SCGP จ่อเคาะ IPO ช่วงราคา 33.50-35 บ. 8 ต.ค.นี้ หวังระดมทุนต่อยอดธุรกิจ

SCGP จ่อเคาะ IPO ช่วงราคา 33.50-35 บ. 8 ต.ค.นี้ หวังระดมทุนต่อยอดธุรกิจ


บริษัท เอสซีจี แพคเกจจิ้ง จำกัด (มหาชน) หรือ SCGP เตรียมสรุปราคาเสนอขายหุ้นเพิ่มทุนให้กับประชาชนทั่วไปครั้งแรก (IPO) สุดท้าย (Final Price) ในวันที่ 8 ต.ค.63 จากช่วงราคาที่นำมาใช้ทำการสำรวจความต้องการซื้อหลักทรัพย์ (Bookbuilding) อยู่ที่ระหว่างราคา 33.50 – 35.00 บาทต่อหุ้น ขณะที่เปิดให้ผู้จองซื้อหุ้น IPO ต้องชำระเงินค่าจองซื้อที่ราคา 35 บาท/หุ้น ซึ่งเป็นราคาสูงสุดของช่วงราคาที่เสนอขาย โดยให้รายย่อยสามารถจองซื้อได้ในวันที่ 1,2 และ 5 ต.ค.63

โดยแบบแสดงรายการข้อมูลการเสนอขายหลักทรัพย์ ของ SCGP ระบุว่า บริษัทจะเสนอขายหุ้น IPO ไม่เกิน 1,296.68 ล้านหุ้น พาร์หุ้นละ 1 บาท ซึ่งรวมการจัดสรรหุ้นส่วนเกินด้วย คิดเป็นมูลค่าระดมทุนรวม 37,772.93 ล้านบาท ถึง 39,464.25 ล้านบาท (ไม่รวมจำนวนหุ้นส่วนเกิน)

สำหรับการเสนอขาย IPO แบ่งเป็น 1. การเสนอขายหุ้นเพิ่มทุนไม่เกิน 1,127.55 ล้านหุ้น ซึ่งจะจัดสรรให้กับผู้ถือหุ้นของ SCGP ที่มีสิทธิได้รับการจัดสรรหุ้น 2.82 ล้านหุ้น , ผู้ถือหุ้นของบริษัท ปูนซิเมนต์ไทย จำกัด(มหาชน) หรือ SCC ที่มีสิทธิได้รับการจัดสรร 169.13 ล้านหุ้น , บุคคลตามดุลพินิจของผู้จัดจำหน่ายหลักทรัพย์ 75.3 ล้านหุ้น ,ผู้ลงทุนสถาบันที่เป็น Cornerstone Investors ในประเทศไทย 600 ล้านหุ้น ,ผู้มีอุปการคุณของบริษัท 143.76 ล้านหุ้น ,รายย่อย 60 ล้านหุ้น และผู้ลงทุนสถาบันที่เป็น Cornerstone Investors ต่างประเทศ 76.53 ล้านหุ้น 2. หุ้นเพิ่มทุนไม่เกิน 169.13 ล้านหุ้น เพื่อเสนอขายให้แก่ผู้จัดหาหุ้นส่วนเกิน (Over-Allotment Agent)

ทั้งนี้ การเสนอขายหุ้นสามัญเพิ่มทุนของบริษัท ผู้ถือหุ้นของบริษัท, ผู้ถือหุ้นของ SCC เฉพาะกลุ่มที่มีสิทธิได้รับการจัดสรรหุ้นตามสัดส่วนการถือหุ้น (Pre-emptive Rights) ผู้มีอุปการคุณของบริษัท ผู้จองซื้อรายย่อย บุคคลตามดุลยพินิจของผู้จัดจำหน่ายหลักทรัพย์ จะต้องชำระเงินค่าจองซื้อที่ราคา 35.00 บาทต่อหุ้น ซึ่งเป็นราคาสูงสุดของช่วงราคาเสนอขายที่ 33.50- 35.00 บาทต่อหุ้น และจะได้รับคืนเงินส่วนต่างค่าจองซื้อหุ้นในกรณีที่ราคาเสนอขายสุดท้ายต่ำกว่าราคาสูงสุดของช่วงราคาดังกล่าว

