“วราเทพ” เผย กมธ.งบ ยังไม่ได้รับสัญญาณ เลื่อนซื้อเรือดำน้ำ จากรบ. ชี้รอฟัง “สันติ” แถลง
“วราเทพ” เผย กมธ.งบ ยังไม่ได้รับสัญญาณ เลื่อนซื้อเรือดำน้ำ จากรัฐบาล ชี้รอฟัง “สันติ” แถลง ขณะที่ฝ่ายค้านเตรียมใช้สิทธิ์ยื่นแปรญัตติ ตัดงบ 111 ล้านบ. สู้คดีคิงส์เกต
นายวราเทพ รัตนากร รองประธานคณะกรรมาธิการ (กมธ.) วิสามัญพิจารณาร่าง พ.ร.บ.งบประมาณรายจ่ายประจำปีงบประมาณ พ.ศ.2564 กล่าวก่อนการประชุมฯ ว่า ยังไม่ได้รับสัญญาณใดๆจากรัฐบาลหลังมีกระแสข่าวว่ากองทัพเรือจะถอนการจัดซื้อเรือดำน้ำในงบประมาณปี 2564 ออกไปก่อน ซึ่งต้องรอดูข้อมูลอย่างเป็นทางการอีกครั้ง และขอให้รอฟังจากนายสันติ พร้อมพัฒน์ รัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงการคลัง ในฐานะประธาน กมธ. ที่จะเข้ามาประชุมช่วงเที่ยงของวันนี้
ขณะนี้ที่ประชุมยังไม่มีมติว่าจะเชิญกองทัพเรือมาชี้แจงหรือไม่ หากคณะอนุกรรมาธิการฯ ชี้แจงแล้วอยากเชิญกองทัพเรือมาชี้แจงเพิ่มเติมก็สามารถเชิญได้ แต่วันนี้เป็นวันสุดท้ายที่ต้องพิจารณาให้เสร็จ หากเชิญก็ต้องเชิญภายในวันนี้ และวันนี้เป็นวันสุดท้ายในการพิจารณาปรับลด จากนั้นจะมีกระบวนการตรวจรายงานเพื่อแก้ไขรายงาน และรายงานที่ค้างอยู่ คือการพิจารณาข้อสังเกตที่นัดหมายไว้ในวันพุธหรือวันพฤหัสบดีนี้
พร้อมย้ำว่า ที่ผ่านมาไม่เคยเลื่อนการพิจารณางบประมาณการจัดซื้อเรือดำน้ำ แต่เนื่องจากยังพิจารณาไม่ถึงวาระดังกล่าว แม้จะดูว่าพิจารณาล่าช้าเกินไป แต่ยอมรับว่าปีนี้เรื่องที่ต้องพิจารณาค่อนข้างเยอะ และมีความสลับซับซ้อน
โดยวาระที่จะพิจารณาในวันนี้เป็นวาระที่นัดหมายไว้ต่อเนื่องจากสัปดาห์ที่แล้ว ซึ่งวันนี้ยังคงให้คณะอนุกรรมาธิการฯ ที่เหลืออีก 5 คณะมารายงานผลการพิจารณา และต้องพิจารณาให้แล้วเสร็จภายในวันนี้ตามกรอบเวลา 105 วัน ซึ่งจากประสบการณ์ในการทำงบประมาณคิดว่าไม่น่าจะมีการถ่วงเวลาเพื่อไม่ให้ทันต่อกรอบเวลาที่กำหนดไว้ดังกล่าวแล้วนำร่างงบประมาณที่รับหลักการในวาระแรกมาใช้ตามที่มีการกล่าวหา
ด้านนายยุทธพงศ์ จรัสเสถียร รองประธานอนุ กมธ.ครุภัณฑ์ฯ กล่าวว่า รอดูการประชุม กมธ.งบประมาณฯ ว่าจะพิจารณาการจัดซื้อเรือดำน้ำอย่างไร หลังจาก พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี ออกมาสั่งให้ชะลอการจัดซื้อเรือดำน้ำในปีนี้ออกไปก่อน เพราะการจะถอยหรือไม่ถอยก็ต้องขึ้นอยู่กับการพิจารณาของ กมธ.งบประมาณฯ หาก กมธ.งบประมาณฯ ถอยเรื่องนี้เพราะนายกรัฐมนตรีสั่งการก็เหมือนกับฝ่ายบริหารครอบงำนิติบัญญัติ
ขณะที่ นพ.เรวัต วิศรุตเวช ส.ส.บัญชีรายชื่อ พรรคเสรีรวมไทย ในฐานะ กมธ.งบประมาณฯ กล่าวว่า เตรียมยื่นหนังสือต่อประธาน กมธ.ฯ ขอใช้สิทธิแปรญัตติงบประมาณตัดงบ 111 ล้านบาทของกระทรวงอุตสาหกรรม เพื่อใช้ในการต่อสู้คดีกับบริษัท คิงส์เกต คอนโซลิเดเต็ด ลิมิเต็ด ประเทศออสเตรเลีย กรณีสั่งปิดเหมืองบริษัท อัครา รีซอร์สเซส จำกัด เนื่องจากหัวหน้า คสช.ไม่ได้เป็นเจ้าหน้าที่รัฐจึงไม่มีสิทธิใช้งบประมาณต่อสู้คดี เพราะเป็นเงินภาษีประชาชนซึ่งศาลรัฐธรรมนูญเคยวินิจฉัยแล้วว่าหัวหน้า คสช.ไม่ใช่เจ้าหน้าที่รัฐ จึงจะขอให้ กมธ.สัดส่วนฝ่ายค้าน และ กมธ.คนอื่นๆ ที่เห็นด้วยในหลักการเดียวกันร่วมลงชื่อ ซึ่งนายยุทธพงศ์ระบุว่า พรรคเพื่อไทยเห็นด้วยในหลักการ และจะร่วมลงชื่อด้วย