สรุปภาวะตลาดต่างประเทศ ประจำวันที่ 17 ก.ย. 2563

สรุปภาวะตลาดต่างประเทศ ประจำวันที่ 17 ก.ย. 2563


ดัชนีดาวโจนส์ตลาดหุ้นนิวยอร์กปิดลบเมื่อคืนนี้ (17 ส.ค.) โดยได้รับปัจจัยลบจากคำสั่งขายหุ้นกลุ่มเทคโนโลยีและกลุ่มการเงิน รวมทั้งข้อมูลเศรษฐกิจที่ซบเซาของสหรัฐ นอกจากนี้ ตลาดยังคงได้รับแรงกดดันจากการที่นายเจอโรม พาวเวล ประธานธนาคารกลางสหรัฐ (เฟด) ได้แสดงความกังวลเกี่ยวกับทิศทางเศรษฐกิจและตลาดแรงงานของสหรัฐ

ดัชนีเฉลี่ยอุตสาหกรรมดาวโจนส์ปิดที่ 27,901.98 จุด ลดลง 130.40 จุด หรือ -0.47% ขณะที่ดัชนี Nasdaq ปิดที่ 10,910.28 จุด ลดลง 140.19 จุด หรือ -1.27% ส่วนดัชนี S&P500 ปิดที่ 3,357.01 จุด ลดลง 28.48 จุด หรือ -0.84%

 

ตลาดหุ้นยุโรปปิดปรับตัวลงเมื่อคืนนี้ (17 ก.ย.) เนื่องจากนักลงทุนขายหุ้นเพื่อทำกำไรหลังตลาดบวกต่อเนื่อง 4 วันติดต่อกัน โดยหุ้นกลุ่มธนาคารได้รับผลกระทบจากแนวโน้มที่อัตราดอกเบี้ยจะอยู่ใกล้ระดับ 0% ต่อไปอีกนาน ขณะที่หุ้นกลุ่มเทคโนโลยีของยุโรปเผชิญแรงขายเช่นเดียวกับในตลาดหุ้นสหรัฐ

ดัชนี Stoxx Europe 600 ลดลง 0.51% ปิดที่ 371.23 จุด

ดัชนี CAC-40 ตลาดหุ้นฝรั่งเศสปิดที่ 5,039.50 จุด ลดลง 34.92 จุด หรือ -0.69%, ดัชนี FTSE 100 ตลาดหุ้นลอนดอนปิดที่ 6,049.92 จุด ลดลง 28.56 จุด หรือ -0.47% และดัชนี DAX ตลาดหุ้นเยอรมนีปิดที่ 13,208.12 จุด ลดลง 47.25 จุด หรือ -0.36%

 

ตลาดหุ้นลอนดอนปิดปรับตัวลงเมื่อคืนนี้ (17 ก.ย.) โดยหุ้นกลุ่มธนาคารถูกกดดันจากการที่ธนาคารกลางอังกฤษ (BoE) ส่งสัญญาณที่จะใช้อัตราดอกเบี้ยติดลบ และหุ้นกลุ่มเทคโนโลยีเผชิญแรงขายเช่นเดียวกับในตลาดหุ้นสหรัฐ

อย่างไรก็ตาม เงินปอนด์ที่อ่อนค่าลงช่วยหนุนหุ้นกลุ่มส่งออก และหนุนตลาดขยับขึ้นพ้นจุดต่ำสุดของวัน

ดัชนี FTSE 100 ตลาดหุ้นลอนดอนปิดที่ 6,049.92 จุด ลดลง 28.56 จุด หรือ -0.47%

 

สัญญาน้ำมันดิบเวสต์เท็กซัส (WTI) ตลาดนิวยอร์กปิดบวกเมื่อคืนนี้ (17 ก.ย.) หลังจากที่ประชุมของกลุ่มประเทศผู้ส่งออกน้ำมัน (โอเปก) และชาติพันธมิตร หรือโอเปกพลัส ให้คำมั่นที่จะปฏิบัติตามข้อตกลงปรับลดกำลังการผลิต

