DTAC วางงบ 80 ลบ. ปรับกลยุทธ์รุกตลาดลูกค้าเติมเงิน หวังหนุนผลงานไตรมาส 4/63 สดใส
DTAC วางงบ 80 ลบ. ปรับกลยุทธ์รุกตลาดลูกค้าเติมเงิน หวังหนุนผลงานไตรมาส 4/63 สดใส
นายฮาว ริเร็น รองประธานเจ้าหน้าที่บริหาร กลุ่มการตลาด บริษัท โทเทิ่ล แอ็คเซ็ส คอมมูนิเคชั่น จำกัด (มหาชน) หรือ DTAC เปิดเผยว่า บริษัทฯวางงบการตลาด ดีแทคเติมเงิน ในเฟสแรก 80 ล้านบาท ปรับกลยุทธ์การตลาดครั้งใหญ่ แบรนด์ดิ้งดีแทคเติมเงินยุคชีวิตวิถีใหม่ ชูจุดยืน เป็นมากกว่าแค่ชิมเติมเงิน มุ่งเติมเต็มความต้องการของผู้ใช้บริการ ด้วยความเข้าใจ เข้าถึง และพร้อมเข้าไปมีส่วนร่วมในชีวิตประจำวัน จากการใช้งาน “ซิมแฮปปี้เน็ต” และ “ซิมแฮปปี้คอล” ที่จะเติมชีวิตให้ไปต่อได้ ด้วย 3 สิ่งดีๆ คือ สัญญาณดี ราคาดี และบริการใจดี
สำหรับบริการใจดีจะมีด้วยกันถึง 11 บริการ ที่คิดมาจากความเข้าใจและตอบโจทย์ของลูกค้ากลุ่มเติมเงินโดยเฉพาะ ไม่ว่าจะเป็น ใจดีให้โอน ใจดีต่อโปรให้นะ ที่จะช่วยให้ชีวิตประจำวันของลูกค้าดีแทคเติมเงินเดินไปได้อย่างราบรื่น อีกทั้งยังมีบริการใจดีช่วยออกค่ายาเพื่อลดค่าใช้จ่ายให้กับลูกค้าด้วย โดยวางเป้าหมายจะเข้าร่วมกับร้านขายยาทั่วประเทศ ให้ครบทุกตำบล หรือ 7,000 ร้าน ใน 7,000 ตำบล ในปี 64 และในสิ้นปี 63 วางเป้าจะร่วมกับร้านขายยาในทุกอำเภอที่มีอยู่ 700 อำเภอ จากปัจจุบันมีร้านขายยาเข้าร่วมแล้ว 77 ร้าน
ทั้งนี้ ดีแทคยังจับมือกับพันธมิตรในกลุ่มสินค้าและบริการที่เข้าถึงความต้องการในชีวิตประจำวันของลูกค้า เช่น ไทยน้ำทิพย์, สถานีบริการน้ำมัน PT และธนาคารกสิกรไทย โดยร่วมมือเติมความสุขให้กับลูกค้า ด้วยการแจกฟรี “ซิมเติมสุข” เพื่อให้ลูกค้าได้ทดลองใช้ซิมดีแทคเติมเงินทั่วประเทศ โดยเบื้องต้นวางเป้าไว้ที่ 5 แสนซิม ใน 2 เดือน
“จากการวิเคราะห์ตลาดและพฤติกรรมลูกค้า พบว่า ผู้ใช้บริการดีแทค มีปริมาณการใช้งานดาต้าเพิ่มขึ้น 70% ของปริมาณการใช้งานดาต้าต่อเดือน ต่อผู้ใช้งานแบบเติมเงิน เมื่อเทียบกับปีก่อน ขณะที่ปริมาณการใช้งานดาต้าในพื้นที่ภูมิภาคนั้นเติบโตสูงกว่ากรุงเทพฯ เพิ่มขึ้น 5 เท่า หลังสถานการณ์โควิด มีจำนวนผู้ใช้งานในระบบเติมเงิน (active user) เพิ่มขึ้น 2 เท่าบนดีแทคแอปที่เพิ่มขึ้นในแต่ละเดือน เมื่อเทียบกับไตรมาสเดียวกันของปีก่อน
