ไทยพบผู้ป่วย “โควิด” ใหม่ 8 ราย มาจากตปท. ดันยอดติดเชื้อสะสม 3,425 คน

"ศบค." เผยไทยพบผู้ป่วย “โควิด” ใหม่ 8 ราย เดินทางมาจากตปท. เข้า State Quarantine ดันยอดติดเชื้อสะสม 3,425 คน


ศูนย์บริหารสถานการณ์การแพร่ระบาดของโรคติดเชื้อไวรัสโคโรนา 2019 (โควิด-19) หรือ ศบค. รายงานสถานการณ์แพร่ระบาดของโรคโควิด-19 ในประเทศ ประจำวันที่ 2 ก.ย.63 เมื่อเวลา 11.00 น. ระบุว่า พบผู้ป่วยยืนยันติดเชื้อรายใหม่ 8 ราย เป็นผู้ที่เดินทางมาจากต่างประเทศ และเข้าพักยังสถานที่เฝ้าระวังที่รัฐจัดให้ (State Quarantine)

ทั้งนี้ ทำให้ยอดผู้ป่วยยืนยันสะสมเพิ่มขึ้นเป็น 3,425 ราย เป็นผู้ป่วยในประเทศ 2,444 ราย และผู้ป่วยที่พบใน State Quarantine จำนวน 488 ราย รักษาหายแล้ว 3,274 ราย ยังรักษาตัวอยู่ในโรงพยาบาล 93 ราย ไม่มีผู้เสียชีวิตเพิ่ม ยอดผู้เสียชีวิตสะสมยังคงอยู่ที่ 58 ราย

สำหรับผู้ติดเชื้อรายใหม่ เป็นผู้ที่เดินทางมาจากสหรัฐอเมริกา 6 ราย โดยรายที่ 1-4 เป็นเพศชาย 2 ราย อายุ 15 และ 48 ปี และเพศหญิง 2 ราย อายุ 13 และ 49 ปี ทั้งหมดเป็นสัญชาติอเมริกัน และเป็นสมาชิกในครอบครัวเดียวกัน เดินทางถึงไทยเมื่อวันที่ 19 ส.ค. เข้าพัก Alternative State Quarantine (ASQ) ใน จ.สมุทรปราการ และตรวจหาเชื้อครั้งที่ 2 ในวันที่ 31 ส.ค. ผลตรวจพบเชื้อ โดยทั้งหมดไม่มีอาการ

ส่วนรายที่ 5-6 เป็นชายไทย อายุ 34 ปี อาชีพรับจ้าง และหญิงไทย อายุ 36 ปี อาชีพรับจ้าง เดินทางถึงไทยเมื่อวันที่ 27 ส.ค. เข้าพัก State Quarantine ใน จ.ชลบุรี และตรวจหาเชื้อครั้งที่ 1 ในวันที่ 31 ส.ค. ผลตรวจพบเชื้อ ทั้ง 2 ราย ไม่มีอาการ

ผู้ป่วยรายที่ 7 เดินทางมาจากออสเตรเลีย เป็นนักศึกษาชายไทย อายุ 27 ปี ถึงไทยเมื่อวันที่ 24 ส.ค. เข้าพัก State Quarantine ใน จ.ชลบุรี และตรวจหาเชื้อครั้งที่ 1 ในวันที่ 27 ส.ค. ผลตรวจพบเชื้อ ไม่มีอาการ

รายที่ 8 มาจากญี่ปุ่น เป็นหญิงไทย อายุ 29 ปี เดินทางมาถึงไทยเมื่อวันที่ 28 ส.ค. เข้าพัก State Quarantine ใน จ.ชลบุรี และตรวจหาเชื้อครั้งที่ 1 ในวันที่ 31 ส.ค. ผลตรวจพบเชื้อ ไม่มีอาการ

ขณะที่สถานการณ์ทั่วโลกวันนี้พบผู้ป่วยยืนยันติดเชื้อโควิดสะสมรวม 25,900,705 คน เสียชีวิต 861,251 คน โดยสหรัฐอเมริกามีผู้ติดเชื้อสะสมมากสุดเป็นอันดับแรก 6,257,571 คน รองลงมา คือ บราซิล มีผู้ติดเชื้อสะสม 3,952,790 คน และอันดับ 3 อินเดีย มีผู้ติดเชื้อสะสม 3,766,108 คน ส่วนประเทศไทยอยู่ในอันดับที่ 121

Back to top button