AS บวกแรง 7% นิวไฮรอบ 5 ปี ลุ้นผลงาน H2/63 โตต่อเนื่องจากเปิดเกมใหม่

AS บวกแรง 7% นิวไฮรอบ 5 ปี ลุ้นผลงาน H2/63 โตต่อเนื่องจากเปิดเกมใหม่


ผู้สื่อข่าวรายงานว่า บริษัท เอเชียซอฟท์ คอร์ปอเรชั่น จำกัด (มหาชน) หรือ AS ณ เวลา 11.58 น. อยู่ที่ระดับ 5.35 บาท บวก 0.35 บาท หรือ 7.00% ด้วยมูลค่าซื้อขาย 64.98 ล้านบาท ราคาหุ้นนิวไฮในรอบ 5 ปี 4 เดือน โดยเทียบตั้งแต่หุ้นยืนที่ระดับ 5.64 บาท เมื่อวันที่ 6 พ.ค. 2558

โดยก่อนหน้านี้นายปราโมทย์ สุดจิตพร ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บมจ.เอเชียซอฟท์ คอร์ปอเรชั่น (AS) คาดว่า แนวโน้มผลประกอบการในช่วงครึ่งปีหลังเติบโตต่อเนื่องจากช่วงครึ่งปีแรกที่ทำรายได้ 664 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 92% จากช่วงเดียวกันของปีก่อน และทั้งปี 63 น่าจะมีรายได้สูงกว่าปีก่อนที่มี 767.26 ล้านบาท เนื่องจากบริษัทมีแผนเปิดตัวเกมใหม่ไม่น้อยกว่า 10 เกม โดยเปิดตัวไปแล้ว 5 เกมในช่วงครึ่งปีแรก และจะเปิดตัวอีก 5 เกมในช่วงครึ่งปีหลัง ทั้งเกมบนพีซีและโทรศัพท์มือถือ

ในช่วงต้นปีที่ผ่านมาสถานการณ์การระบาดโควิด-19 ที่มีการล็อกดาวน์ปิดเมืองในไตรมาส 2/63 ทำให้เกิดโอกาสที่คนเปลี่ยนพฤติกรรมมาใช้กิจกรรมออนไลน์มากขึ้น และการใช้ชีวิตเปลี่ยนไปพอสมควร และปัจจุบันได้กลายเป็น New Normal จึงเป็นโอกาสของบริษัทในทุกประเทศที่เข้าไปดำเนินธุรกิจเกมออนไลน์ อาทิ อินโดนีเซีย ฟิลิปปินส์ และสิงคโปร์ เป็นต้น

“หลายคนคิดว่าไตรมาส 2 พีคสุด แต่ผมคิดว่าไตรมาส 3 หรือ 4 ผลประกอบการขึ้นกับคอนเท้นท์หรือเกมเปิดใหม่ว่าได้รับการตอบรับหรือไม่ แม้ปัจจุบันหลายประเทศยังระวังตัว การเกิดระบาดรอบสอง คาดว่าไตรมาส 3-4 จะมีการเติบโตต่อเนื่อง เราจะรักษาฐานลูกค้าเดิม และมีการเปิดเกมใหม่”นายปราโมทย์ กล่าว

ทั้งนี้ บริษัทเขื่อว่าโมเมมตัมจากไตรมาส 2/63 จะส่งไปในช่วงครึ่งปีหลังได้อย่างชัดเจน ซึ่งการเติบโตของบริษัทไม่ได้จากโควิด-19 แต่เพราะบริษัทมีการเปิดเกมใหม่สม่ำเสมอ ซึ่งบริษัทเน้นพัฒนาเกมที่มีคุณภาพ ทำให้ปีก่อนมีการเปิดเกมใหม่น้อยมากและเลื่อนมามาเปิดตัวในปีนี้

“เราคาดหวังว่าในทิศทางตลาดที่เอื้อโอกาสให้เรา คนส่วนใหญ่สนใจกิจกรรมออนไลน์มีความพร้อมในยุคปัจจุบันมีมือถือ มีเน็ต มี 4G 5G ล้วนเป็นปัจจัยเอื้อ ธุรกิจออนไลน์เกือบทุกด้าน คาดว่าจะมีการเติบโต และสร้างผลประกอบการค่อนข้างมั่นคง”นายปาโมทย์ กล่าว

นอกจากนี้ สัดส่วนรายได้ในต่างประเทศเริ่มมีมากขึ้น โดยใน 6 เดือนแรกมีสัดส่วนกว่า 60% และหลายประเทศเติบโต 2 หลักเป็นการตอกย้ำว่าบริษัทต้องลงทุนในต่างประเทศ และในอาเซียน หลายประเทศเป็นโอกาส เช่น อินโดนีเซีย ฟิลลิปปินส์ มีประชากรรจำนวนมาก เชื่อว่าเป็นกลยุทธ์ที่เดินถูกทางแล้ว

Back to top button