สรุปภาวะตลาดต่างประเทศ ประจำวันที่ 21 ก.ย. 2563

สรุปภาวะตลาดต่างประเทศ ประจำวันที่ 21 ก.ย. 2563


ดัชนีดาวโจนส์ตลาดหุ้นนิวยอร์กปิดร่วงลงกว่า 500 จุดเมื่อคืนนี้ (21 ก.ย.) เนื่องจากนักลงทุนวิตกกังวลเกี่ยวกับการใช้มาตรการล็อกดาวน์รอบที่สองในยุโรปเพื่อควบคุมการระบาดของไวรัสโควิด-19 นอกจากนี้ ตลาดยังได้รับแรงกดดันจากความขัดแย้งระหว่างสภาคองเกรสและทำเนียบขาวเกี่ยวกับการออกมาตรการเยียวยาเศรษฐกิจครั้งใหม่ รวมทั้งรายงานที่ว่าธนาคารหลายแห่งมีส่วนเกี่ยวข้องกับการทำธุรกรรมโอนเงินที่ผิดกฎหมาย ซึ่งข่าวดังกล่าวได้ฉุดหุ้นกลุ่มธนาคารดิ่งลงอย่างหนัก

ดัชนีเฉลี่ยอุตสาหกรรมดาวโจนส์ปิดที่ 27,147.70 จุด ร่วงลง 509.72 จุด หรือ -1.84% ขณะที่ดัชนี Nasdaq ปิดที่ 10,778.80 จุด ลดลง 14.48 จุด หรือ -0.13% ส่วนดัชนี S&P500 ปิดที่ 3,281.06 จุด ลดลง 38.41 จุด หรือ -1.16%

 

ตลาดหุ้นยุโรปปิดร่วงลงเมื่อคืนนี้ (21 ก.ย.) โดยดิ่งลงรุนแรงที่สุดในรอบ 3 เดือน เนื่องจากนักลงทุนเทขายหุ้นกลุ่มการเดินทางและสันทนาการออกมา ท่ามกลางความวิตกเกี่ยวกับการดำเนินมาตรการล็อกดาวน์รอบสองในยุโรปเพื่อสกัดกั้นการแพร่ระบาดของโรคโควิด-19 ขณะที่หุ้นกลุ่มธนาคารร่วงลงจากรายงานเกี่ยวกับการโอนเงินผิดกฎหมายราว 2 ล้านล้านดอลลาร์ของธนาคารชั้นนำหลายแห่ง

ดัชนี Stoxx Europe 600 ร่วงลง 3.24% ปิดที่ 356.82 จุด

ดัชนี CAC-40 ตลาดหุ้นฝรั่งเศสปิดที่ 4,792.04 จุด ลดลง 186.14 จุด หรือ -3.74%, ดัชนี DAX ตลาดหุ้นเยอรมนีปิดที่ 12,542.44 จุด ลดลง 573.81 จุด หรือ -4.37% และดัชนี FTSE 100 ตลาดหุ้นลอนดอนปิดที่ 5,804.29 จุด ลดลง 202.76 จุด หรือ -3.38%

 

ตลาดหุ้นลอนดอนปิดร่วงลงเมื่อคืนนี้ (21 ก.ย.) เนื่องจากนักลงทุนเทขายหุ้นกลุ่มธนาคารออกมาหลังจากมีรายงานว่าธนาคารหลายแห่งมีส่วนในการโอนเงินผิดกฎหมายจำนวนมาก ขณะที่หุ้นกลุ่มการเดินทางดิ่งลงจากความวิตกเกี่ยวกับแนวโน้มที่อังกฤษจะประกาศมาตรการล็อกดาวน์ทั่วประเทศรอบสองเพื่อสกัดกั้นการแพร่ระบาดของโรคโควิด-19

ดัชนี FTSE 100 ตลาดหุ้นลอนดอนปิดที่ 5,804.29 จุด ลดลง 202.76 จุด หรือ -3.38%

 

สัญญาน้ำมันดิบเวสต์เท็กซัส (WTI) ตลาดนิวยอร์กปิดร่วงลงกว่า 4% เมื่อคืนนี้ (21 ก.ย.) โดยได้รับแรงกดดันจากรายงานที่ว่า ลิเบียอาจจะส่งออกน้ำมันดิบเข้าสู่ตลาดโลกได้มากขึ้น หลังจากกลุ่มต่อต้านรัฐบาลลิเบียประกาศยุติการปิดล้อมโรงงานน้ำมันภายในประเทศ นอกจากนี้ ตลาดยังได้รับปัจจัยลบจากความกังวลที่ว่า การใช้มาตรการล็อกดาวน์รอบที่สองในยุโรปจะส่งผลกระทบต่อเศรษฐกิจและความต้องการใช้น้ำมัน

