Daily view (PM) – บล.กสิกรไทย
บริษัทหลักทรัพย์ กสิกรไทย สรุปทิศทางและแนวโน้มตลาดบ่ายนี้
เคาะกลยุทธ์ลงทุนบ่าย
สรุปภาวะตลาดเช้า
– SET Index ปรับตัวลงเช่นเดียวกับตลาดหุ้นต่างประเทศ โดยร่วงลงมาปิดภาคเช้าที่ระดับ 1,313.18 จุด -52.43 จุด (-3.84%) ด้วยมูลค่าการซื้อขายหนาแน่นถึง 32,800.41 ลบ.
– Most Positive Impact: TCIF (+0.94 จุด)/ SPC (+0.0.10 จุด)/ THIF (+0.03 จุด)
– Most Negative Impact: PTT (-4.53 จุด)/ SCC (-3.55 จุด)/ SCB (-2.69 จุด)
จุดสังเกต: SET Index ปรับตัวลงด้วยแรงขายหุ้นใหญ่ในกลุ่ม Energy, Bank, ICT และ Conmat
แนวโน้มตลาดบ่าย
– “มีโอกาสฟื้นตัวลดช่วงลบ” ตลาดช่วงเช้าแย่กว่าคาด และหลุดระดับเสี่ยงซื้อที่ 1,340 จุด ตั้งแต่เปิดตลาด สำหรับตลาดหุ้นในช่วงบ่ายมีโอกาสฟื้นตัว (technical rebound) ลดช่วงลบกลับขึ้นมาบ้าง 10-15 จุด หลังตลาดหุ้นต่างประเทศเริ่มชะลอการปรับถอย อย่างไรก็ตาม เรามองการฟื้นตัว ยังมีความเสี่ยงต่อการลงต่อ เนื่องจากตลาดยังคงถูกปกคลุมด้วยจิตวิทยาเชิงลบเรื่องการชะลอตัวของเศรษฐกิจจีน ซึ่งกดดันทั้งเศรษฐกิจโลกและราคาสินค้าโภคภัณฑ์ (แนวต้าน: 1,320 และ 1,325 // แนวรับ: 1,310 และ 1,300)
– ขณะที่การทำงานวันแรกของรองนายกฯ สมคิด จาตุศรีพิทักษ์ เสนอเพียงแนวทางกระตุ้นเศรษฐกิจอย่างกว้างๆ โดย 1) เตรียมหามาตรการช่วยเหลือเศรษฐกิจระดับรากหญ้า, 2) เน้นการพัฒนาลงทุนโครงสร้างพื้นฐานในประเทศและในเขตอุตสาหกรรม, 3) ประสานงานต่างประเทศในการเจรจาการค้า (หารือกับเอกชนและหน่วยงานเกี่ยวข้องวันที่ 27 ส.ค.) ทำให้ยังคงต้องรอดูต่อไปว่าจะมีมาตรการที่เรียกความเชื่อมั่นของนักลงทุนระยะสั้นได้มากเพียงใด
– หุ้นแนะนำภาคบ่าย: เก็งกำไรฟื้นตัวระยะสั้น PTT (ราคาหุ้นปัจจุบันอยู่ที่ระดับ 0.96x PBV ซึ่งใกล้เคียงรัดับต่ำสุดในช่วงวิกฤติซับไพรม์, เป้าทางกลยุทธ์ 260 ตัดขาดทุน 245)
– หุ้นใหญ่น่าสนใจเชิงกลยุทธ์: (ซื้อเมื่ออ่อนตัว) ADVANC DTAC TRUE KTB MINT AOT
– หุ้นเล็กเก็งกำไรเชิงกลยุทธ์: CHOW TPIPL SVI (ตั้งจุดตัดขาดทุน 3-5%)
คำแนะนำ
กลยุทธ์: “ฟื้นตัว แต่ยังระวังแรงขายทำกำไรสลับในกลุ่มที่ยังลงน้อย” การขายรอบนี้เป็นเหตุผลในเชิงฟันด์โฟลว ซึ่งยากแก่การระบุความเสี่ยงทางลง อย่างไรก็ตามแม้ดัชนีเสี่ยงต่อการลงต่อ แต่โอกาสฟื้นตัวระยะสั้นจะเริ่มเพิ่มขึ้น (และมีต้นทุนการตัดขาดทุนที่ต่ำ) อย่างไรก็ตามเราแนะนำนักลงทุนระวังแรงทำกำไรในกลุ่มและหุ้นที่ยัง Outperform มากตั้งแต่ต้นปี ได้แก่หุ้นในกลุ่ม HELTH, CONMAT, FIN และ ETRON การเก็งกำไร Technical rebound ตั้ง stop loss ทุกครั้ง สำหรับผู้มีหุ้น 100% ควรแบ่งขายตัดขาดทุนเพื่อถือเงินสด 20-25% ไว้ใช้แก้สถานการณ์ ซึ่งเราขอประเมินจุดซื้ออีกครั้ง
Trading Idea
– ผลกระทบจากการที่เงินบาทอ่อนค่า: (+)หุ้นที่ได้ประโยชน์คือ CFRESH, HANA, SAPPE, TUF, SVI, DELTA และ KCE / (-)หุ้นที่ได้รับผลกระทบเชิงลบคือ THAI และ AAV
– Opportunity day: 24 ส.ค. TOP ERW CHO BJCHI RICHY KTIS / 25 ส.ค. FPI TVD TRT PPS SPA BKD KCM
ประเด็นจับตา/ติดตาม
– (+/-) ความกังวลเศรษฐกิจจีนชะลอตัว – เราคาดธนาคารกลางจีน (PBOC) จะออกมาตรการกระตุ้นเศรษฐกิจ (ลดอัตราดอกเบี้ย/อัตราเงินกันสำรอง หรือ RRR) ซึ่งจะเป็นบวกต่อตลาดหุ้น