“สภาพัฒน์” แจงงบฟื้นฟูศก.-สังคม 4 แสนลบ. เบิกจ่ายแล้ว 1.8% ปัดล่าช้า ยันดำเนินการรัดกุม
“สภาพัฒน์” แจงงบฟื้นฟูศก.-สังคม 4 แสนลบ. เบิกจ่ายแล้ว 1.8% ปัดล่าช้า ยันดำเนินการรัดกุม
นายดนุชา พิชยนันท์ รองเลขาธิการสภาพัฒนาการเศรษฐกิจและสังคมแห่งชาติ (สศช.) หรือ สภาพัฒน์ ในฐานะโฆษก ชี้แจงการดำเนินการ พ.ร.ก. กู้เงิน 1 ล้านล้านบาท ในส่วนการดำเนินงานตามแผนฟื้นฟูเศรษฐกิจและสังคม วงเงิน 400,000 ล้านบาท ที่สำนักงานฯ เป็นหน่วยงานรับผิดชอบหลักนั้น ว่า ณ วันที่ 16 ก.ย. 63 ครม. ได้อนุมัติโครงการในรอบที่ 1 แล้ว 229 โครงการ วงเงิน 60,131 ล้านบาท (รวมวงเงินของ โครงการที่ ครม. มีมติให้ใช้จ่ายงบกลางจำนวน 160 โครงการ รวม 1,132 ล้านบาท)
โดยขณะนี้ยังมีโครงการที่คณะกรรมการฯ ได้มีมติเห็นชอบในหลักการของโครงการแล้ว แต่ยังอยู่ระหว่างปรับปรุงข้อเสนอโครงการ อีก 2 โครงการ ได้แก่ โครงการยกระดับเศรษฐกิจชุมชนด้วยการสร้างงาน สร้างอาชีพ และสร้างรายได้ฯ และโครงการยกระดับเศรษฐกิจและสังคมรายตำบลแบบบูรณาการ (1 ตำบล 1 มหาวิทยาลัย) วงเงินรวมประมาณ 30,000 ล้านบาท ซึ่งคาดว่าจะสามารถเสนอให้ ครม. พิจารณาได้ภายในเดือน ก.ย. 2563 ตามแผนการดำเนินงานที่คณะกรรมการฯ ได้เสนอ ครม. ไว้
อย่างไรก็ดี ขณะนี้มีการเบิกจ่ายเพียง 1.80% ของวงเงินอนุมัติ ซึ่งจากการพิจารณาแผนดำเนินโครงการตามข้อเสนอของหน่วยงานรับผิดชอบ พบว่าส่วนใหญ่ได้กำหนดว่าจะมีการเบิกจ่ายงวดแรกได้ในเดือน ก.ย. 63 เนื่องจากภายหลังจากที่ได้รับอนุมัติจาก ครม. ให้ดำเนินโครงการแล้ว หน่วยงานรับผิดชอบโครงการจะต้องเตรียมการจัดซื้อจัดจ้างให้เป็นตามขั้นตอนและระเบียบที่เกี่ยวข้อง เพื่อให้การใช้จ่ายเงินกู้เป็นไปด้วยความโปร่งใสและรัดกุม
อนึ่ง พ.ร.ก. กู้เงิน 1 ล้านล้านบาท ได้กำหนดว่าการกู้เงินตาม พ.ร.ก. จะนำไปใช้ใน 3 เรื่องหลัก ได้แก่ (1) เพื่อแก้ไขปัญหาการระบาดของโรคติดเชื้อไวรัสโคโรนา 2019 (2) เพื่อช่วยเหลือ เยียวยาและชดเชยให้แก่ภาคประชาชน เกษตรกร และผู้ประกอบการซึ่งได้รับผลกระทบจากการระบาดของโรคติดเชื้อไวรัสโคโรนา 2019 และ (3) เพื่อฟื้นฟูเศรษฐกิจและสังคมที่ได้รับผลกระทบจากการระบาดของโรคติดเชื้อไวรัสโคโรนา 2019
โดยในส่วนการแก้ไขปัญหาการระบาดของโรคติดเชื้อไวรัสโคโรนา 2019 นั้น มีกระทรวงสาธารณสุข (สธ.) เป็นหน่วยงานรับผิดชอบหลัก ปัจจุบัน ครม. ได้พิจารณาเห็นชอบแผนงาน/โครงการตามที่ สธ. เสนอ รวม 5 โครงการ วงเงินรวม 4,724 ล้านบาท โดยให้ใช้จ่ายจากเงินกู้รวม 3 โครงการ วงเงิน 102 ล้านบาท และเงินงบประมาณ (งบกลาง) 2 โครงการ วงเงิน 4,662 ล้านบาท โดยในส่วนที่เหลือ สธ. อยู่ระหว่างดำเนินการตามมติ ครม. เมื่อวันที่ 21 ก.ค. 63
ขณะที่การให้ความช่วยเหลือ เยียวยาและชดเชยให้แก่ภาคประชาชน เกษตรกร และผู้ประกอบการซึ่งได้รับผลกระทบจากการระบาดของโรคติดเชื้อไวรัสโคโรนา 2019 ณ วันที่ 14 ก.ย. 63 ครม. ได้อนุมัติการใช้จ่ายเงินกู้เพื่อให้ความช่วยเหลือประชาชนในภาคส่วนต่างๆ รวม 30.51 ล้านราย (ต่ำกว่ากรอบจำนวนผู้มีสิทธิได้รับความช่วยเหลือของหน่วยงานรับผิดชอบรวม 45 ล้านราย)
วงเงินรวม 344,735 ล้านบาท (เบิกจ่าย 86.24% ของกรอบวงเงินอนุมัติ) โดยสาเหตุที่ไม่สามารถเบิกจ่ายได้ 100% ส่วนใหญ่เนื่องมาจากมีจำนวนประชาชนที่มีคุณสมบัติตรงตามคุณสมบัติที่กำหนดไว้ต่ำกว่าเป้าหมาย