สัญญาน้ำมันดิบ WTI ส่งมอบเดือนต.ค. ร่วงลง 1.80 ดอลลาร์ หรือ 4.4% ปิดที่ 39.31 ดอลลาร์/บาร์เรล

สัญญาน้ำมันดิบเบรนท์ (BRENT) ส่งมอบเดือนพ.ย. ลดลง 1.71 ดอลลาร์ หรือ 4% ปิดที่ 41.44 ดอลลาร์/บาร์เรล

 

สัญญาทองคำตลาดนิวยอร์กปิดร่วงลงอย่างหนักเมื่อคืนนี้ (21 ก.ย.) เนื่องจากการแข็งค่าของสกุลเงินดอลลาร์ได้สร้างแรงกดดันต่อราคาทองคำ นอกจากนี้ ความไม่แน่นอนเกี่ยวกับการออกมาตรการเยียวยาเศรษฐกิจรอบใหม่ในสหรัฐ ยังเป็นอีกปัจจัยที่ฉุดราคาทองคำดิ่งลงเมื่อคืนนี้ด้วย

สัญญาทองคำตลาด COMEX (Commodity Exchange) ส่งมอบเดือนธ.ค. ร่วงลง 51.5 ดอลลาร์ หรือ 2.62% ปิดที่ 1,910.6  ดอลลาร์/ออนซ์

สัญญาโลหะเงินส่งมอบเดือนธ.ค. ลดลง 2.742 ดอลลาร์ หรือ 10.11% ปิดที่ 24.387 ดอลลาร์/ออนซ์

สัญญาพลาตินัมส่งมอบเดือนต.ค. ร่วงลง 62.4 ดอลลาร์ หรือ 6.65% ปิดที่ 876.1 ดอลลาร์/ออนซ์

สัญญาพัลลาเดียมส่งมอบเดือนธ.ค. ดิ่งลง 99.10 ดอลลาร์ หรือ 4.2% ปิดที่ 2,281.70 ดอลลาร์/ออนซ์

 

ดอลลาร์สหรัฐแข็งค่าเมื่อเทียบกับสกุลเงินหลัก ในการซื้อขายที่ตลาดปริวรรตเงินตรานิวยอร์กเมื่อคืนนี้ (21 ก.ย.) เนื่องจากนักลงทุนแห่ซื้อดอลลาร์ในฐานะสินทรัพย์ปลอดภัย ท่ามกลางความกังวลเกี่ยวกับผลกระทบทางเศรษฐกิจที่เกิดจากมาตรการล็อกดาวน์เพื่อควบคุมการแพร่ระบาดของไวรัสโควิด-19

ดัชนีดอลลาร์ ซึ่งเป็นดัชนีวัดความเคลื่อนไหวของดอลลาร์เมื่อเทียบกับสกุลเงินหลัก 6 สกุลในตะกร้าเงิน เพิ่มขึ้น 0.79% แตะที่ระดับ 93.6581 เมื่อคืนนี้

ดอลลาร์สหรัฐแข็งค่าเมื่อเทียบกับเงินเยน ที่ระดับ 104.78 เยน จากระดับ 104.55 เยน และแข็งค่าเมื่อเทียบกับฟรังก์สวิส ที่ระดับ 0.9152 ฟรังก์ จากระดับ 0.9101 ฟรังก์ นอกจากนี้ ดอลลาร์สหรัฐยังแข็งค่าเมื่อเทียบกับดอลลาร์แคนาดา ที่ระดับ 1.3318 ดอลลาร์แคนาดา จากระดับ 1.3192 ดอลลาร์แคนาดา

ยูโรอ่อนค่าลงเมื่อเทียบกับดอลลาร์สหรัฐ ที่ระดับ 1.1754 ดอลลาร์ จากระดับ 1.1853 ดอลลาร์ ขณะที่เงินปอนด์อ่อนค่าลงแตะที่ระดับ 1.2795 ดอลลาร์ จากระดับ 1.2924 ดอลลาร์ ส่วนดอลลาร์ออสเตรเลียอ่อนค่าลงสู่ระดับ 0.7206 ดอลลาร์สหรัฐ จากระดับ  0.7299 ดอลลาร์สหรัฐ

Back to top button