สัญญาน้ำมันดิบ WTI ส่งมอบเดือนต.ค. เพิ่มขึ้น 81 เซนต์ หรือ 2% ปิดที่ 40.97 ดอลลาร์/บาร์เรล

สัญญาน้ำมันดิบเบรนท์ (BRENT) ส่งมอบเดือนพ.ย. พุ่งขึ้น 1.08 ดอลลาร์ หรือ 2.6% ปิดที่ 43.30 ดอลลาร์/บาร์เรล

 

สัญญาทองคำตลาดนิวยอร์กปิดร่วงลงเมื่อคืนนี้ (17 ก.ย.) เนื่องจากนักลงทุนผิดหวังต่อการที่ธนาคารกลางสหรัฐ (เฟด) ไม่ได้เปิดเผยมาตรการกระตุ้นเศรษฐกิจครั้งใหม่ในการประชุมเมื่อวันพุธที่ผ่านมา แม้คณะกรรมการเฟดส่งสัญญาณตรึงอัตราดอกเบี้ยที่ระดับต่ำต่อไปอีก 3 ปีก็ตาม

สัญญาทองคำตลาด COMEX (Commodity Exchange) ส่งมอบเดือนธ.ค. ร่วงลง 20.6 ดอลลาร์ หรือ 1.05% ปิดที่ 1,949.9  ดอลลาร์/ออนซ์

สัญญาโลหะเงินส่งมอบเดือนธ.ค. ลดลง 37.6 เซนต์ หรือ 1.37% ปิดที่ 27.1 ดอลลาร์/ออนซ์

สัญญาพลาตินัมส่งมอบเดือนต.ค. ร่วงลง 42.6 ดอลลาร์ หรือ 4.38% ปิดที่ 930.9 ดอลลาร์/ออนซ์

สัญญาพัลลาเดียมส่งมอบเดือนธ.ค. ดิ่งลง 82.30 ดอลลาร์ หรือ 3.4% ปิดที่ 2,335.30 ดอลลาร์/ออนซ์

 

ดอลลาร์สหรัฐอ่อนค่าลงเมื่อเทียบกับสกุลเงินหลักๆ ในการซื้อขายที่ตลาดปริวรรตเงินตรานิวยอร์กเมื่อคืนนี้ (17 ก.ย.) หลังจากที่ธนาคารกลางสหรัฐ (เฟด) ส่งสัญญาณว่าจะคงอัตราดอกเบี้ยใกล้ 0% เป็นเวลาอย่างน้อย 3 ปี นอกจากนี้ ดอลลาร์ยังได้รับแรงกดดันจากข้อมูลเศรษฐกิจที่ซบเซาของสหรัฐ

ดอลลาร์สหรัฐอ่อนค่าเมื่อเทียบกับเงินเยน ที่ระดับ 104.69 เยน จากระดับ 105.00 เยน และอ่อนค่าเมื่อเทียบกับฟรังก์สวิส ที่ระดับ 0.9089 ฟรังก์ จากระดับ 0.9100 ฟรังก์ แต่เมื่อเทียบกับดอลลาร์แคนาดา ดอลลาร์สหรัฐแข็งค่าขึ้นแตะที่ระดับ 1.3174 ดอลลาร์แคนาดา จากระดับ 1.3168 ดอลลาร์แคนาดา

ยูโรแข็งค่าเมื่อเทียบกับดอลลาร์สหรัฐ ที่ระดับ 1.1838 ดอลลาร์ จากระดับ 1.1802 ดอลลาร์ ขณะที่เงินปอนด์แข็งค่าขึ้นแตะที่ระดับ 1.2960 ดอลลาร์ จากระดับ 1.2954 ดอลลาร์ ส่วนดอลลาร์ออสเตรเลียแข็งค่าขึ้นสู่ระดับ 0.7304 ดอลลาร์สหรัฐ จากระดับ 0.7298 ดอลลาร์สหรัฐ

 

Back to top button