ดีแทคจึงได้ศึกษาทำความเข้าใจ และเข้าถึงโจทย์การดำเนินชีวิตของผู้ใช้บริการดีแทค และเห็นว่าการเชื่อมต่อเป็นสิ่งจำเป็น รวมทั้งบริการที่แสดงถึงควมห่วงใย และต้องการเข้าไปมีบทบาทในการช่วยเหลือสนับสนุนการดำเนินชีวิตประจำวันของลูกค้า การปรับจุดยืนให้ของแบรนด์ ดีแทคเติมเงิน ครั้งนี้ ยังได้เน้นที่ความเข้าใจในสิ่งที่ลูกค้าต้องการในชีวิต และมีความพยายามที่จะตอบสนองความต้องการให้เป็นมากกว่าแค่ชิมเติมเงิน แต่เติมชีวิตให้ไปต่อได้ ด้วย 3 สิ่งดีๆ คือ สัญญาณดี ราคาดี บริการใจดี”
ส่วนราคาดี ดีแทคได้เติมความคุ้มที่หลากหลาย ด้วยการให้ราคาดี ทั้งเน็ตทั้งโทร มีโปรไม่อั้น และยังเติมความคุ้มครอง ด้วยประกันอุบัติเหตุ แพ็กเกจและการใช้งานที่ออกแบบพิเศษที่เฉพาะเจาะจงในกลุ่มอาชีพ เช่น กลุ่มอาชีพมอเตอร์ไซด์รับจ้าง กลุ่มนักศึกษา หรือเติมความสนุกด้วยไอเทมเกมพิเศษๆ กับ freefire และเติมความพิเศษด้วย dtac reward ที่มีทั้งฟรี-แถม-ลด กว่า 30,000 ร้านค้าทั่วไทย
นอกจากนี้ยังเป็นเครือข่ายที่ดาวน์โหลดเร็วที่สุดในไทย รับรองโดย OPENSIGNAL โดยดีแทคตั้งเป้าจะขยายบริการ 4G-TDD บนคลื่น 2300 MHZ ที่ให้บริการบนคลื่นทีโอที เป็นจำนวนมากกว่า 20,000 สถานีฐาน ภายในปี 63 เพื่อตอกย้ำในความเป็นผู้นำการให้บริการ 4G-TDD ซึ่งเป็นระบบที่สมาร์ทโฟน และอุปกรณ์สื่อสารของลูกค้าดีแทคมากกว่า 76% รองรับการใช้งาน และดีแทคยังเร่งขยาย Massive MIMO ในพื้นที่ที่มีการใช้งานหนาแน่นทั่วประเทศ เพื่อเพิ่มประสิทธิภาพการใช้งานที่ดีกว่าเดิม 3 เท่า
ขณะเดียวกันดีแทคกำลังขยายบริการ 4G เพิ่มขึ้นทั่วประเทศ โดยนำคลื่น 700 MHz มาเพิ่มความครอบคลุมของสัญญาณในภูมิภาคทั่วไทย โดยพร้อมที่จะให้บริการหลังจาก กสทช. ได้มอบใบอนุญาตใช้งานคลื่นความถี่ 700 MHz คาดว่าจะได้รับภายในไตรมาส 4/63
โดยปัจจุบันดีแทคมีลูกค้าเติมเงินจำนวน 12.71 ล้านเลขหมาย คาดหวังว่าจากการปรับกลยุทธ์การตลาดในครั้งนี้ โดยเฉพาะการแจกฟรี “ซิมเติมสุข” เพื่อให้ลูกค้าได้ทดลองใช้ซิมดีแทคเติมเงินก็น่าจะทำให้มีจำนวนลูกค้าเติมเงินและยอดเติมเงินเข้ามาเพิ่มขึ้น และน่าจะทำให้ไตรมาส 4/63 ปรับตัวดีขึ้น