FPI คาดกำไรปีนี้โต 15% รับหยวนอ่อน-น้ำมันลง

FPI คาดกำไรสุทธิปีนี้โต 15% ตั้งเป้ารายได้ปี 58 โต 20% รับหยวนอ่อน-น้ำมันลง เผยมีแผนขยายการลงทุนเพิ่มอีกปีละ 5 สาขาภายใน 5 ปี เตรียมยื่นเสนอสัญญาซื้อขายไฟฟ้าชีวมวลที่ร่วมมือกับ ECF-พันธมิตร ในเดือน พ.ย.นี้ ตั้งเป้ากำลังการผลิตสูงสุด 120MW คาดรู้ผล PPA ในช่วง ธ.ค.นี้


นายสมพล ธนาดำรงศักดิ์ กรรมการผู้จัดการ บริษัท ฟอร์จูน พาร์ท อินดัสตรี้ จำกัด (มหาชน) หรือ FPI เปิดเผยว่า บริษัทคาดว่าในปีนี้อัตรากำไรสุทธิจะสูงขึ้นมาที่ราว 15% จากปีก่อนอยู่ที่ 10.73% เนื่องจากธนาคารกลางของจีนประกาศลดค่าเงินหยวน ส่งผลให้ต้นทุนการนำเข้าแม่พิมพ์จากจีนลดลง ขณะเดียวกันราคาพลาสติกที่เป็นวัตถุดิบสำคัญในการผลิตชิ้นส่วนยานยนต์ก็ปรับตัวลดลงตามราคาน้ำมัน

ขณะที่ค่าเงินบาทอ่อนค่ามาอยู่ที่ 35.70 บาท/ดอลลาร์ในเดือน ส.ค.58 เมื่อเทียบกับค่าเฉลี่ยในไตรมาส 2/58 เงินบาทอยู่ที่ 32.70 บาท/ดอลลาร์ ทำให้แนวโน้มรายได้ปรับตัวสูงขึ้น เนื่องจากปัจจุบันรายได้ส่วนใหญ่ของบริษัทส่วนใหญ่อยู่ในรูปของเงินดอลลาร์

ประกอบกับในช่วงครึ่งปีหลังบริษัทได้เพิ่มอัตราการใช้กำลังการผลิตเป็น 70-80% เมื่อเทียบกับในช่วงครึ่งปีแรกอยู่ที่ 50-60% ซึ่งทำให้ช่วยประหยัดค่าใช้จ่ายคงที่ให้ลดลงราว 12% และผลักดันให้อัตรากำไรสูงขึ้น หลัง Warehouse สร้างเสร็จเรียบร้อยแล้ว ทำให้บริษัทสามารถผลิตได้ทั้ง 2 สายการผลิต

ทั้งนี้บริษัทมั่นใจรายได้ปีนี้จะเติบโตได้ตามเป้าหมายที่ไม่ต่ำกว่า 20% จากปีก่อนที่มีรายได้รวม 1,858 ล้านบาท ปัจจุบันบริษัทมีงานในมือ (Backlog) เป็นการรับจ้างผลิต (OEM) อยู่ที่ 600 ล้านบาท ซึ่งจะรับรู้เป็นรายได้ในช่วงที่เหลือของปีนี้ราว 200 ล้านบาท และส่วนที่เหลือจะทยอยรับรู้ฯในปีถัดไป โดยล่าสุดในเดือน ก.ค.บริษัทได้รับงาน OEM ยุโรป สำหรับชุดแต่ง Toyota, Lexus มูลค่า 40 ล้านบาท และรับงานจากอิตาลีค่าย Fiat มูลค่า 60 ล้านบาท

ขณะที่บริษัทมีแผนขยายการลงทุนเพิ่มอีกปีละ 5 สาขาภายใน 5 ปี ซึ่งขณะนี้อยู่ระหว่างมองหาพันธมิตรร่วมทุนต่างประเทศ โดยสนใจประเทศตุรกี อินเดีย อเมริกา จีน และเม็กซิโก เพื่อเพิ่มแหล่งที่มาของรายได้ และกระจายความเสี่ยงการลงทุน สร้างผลตอบแทนที่ยั่งยืนให้กับบริษัทและผู้ถือหุ้นในอนาคต ซึ่งล่าสุดมีพันธมิตร 2-3 รายสนใจติดต่อเข้ามา อย่างไรก็ตาม ยังไม่ได้ข้อสรุปในเรื่องของรูปแบบการลงทุน ซึ่งต้องพิจารณาให้รอบคอบ เพื่อประโยชน์สูงสุดของบริษัท

สำหรับความร่วมมือกับบริษัท อีสต์โคสท์เฟอร์นิเทค จำกัด (มหาชน) หรือ ECF และพันธมิตรเซ็น MOU ร่วมกันเพื่อลงทุนธุรกิจพลังงานไฟฟ้าชีวมวลนั้น บริษัทเตรียมยื่นเสนอสัญญาซื้อขายไฟฟ้าในเดือน พ.ย.นี้ พร้อมตั้งเป้ากำลังการผลิตสูงสุด 120 เมกะวัตต์ โดยคาดว่าจะรู้ผล PPA ในช่วง ธ.ค.นี้ จากนั้นจะเริ่มก่อสร้างในเดือน ม.ค.59 ซึ่งจะใช้เวลาก่อสร้างประมาณ 24 เดือน

Back to top button