ครึ่งบ่ายไม้สั้น – บล.คันทรี่กรุ๊ป

บริษัทหลักทรัพย์ คันทรี่กรุ๊ป สรุปทิศทางและแนวโน้มตลาดบ่ายนี้


สรุปตลาดภาคเช้า 

ตลาดภาคเช้าปิดปรับตัวลดลง ในทิศทางเดียวกันกับตลาดรอบบ้าน โดยแรงกดดันมาจากความกังวลต่อการเติบโตของเศรษฐกิจโลก ซึ่งส่งผลต่อเนื่องมายังเศรษฐกิจไทยด้วย กดดันหุ้นในกลุ่มธนาคารให้ปรับตัวลดลงค่อนข้างมาก  แม้ว่าจะมีแรงซื้อเข้ามาในหุ้นกลุ่มรับเหมาก่อสร้างจากการคาดหมายถึงมาตรการกระตุ้นเศรษฐกิจที่จะออกมาหลังได้ ครม. ชุดใหม่ ปิดตลาดภาคเช้าดัชนีเปลี่ยนแปลง -11.30 จุด มาที่ระดับ 1,361.23 จุด ด้วยมูลค่าการซื้อขายที่ระดับ 2.1 หมื่นล้านบาท

 

แนวโน้ม ภาคบ่าย

ประเมินดัชนีมีแนวโน้มอยู่ในแดนลบต่อหลังจากยังไม่มีประเด็นบวกใหม่ๆเข้ามาแต่อย่างใดรวมถึงต้องติดตามว่าความไม่สงบในคาบสมุทรเกาหลีจะมีอะไรรุนแรงเพิ่มเติมหรือไม่ โดยเฉพาะหลังจากเวลา 15.00 น.ตามเวลาประเทศไทยที่ทางเกาหลีเหนือประกาศให้ทหารเข้าสู่ภาวะสงคราม อย่างไรก็ตามหากดัชนีลงไปต่ำกว่า 1,362 จุด อาจจะทยอยสะสมเพื่อเก็งกำไรการรีบาวทางเทคนิคในช่วงต้นสัปดาห์หน้า โดยเน้นหุ้นที่จะได้รับผลดีจากค่าเงินบาทที่อ่อนค่าลงเป็นหลักอย่างเช่นหุ้นกลุ่มอาหารหรือกลุ่มอิเล็กทรอนิกส์ เป็นต้น

 

วิเคราะห์ทางเทคนิค

SIAM    ราคาปิด 3.58 บาท

แนวรับ 3.54 บาท           แนวต้าน 3.68 บาท

แนว cut loss หากใกล้จะหลุด 3.50 บาท

กราฟ SIAM พักตัวลงมาถึงแนวรับใกล้ 3.50 บาท และสามารถทรงตัวได้ต่อเนื่อง  และทำให้ MACD เริ่มเกิดการโค้งตัวในเชิงบวก อีกทั้งปริมาณโวลุ่มที่หดหายทำให้มองว่าแรงขายใกล้หมดไป  กราฟแท่งเทียนมีโอกาสสร้าง double bottom พร้อมการดีดตัวในไม่ช้าแนะนำเก็งกำไร

 

CEI     ราคาปิด 1.14 บาท

แนวรับ 1.13 บาท           แนวต้าน 1.20, 1.28 บาท

แนว cut loss หากใกล้จะหลุด 1.12 บาท

กราฟ CEI  อยู่ในช่วงของการย่อตัวจากระดับ high ของวันก่อนหน้าและทรงของกราฟจะยังไม่เสียหายจนกว่าจะหลุด 1.10 บาท อีกทั้งปริมาณการซื้อขายยังคงหนาแน่น  โอกาสการดีดตัวเกิดขึ้นได้ไม่ยาก  แนะนำให้ตั้งรับ ทยอยสะสม และกำหนดจุด cut ไว้ ป้องกันหากราคาอ่อนตัวเกินคาด

 

เด็กแนว

SWC ถ้าใครรู้จัก เชลไดร์ททาเนื้อไม้ สเปรย์กำจัดแมลง น้ำยา Teepo สำหรับล้างจานอันนี้แหละคือผลิตภัณฑ์ของบริษัท  ซึ่งจัดเป็นลูกของ TOA นั่นเอง บริษัทดำเนินธุรกิจผลิตและจำหน่ายเคมีเคหะภัณฑ์ที่ใช้ในบ้านเรือน อุตสาหกรรม สาธารณสุขชุมชน และเคมีภัณฑ์เพื่อการเกษตรกรรม  ผลประกอบการครึ่งปีก้าวกระโดดเกือบเท่ากับปีก่อนทั้งปี ด้วยอัตรา margin ที่เติบโตขึ้นกว่าเดิม เมื่อราคาวัตถุดิบที่ใช้ในการผลิตถูกลง แต่ราคาขายผลิตภัณฑ์พวกนี้ราคาแพงขึ้นซะด้วยซ้ำ เป็นเหตุหนึ่งที่ทำให้กำไรพุ่งแรง  แนวโน้มครึ่งปีหลังยังเติบโตสดใส ประเมินกำไรทุบสถิติมีโอกาสผ่านระดับ 120 ล้านบาทไปได้ไม่มากก็น้อย ให้ราคาเหมาะสมแถว 12 บาท อีกทั้งหุ้นเบา อยู่ในมือผู้ถือหุ้นใหญ่ส่วนมากใครจะลากไปลากมาก็ตามสะดวก    แนวโน้มทางเทคนิคถือว่าเป็นไม้ตามน้ำที่สอง  เพราะราคาเริ่มขึ้นมาตั้งแต่ต้นสัปดาห์ และกราฟที่เป็นรูปชายธง ตามด้วยสัญญาณซื้อใน RSI มีโอกาสกระชากตัวต่อไปยัง 11 บาท  และเมื่อมองว่ากำไร new high แล้วทำไมราคาหุ้นจะไม่ new high บ้างล่ะ 

KIAT  ราคาหุ้นดูขึ้นยาก เหมือนเล่นเท่าไรก็ไม่ค่อยไป แต่ให้มองในมุมบวกตั้งแต่ต้นเดือน SET รูด 100 จุดแล้วแต่ราคา KIAT รักษาฐานไว้แน่นหนาไม่เสียทรง แถมมีโวลุ่มสะสมไม่ตกอย่างน่าแปลกใจ แสดงว่ากำลังดูดหุ้น ใครขายออกมาก็ซึมซับไว้หมดไม่ทำให้ราคาร่วงไปไหนแบบนี้เหมือนมีเจ้ามือคอยประคองราคา  ปล่อยให้คนขายตายใจแล้วค่อยดันแรง  ประกอบกับตัวธุรกิจน่าจะมีประเด็นเด่นในเร็วๆ นี้เกี่ยวกับพลังงานและการขนส่ง  รวมทั้งคดีความเก่าที่เคยค้างคามาหลายปีเกี่ยวกับลูกหนี้ค้างชำระจำนวนหลายร้อยล้านบาท  ถ้าชนะความจะได้กำไรตีกลับบานเบรอะ  เหมือนมีคนรู้อะไรจึงประคองราคาไว้รอข่าวดี   เด็กแนวว่าสะสมกันไว้เถอะ ถ้าเมื่อไรราคาผ่าน 1.20 บาทไปได้ แสดงว่าหมอลำเริ่มแล้ว

Back to top button