ครึ่งบ่ายไม้สั้น – บล.คันทรี่กรุ๊ป
บริษัทหลักทรัพย์ คันทรี่กรุ๊ป สรุปทิศทางและแนวโน้มตลาดบ่ายนี้
สรุปตลาดภาคเช้า
ตลาดภาคเช้าปิดปรับตัวลดลง ในทิศทางเดียวกันกับตลาดรอบบ้าน
โดยแรงกดดันมาจากความกังวลต่อการเติบโตของเศรษฐกิจโลก และโมเมนตัมลบจากตลาดหุ้นสหรัฐที่ปรับลดลงแรง โดยหุ้นกลุ่มหลักที่นำตลาดลงคือหุ้นกลุ่มพลังงาน ซึ่งปรับตัวลงแรงตามราคาน้ำมัน WTI ซึ่งหลุด 40$/bbl ปิดตลาดภาคเช้าดัชนีเปลี่ยนแปลง -52.43 จุด มาที่ระดับ 1,313.18 จุด ด้วยมูลค่าการซื้อขายที่ระดับ 3.3 หมื่นล้านบาท
แนวโน้ม ภาคบ่าย
ประเมินดัชนีมีแนวโน้มอ่อนตัวลง มอง Sentiment ลบจากต่างประเทศจะกดดันไปทดสอบแนวรับ 1,300 จุด สำหรับค่าเงินบาทยังอ่อนค่าต่อในภาคเช้าจะกระตุ้น Fund Flow ต่างชาติให้ไหลออก อย่างไรก็ดี จากที่ตลาดไทยอ่อนแอมาก่อนหน้าตลาดหุ้นโลก เราจึงให้จับตาแรงขายที่ลดลงของนักลงทุนต่างชาติเป็นหลักเพื่อกำหนดจังหว่ะการเข้าสะสมหุ้นในระยะสั้น สำหรับระยะยาวเรายังชื่นชอบหุ้นกลุ่มกลุ่มอาหารและกลุ่มอิเล็กทรอนิกส์ ซึ่งได้ประโยชน์จากเงินบาทอ่อนค่า
วิเคราะห์ทางเทคนิค
WIIK ราคาปิด 3.04 บาท
แนวรับ 3.00 บาท แนวต้าน 3.24, 3.50 บาท
แนว cut loss หากใกล้จะหลุด 2.96 บาท
กราฟ WIIK ทิ้งตัวลงแตะแนวรับสำคัญบริเวณ 3 บาทอีกครั้งหนี่ง โดยแนวรับดังกล่าวนี้จะเกิดการดีดตัวอย่างแรงขึ้นไปทุกครั้ง ดังนั้นโดยสถิติควรจะมีการเด้งตัวในไม่ช้านี้ ประกอบกับปริมาณโวลุ่มซื้อสะสมตลอด 1 เดือนยังมีปริมาณมาก เมื่อเทียบกับการปรับตัวลงในวันนี้มีโวลุ่มไม่หนาแน่นจึงคาดว่าแรงขายควรจะจบเร็วและเด้งตัวได้ง่ายเช่นกัน จึงแนะนำตั้งรับ และเก็งกำไร
เด็กแนว
SET ถือว่าแข็งแรงกว่าเพื่อนบ้านของเรา โดยปิดเที่ยงดัชนีอ่อนตัว 3.8% แต่อินโดฯ นั้นโดยถล่มไป 4.4% และฟิลิปปินส์โดนไป 7.2% แต่ในช่วงบ่ายนั้นต้องบอกว่ามีความเสียวที่จะลงต่อเพราะพวกยุโรปเพิ่งตื่นนอน และเมื่อเห็น DJF ร่วงลงลึกอย่างนี้ เราคงต้องมาทำใจช่วงบ่ายกันอีกแล้ว สิ่งที่นักลงทุนจะต้องตั้งมั่นคือความอดทน และสติในการคิดไตร่ตรองว่าหุ้นที่เราลงทุนไว้นั้นถูกขายออกมาด้วยเหตุใด ถ้าขายตามๆ กันเพราะกลัวตลาดลงโอกาสในการดีดตัวขึ้นจะง่ายกว่าหุ้นที่ถูกขายเพราะอยู่ในมือกองทุนหรือฝรั่ง เนื่องจากกลุ่มนี้ต้องการถือเงินสดอย่างชัดเจนเมื่อภาวะเศรษฐกิจและการลงทุนมี่ความเสี่ยง แต่ถ้าเป็นหุ้นรายย่อยเล่นหากไม่ได้ขาย short ออกมาก่อนหน้านี้ ถึงจุดๆ นี้ต้องลุ้นการดีดตัวแล้วค่อยหาจังหวะขายน่าจะมีความเสียหายที่น้อยกว่า แต่หลีกเลี่ยงความเสียหายไม่ได้ เพราะทั่วโลกก็โดนในลักษณะเดียวกันหมด ขอเป็นกำลังใจให้ทุกอย่างผ่านพ้นไปด้วยดี
– CHO บริษัทเซ็นสัญญางานเดินรถโดยสาร NGV ในมหาวิทยาลัยขอนแก่นไปเมื่อปลายสัปดาห์ก่อน ซึ่งเป็นสัญญา 5 ปีและสามารถต่ออายุได้ 2 ครั้ง ๆ ละ 3 ปี มูลค่าโครงการประมาณ 423.50 ล้านบาท พร้อมระบบบริหารการเดินรถ คาดว่าจะเปิดให้บริการได้ภายในปลายปีนี้ จึงจะเริ่มรับรู้รายได้ตั้งแต่ปลายปีนี้ในอัตรา 38.50 ล้านบาท/ปี งานนี้ถือว่าเป็นการตีหัว ขสมก. กันจะจะ เพราะมัวแต่เรื่องมาก จนป่านนี้คนใน กทม.หลายล้านคนยังคงต้องรอนั่งต่อไป อย่างไรก็ตาม ในแผนงานนั้นกลางเดือนกันยายน จะสามารถเซ็นต์กับ ขสมก. ได้ ซึ่งหากเป็นไปตามแผนก็จะส่งมอบรถกว่า 400 คัน ให้ทันปี 58 ก็เท่ากับบริษัทมีรายได้สองเด้ง และเป็นงานที่สามารถนำมาเป็นตัวอ้างอิงสำหรับรับงานใหญ่ต่อไปในอนาคต ด้านแนวโน้มกราฟตรงนี้เป็นราคาต่ำสุดในรอบ 12 เดือน และเป็นระดับราคาที่เคยเด้งแรงมาแล้วจึงจัดเป็น double bottom และ Oversold พอดี มาลุ้นเด้งภายใต้ภาวะ Black Monday แนวเด้ง 3.60 บาท