น้ำมันดิบปิดร่วงกว่า 2 ดอลล์ วิตกตลาดหุ้นร่วงฉุดศก.โลกชะลอตัว
สัญญาน้ำมันดิบเวสต์เท็กซัส (WTI) ตลาดนิวยอร์กปิดร่วงลงเมื่อคืนนี้ (24 ส.ค.) เนื่องจากการร่วงลงอย่างหนักของตลาดหุ้นทั่วโลกส่งผลให้นักลงทุนวิตกกังวลเกี่ยวกับการชะลอตัวของเศรษฐกิจและอุปสงค์พลังงานทั่วโลก
สำนักข่าวอินโฟเควสท์รายงานว่า สัญญาน้ำมันดิบ WTI ส่งมอบเดือนต.ค.ร่วงลง 2.21 ดอลลาร์ ปิดที่ 38.24 ดอลลาร์/บาร์เรล ส่วนสัญญาน้ำมันดิบเบรนท์ส่งมอบเดือนต.ค.ดิ่งลง 2.77 ดอลลาร์ ปิดที่ 42.69 ดอลลาร์/บาร์เรล
นักลงทุนเทขายสัญญาน้ำมันดิบเนื่องจากความวิตกกังวลว่า การร่วงลงของตลาดหุ้นทั่วโลกอาจจะส่งผลให้เศรษฐกิจและอุปสงค์พลังงานทั่วโลกอ่อนแรงลงด้วย โดยเมื่อวานนี้ ดัชนีเซี่ยงไฮ้คอมโพสิตตลาดหุ้นจีนที่ดิ่งลงไปกว่า 8% แม้มีรายงานว่าทางการจีนเปิดทางให้กองทุนบำเหน็จบำนาญสามารถลงทุนในตลาดหุ้นได้ก็ตาม
ขณะที่ดัชนีดาวโจนส์ตลาดหุ้นนิวยอร์กร่วงลงกว่า 500 จุดและปิดที่ระดับต่ำกว่า 16,000 จุดเป็นครั้งแรกนับตั้งแต่เดือนก.พ.ปีที่แล้ว ส่วนตลาดหุ้นยุโรปร่วงลงอย่างถ้วนหน้า อันเป็นผลมาจากความวิตกกังวลเกี่ยวกับการชะลอตัวของเศรษฐกิจทั่วโลกเช่นกัน
นอกจากนี้ สัญญาน้ำมันดิบยังได้รับแรงกดดันจากความวิตกกังวลเกี่ยวกับภาวะอุปทานล้นตลาด หลังจากนายไบจัน นามดาร์ ซากาเนห์ รมว.พลังงานอิหร่านเปิดเผยว่า อิหร่านวางแผนที่จะผลิตน้ำมันเพิ่มขึ้นเพื่อปกป้องส่วนแบ่งตลาดของประเทศ
ด้านกลุ่มประเทศผู้ส่งออกน้ำมัน (OPEC) เปิดเผยว่า ปริมาณการผลิตน้ำมันในเดือนก.ค.เพิ่มขึ้น 101,000 บาร์เรลต่อวัน สู่ระดับเฉลี่ย 31.51 ล้านบาร์เรลต่อวัน ขณะที่โกลด์แมน แซคส์ระบุว่า ตลาดน้ำมันโลกมีปริมาณน้ำมันส่วนเกินอยู่ 2 ล้านบาร์เรลต่อวันในขณะนี้ เมื่อเทียบกับระดับ 1.8 ล้านบาร์เรลต่อวันในช่วง 6 เดือนแรกของปีนี้
นายแอนดรูว์ ไลพาว ประธานบริษัทไลพาว ออยล์ แอสโซซิเอทส์ กล่าวว่า น้ำมันจะยังคงเผชิญแรงกดดันจนถึงเดือนมี.ค.ปีหน้า ขณะที่สต็อกน้ำมันเพิ่มขึ้น โดยเขาคาดการณ์ราคาน้ำมันดิบจะเคลื่อนไหวในช่วง 32-34 ดอลลาร์ในอีก 6 เดือนข้างหน้า