“สธ.” ยันสำรอง ยา-เวชภัณฑ์-อุปกรณ์ป้องกัน “โควิด” พร้อมรับมือ หากระบาดระลอก 2

นพ.สุรโชค ต่างวิวัฒน์ รองเลขาธิการสำนักงานอาหารและยา กระทรวงสาธารณสุข (สธ.) ยืนยันมีการจัดเตรียมสำรองยา เวชภัณฑ์ อุปกรณ์ป้องกัน ชุดตรวจ PPE และหน้ากากอนามัย N95 ไว้อย่างเพียงพอทุกโรงพยาบาลทั่วประเทศ เพื่อไว้รองรับหากสถานการณ์การแพร่ระบาดของโควิด-19 ระลอกที่ 2 ในประเทศไทย หลังจากมีบทเรียนจากสถานการณ์การแพร่ระบาดในรอบแรก

“หลังการระบาดใหญ่ช่วงเดือนมีนาคม-เมษายนไปแล้ว เมื่อสถานการณ์คลี่คลายได้มีการเตรียมสำรองอุปกรณ์ต่างๆ ไว้ทุกโรงพยาบาล…เรามีความพร้อมแม้ไม่ต้องการให้เกิดการแพร่ระบาดระลอกที่ 2 ขอยืนยันให้ประชาชนสบายใจได้” นพ.สุรโชค กล่าว

โดย สธ. มีการสำรองยา Favipiravir จำนวน 629,122 เม็ด สำหรับใช้กับผู้ป่วย 8,900 ราย, สำรองยา Remdesivir สำหรับใช้กับผู้ป่วย 33 ราย, หน้ากาก N95 จำนวน 2,344,142 ชิ้น สำหรับใช้กับผู้ป่วย 15,000 ราย, ชุด PPE จำนวน 1,163,450 ชุด สำหรับใช้กับผู้ป่วย 7,700 ราย, หน้ากากอนามัย Surgical Mask จำนวน 45,447,953 ชิ้น ที่สามารถใช้ได้นาน 100 วัน และมีโรงงานผลิต 45 แห่ง กำลังการผลิต 3,418,400 ชิ้น/วัน

ด้าน ภญ.นันทกาญจน์ สุวรรณปิฏกกุล ผู้เชี่ยวชาญองค์การเภสัชกรรม (อภ.) กล่าวว่า ในส่วนของ อภ.ได้มีการสำรองยา Favipiravir ไว้จำนวน 590,200 เม็ด ขณะเดียวกันได้มีการพัฒนายา Favipiravir ถึงขั้นตอนพัฒนาสูตรตำรับเบื้องต้นแล้ว คาดว่ากลางปี 64 จะสามารถขอขึ้นทะเบียนได้ ส่วนการสังเคราะห์วัตถุดิบยา Favipiravir ได้ทำการวิจัยร่วมกับไบโอเทคอีกไม่นานจะมีวัตถุดิบที่สามารถผิตได้เอง สำหรับการพัฒนาและผลิตวัคซีนได้ร่วมมือกับหลายภาคส่วน ทั้งในประเทศและต่างประเทศ ทำให้มีความหลากหลายเทคโนโลยี

สำหรับการสำรองหน้ากาก N95 จำนวน 1,766,510 ชิ้น ชุด PPE แบบคลุมทั้งตัวจำนวน 445,945 ชุด ชุด PPE แบบเสื้อกราวด์จำนวน 287,759 ชุด ถุงมือยางจำนวน 1,350 คู่ นอกจากนี้ยังโรงงานที่พัฒนาชุด Surgical กราวด์ที่รีไซเคิลมาจากขวดเพ็ท