AGE พุ่งแรง13% โบรกฯเชียร์ “ซื้อ” ชูเป้า 1.78 บ. คาดครึ่งปีหลังฟื้น หลังผ่านจุดต่ำสุดแล้ว
AGE พุ่งแรง13% โบรกฯเชียร์ "ซื้อ" ชูเป้า 1.78 บ. คาดครึ่งปีหลังฟื้น หลังผ่านจุดต่ำสุดแล้ว โดย ณ เวลา 15.31 น. ราคาอยู่ที่ 1.41 บาท บวก 0.16 บาท หรือ 12.80% สูงสุดที่ 1.43 บาท ต่ำสุดที่ 1.27 บาท ด้วยมูลค่าซื้อขาย 26.21 ล้านบาท
ผู้สื่อข่าวรายงานว่า ราคาหุ้น บริษัท เอเชีย กรีน เอนเนอจี จำกัด (มหาชน) หรือ AGE ล่าสุด ณ เวลา 15.31 น. อยู่ที่ 1.41 บาท บวก 0.16 บาท หรือ 12.80% สูงสุดที่ 1.43 บาท ต่ำสุดที่ 1.27 บาท ด้วยมูลค่าซื้อขาย 26.21 ล้านบาท
ด้าน บล.จีเอ็มโอ-แซด คอม แนะนำ “ซื้อ” AGE ราคาเป้าหมาย 1.78 บาท/หุ้น โดยบริษัทรายงานผลประกอบการไตรมาส 2/63 ที่ระดับ 10 ล้านบาท ลดลง 75% จากไตรมาสก่อน และลดลง 86% จากช่วงเดียวกันเมื่อปีก่อน กดดันหลักจาก 2 ปัจจัย 1.รายได้หดตัวลง 34% จากไตรมาสก่อน และลดลง 22% จากช่วงเดียวกันเมื่อปีก่อน โดยได้ผลกระทบจาก COVID-19 และลูกค้ากลุ่มปูนซิเมนต์ปิดโรงงานเพื่อซ่อมบำรุง ส่งผลให้ปริมาณขายถ่านหินหดตัวลง 28% จากไตรมาสก่อน และลดลง 1.49% จากช่วงเดียวกันเมื่อปีก่อน รวมถึงรายได้การบริการหดตัวลง 23% จากไตรมาสก่อน และลดลง 29% จากช่วงเดียวกันเมื่อปีก่อน ซึ่งลดลงตามยอดขายถ่านหินตลาดภายในประเทศที่อ่อนแอ 2.ขาดทุนจากอัตราแลกเปลี่ยน 16.9 ล้านบาท
ทั้งนี้ มองว่าในช่วงครึ่งปีหลัง 2563 บริษัทยังคงต้องเผชิญกับอุปสงค์ถ่านหินที่ได้รับผลกระทบจาก COVID-19 รวมถึงลูกค้าในกลุ่มปูนซิเมนต์บางรายมีแผนการซ่อมบำรุงโรงงานในไตรมาส 3/63 จึงยังมองว่าการเติบโตของปริมาณการขายจะยังอ่อนแอต่อเนื่องจากไตรมาส 2/63 ซึ่งลดลง 23% จากช่วงเดียวกันเมื่อปีก่อน สำหรับด้านต่างประเทศ มองว่าการเติบโตของปริมาณขายจะคงเด่นต่อเนื่องจากไตรมาส 2/63 เพิ่มขึ้น 561% จากช่วงเดียวกันเมื่อปีก่อน จากความต้องการที่สูงขึ้นจากโรงไฟฟ้าถ่านหินใหม่ที่เปิดดำเนินงานในปี 2563
อย่างไรก็ดี คาดว่าบริษัทได้ผ่านจุดต่ำสุดของผลดำเนินงานของปี 2563 ในไตรมาส 2/63 เชื่อว่าการขาดทุนจากอัตราแลกเปลี่ยนในระดับสูง (ลดลง 16.9 ล้านบาท) มีโอกาสเกิดขึ้นน้อยลง จากแนวทางการประกันความเสี่ยงอัตราแลกเปลี่ยนที่มีแนวโน้มอนุรักษ์นิยมมากขึ้น นอกจากนี้ มองว่าปริมาณขายถ่านหินจะค่อยๆฟื้นตัวในไตรมาส 3/63 และไตรมาส 4/63 ตามการฟื้นตัวของอุปสงค์ถ่านหินภายในประเทศ
อย่างไรก็ตาม ชื่นชอบการลงทุนในธุรกิจพลังงานในโรงไฟฟ้าแสงอาทิตย์ และธุรกิจการขายไอน้ำทั้งในและต่างประเทศ รวมถึงการขยายกองเรือ มองว่าเป็นการเติบโตไปกับธุรกิจที่มีความเสี่ยงต่ำซึ่งมีกระแสเงินสดที่สม่ำเสมอ จะช่วยลดความผันผวนของผลประกอบการในช่วงที่ธุรกิจหลักมีความผันผวนสูงจากภาวะเศรษฐกิจโลกที่ถูกกระทบจาก COVID-19 ทั้งนี้ โรงไฟฟ้าแสงอาทิตย์ขนาด 5MW จะเริ่มรับรู้รายได้ในช่วงไตรมาส 3/63
ทั้งนี้ แนะนำ “ซื้อ” ราคาเหมาะสมปี 2564 ที่ 1.78 บาท ประเมินราคาเหมาะสม ปี 2564 อิง PBV0.93 เท่า ซึ่งเป็นค่าเฉลี่ยซื้อขายย้อนหลัง 5 ปี ที่ 1.78 บาท หรือเทียบเป็น PER 10.47 เท่า ของประมาณการณ์ปี 2564 ทั้งนี้ ราคาหุ้นปัจจุบันยังมี Upside สูงถึง 42% เมื่อเทียบกับราคาเหมาะสม