โดยผู้ถือหุ้นของบริษัท ผู้ถือหุ้นของ SCC และผู้มีอุปการคุณของบริษัท จองซื้อในวันที่ 28 ก.ย.-2 ต.ค.63 , รายย่อย จองซื้อวันที่ 1 ,2 และ 5 ต.ค.63 ขณะที่บุคคลตามดุลยพินิจของผู้จัดจำหน่ายหลักทรัพย์ จองซื้อวันที่ 5-7 ต.ค.63

ทั้งนี้ ผู้ลงทุนสถาบันในประเทศ (รวมถึงผู้ลงทุนสถาบันที่เป็น Cornerstone Investors ในประเทศไทย) และผู้ลงทุนในต่างประเทศ (รวมถึงผู้ลงทุนสถาบันที่เป็น Cornerstone Investors ในต่างประเทศ) ผ่านผู้ซื้อหุ้นเบื้องต้นในต่างประเทศ (Initial Purchasers) จะต้องชำระเงินค่าจองซื้อที่ราคาเสนอขายสุดท้าย โดยบริษัท ร่วมกับผู้จัดการการจัดจำหน่ายและรับประกันการจำหน่ายคาดว่าจะสามารถประกาศราคาดังกล่าวได้ประมาณวันที่ 8 ต.ค.63 โดยนักลงทุนกลุ่มนี้จองซื้อในวันที่ 9 , 12 และ 14 ต.ค.63

สำหรับการเสนอขายหุ้น IPO ของ SCGP ครั้งนี้ มีธนาคารไทยพาณิชย์ จำกัด (มหาชน) หรือ SCB เป็นที่ปรึกษาทางการเงิน และมีบล.ไทยพาณิชย์ บล.บัวหลวง เป็นผู้จัดการการจัดจำหน่ายและรับประกันการจำหน่าย

ขณะที่มูลค่าตามราคาบัญชี (Book Value) อยู่ที่ 20.9 บาทต่อหุ้น กรณีคำนวณจากส่วนของผู้ถือหุ้นตามงบการเงินรวมของบริษัทที่สอบทานแล้ว สำหรับงวด 6 เดือนสิ้นสุดวันที่ 30 มิ.ย.63 ซึ่งเท่ากับ 65,414 ล้านบาท หารด้วยจำนวนหุ้นที่เรียกชำระแล้วก่อนการเสนอขายหุ้นในครั้งนี้จำนวน 3,126 ล้านหุ้น

ทั้งนี้ บริษัทประมาณการว่าจะได้รับเงินจากการเสนอขายหุ้น IPO ในครั้งนี้ (ภายหลังหักค่าใช้จ่ายในการเสนอขายหลักทรัพย์) จำนวนประมาณ 37,004 – 38,678 ล้านบาท (โดยมีการเสนอขายหุ้นทั้งจำนวน แต่ไม่มีการจัดสรรหุ้นส่วนเกิน) หรือ 42,613 – 44,539 ล้านบาท (โดยมีการเสนอขายหุ้นทั้งจำนวน และรวมหุ้นที่ผู้จัดหาหุ้นส่วนเกินใช้สิทธิซื้อหุ้นสามัญเพิ่มทุนทั้งจำนวนจากบริษัท กรณีที่มีการจัดสรรหุ้นส่วนเกิน)

อย่างไรก็ดี บริษัทอาจพิจารณานำเงินส่วนหนึ่งที่ได้รับจากการเสนอขายหุ้นในครั้งนี้ (หลังหักค่าใช้จ่ายในการเสนอขายหลักทรัพย์) รวมถึงเงินที่ได้รับหากผู้จัดหาหุ้นส่วนเกิน (Over-Allotment Agent) ใช้สิทธิซื้อหุ้นเพิ่มทุนส่วนเกินจากบริษัท ในกรณีที่มีการจัดสรรหุ้นส่วนเกิน นำไปใช้เป็นเงินลงทุนในการขยายธุรกิจด้วยการขยายกำลังการผลิตของบริษัท (organic) การเข้าซื้อกิจการ รวมถึงทรัพย์สินอื่น (inorganic) และ/หรือการลงทุนเพื่อบำรุงรักษา ประมาณ 27,000 ล้านบาท ภายในปี 66 , ชำระคืนเงินกู้ยืมให้กับสถาบันทางการเงิน 10,004-13,000 ล้านบาท ภายในปี 64 และใช้เป็นเงินทุนหมุนเวียนในการดำเนินกิจการ 0-4,539 ล้านบาท ภายในปี 66

Back to top button