรักษาการแทนกรรมการผู้อำนวยการใหญ่ THAI เปิดเผยว่า วันนี้ศาลฯ นัดไต่สวนคำร้องขอฟื้นฟูกิจการของบริษัทเป็นนัดสุดท้าย โดยมีทนายของบริษัทเป็นผู้ถามค้านพยานต่อศาล ซึ่งมีเจ้าหนี้ผู้คัดค้านที่ 11 คือ บริษัท ดาต้าโปรดักส์ทอปปัง ฟอร์ม จำกัด นำเสนอพยานขึ้นเบิกความต่อศาล ซึ่งภาพรวมกระบวนการไต่สวนคำร้องในวันนี้เป็นไปอย่างราบรื่นและมีแนวโน้มที่ดี
เมื่อกระบวนการไต่สวนเสร็จสิ้นและศาลมีคำสั่งให้ THAI ฟื้นฟูกิจการพร้อมตั้งคณะผู้ทำแผนที่บริษัทเสนอ กรมบังคับคดีจะดำเนินการแจ้งเจ้าหนี้ทุกรายให้ทราบถึงขั้นตอนการลงทะเบียนเพื่อยื่นคำขอรับชำระหนี้ ซึ่งสามารถดำเนินการผ่านระบบออนไลน์ได้ด้วยตนเองที่บ้าน หรือจะนำเอกสารมาที่สำนักงานใหญ่ เพื่อที่ THAI และกรมบังคับคดีจะช่วยเหลือและอำนวยความสะดวกแก่เจ้าหนี้ในการยื่นคำขอรับชำระหนี้ออนไลน์ ซึ่งจะประชาสัมพันธ์รายละเอียดวัน เวลา และสถานที่ต่อไป โดยเจ้าหนี้ต้องยื่นคำขอรับชำระหนี้ภายใน 1 เดือน นับแต่คำสั่งให้ฟื้นฟูกิจการและตั้งผู้ทำแผนประกาศในราชกิจจานุเบกษา
นอกจากนี้ หากศาลมีคำสั่งให้ THAI ฟื้นฟูกิจการและตั้งคณะผู้ทำแผน บริษัทจะเชิญเจ้าหนี้กลุ่มต่างๆ มารับฟังการจัดทำร่างแผนฟื้นฟูกิจการในเบื้องต้นเพื่อให้เจ้าหนี้ได้รับทราบถึงความคืบหน้าของการจัดทำแผนฟื้นฟูกิจการและมีส่วนร่วมในการแสดงความคิดเห็นต่อไป
อย่างไรก็ดี เพื่อป้องกันความสับสนที่อาจเกิดขึ้นจากการนำเสนอข่าวของสื่อบางแห่งเกี่ยวกับการยื่นคำขอรับชำระหนี้ นายชาญศิลป์ฯ ชี้แจงว่า ในส่วนของลูกค้าซึ่งออกบัตรโดยสารกับ THAI โดยตรงที่ขอคืนค่าบัตรโดยสาร (Refund) นั้น THAI มีนโยบายที่มุ่งมั่นจะอำนวยความสะดวกและรักษาสิทธิของลูกค้าในการได้รับคืนค่าบัตรโดยสารอย่างเต็มที่ โดยคณะผู้ทำแผนได้หารือกันเกี่ยวกับการกำหนดเงื่อนไขและรายละเอียดส่วนนี้ไว้ในแผนฟื้นฟูกิจการแล้ว เพื่อลูกค้าทุกคนจะได้ไม่เสียเวลาและค่าใช้จ่ายในการยื่นคำขอรับชำระหนี้ต่อกรมบังคับคดี
นายชาญศิลป์ เน้นย้ำว่า ขณะนี้ THAI เองก็มีมาตรการเยียวยาลูกค้าที่ขอคืนค่าบัตรโดยสารอย่างเต็มที่ เพื่อให้ลูกค้าได้รับประโยชน์สูงสุด โดยการให้สิทธิลูกค้าเก็บบัตรโดยสารไว้ใช้เดินทางกับ THAI หรือไทยสมายล์ได้จนถึงวันที่ 31 ธ.ค.64 หรือจะแลกเป็น Travel Voucher ซึ่งสามารถนำมาใช้แทนเงินสดในการออกบัตรโดยสารของ THAI หรือไทยสมายล์ได้จนถึงวันที่ 31 ธ.ค.65 ก็ได้ ซึ่งสิทธิดังกล่าวยังสามารถใช้ออกบัตรโดยสารในชื่อบุคคลอื่นโดยแสดงหลักฐานได้อีกด้วย
โดยในส่วนของการแลก Travel Voucher นั้น นายชาญศิลป์ แจ้งว่าลูกค้าที่ขอคืนค่าบัตรโดยสารแล้วประสงค์จะแลกรับ Travel Voucher สามารถติดต่อการบินไทยได้ผ่านทาง Call Center โทร 02 356 1111
สำหรับลูกค้าผู้ถือบัตรโดยสารที่ออกโดย THAI โดยตรง ที่ยังไม่ได้เดินทางและยังไม่ได้ดำเนินการขอคืนค่าบัตรโดยสาร (Unused Ticket) จะไม่ใช่เจ้าหนี้ที่อาจขอรับชำระหนี้ตามกฎหมายได้ เพราะลูกค้ายังคงมีสิทธิใช้บัตรโดยสารได้เมื่อบริษัทสามารถกลับมาประกอบธุรกิจได้ตามปกติและให้บริการด้านการบินได้อย่างเต็มรูปแบบ
นายชาญศิลป์ กล่าวว่า ลูกค้าจะยังคงมีสิทธิในการใช้บัตรโดยสารของการบินไทยอยู่เช่นเดิมภายใต้กระบวนการฟื้นฟูกิจการของการบินไทย โดยไม่ต้องยื่นคำขอรับชำระหนี้หรือดำเนินการทางกฎหมายใดๆ
อย่างไรก็ดี บริษัทยังคงยินดีมอบสิทธิประโยชน์ให้กับลูกค้าผู้ถือบัตรโดยสารที่ยังไม่ได้ใช้เดินทาง โดยให้ลูกค้าสามารถเก็บบัตรโดยสารไว้ใช้เดินทางกับ THAI หรือไทยสมายล์ได้จนถึงวันที่ 31 ธ.ค.64 หรือจะแลกเป็น Travel Voucher ซึ่งสามารถนำมาใช้แทนเงินสดในการออกบัตรโดยสารของ THAI หรือไทยสมายล์ได้จนถึงวันที่ 31 ธ.ค.65 ก็ได้ ซึ่งลูกค้าสามารถดำเนินการดังกล่าวได้ด้วยตนเองผ่านทางเว็บไซต์ของการบินไทย www.thaiairways.com โดย