PLANET พุ่งเฉียดซิลลิ่ง! นิวไฮรอบ 10 เดือน ลุ้นปีนี้พลิกกำไร-ฟากราคายังต่ำบุ๊ก

ผู้สื่อข่าวรายงานว่า บริษัท แพลนเน็ต คอมมิวนิเคชั่น เอเชีย จำกัด (มหาชน) หรือ PLANET ณ เวลา 15.37 น. อยู่ที่ระดับ 1.39 บาท บวก 0.17 บาท หรือ 13.93% ด้วยมูลค่าซื้อขาย 10.30 ล้านบาท ราคาหุ้นพุ่งเฉียดซิลลิ่งของวันที่ระดับ 1.40 บาท อีกทั้งนิวไฮในรอบ 10 เดือน โดยเทียบตั้งแต่หุ้นยืนที่ระดับ 1.40 บาท เมื่อวันที่ 15 พ.ย.62 ขณะที่ราคาหุ้นยังต่ำกว่ามูลค่าหุ้นทางบัญชีที่ระดับ 1.64 บาท

โดยก่อนหน้านายประพัฒน์ รัฐเลิศกานต์ กรรมการ ผู้อำนวยการและหัวหน้าเจ้าหน้าที่บริหาร PLANET เปิดเผยว่า บริษัทมั่นใจภาพรวมผลประกอบการทั้งปี 63 จะสามารถพลิกกลับมาเป็นบวก หลังจากที่มีผลขาดทุนสุทธิ 1.18 ล้านบาทในช่วงครึ่งแรกของปีนี้ หลังอยู่ระหว่างการนำเสนอเทคโนโลยีใหม่ที่มีอัตรากำไรขั้นต้นสูง อาทิ IoT Platform สำหรับพัฒนาเมืองอัจฉริยะ (Smart City), TeleHealth Platform (การรักษาทางไกล)

สำหรับกิจกรรมด้านสาธารณสุข และ ระบบรักษาความปลอดภัยทางไซเบอร์ (Cyber Security) ซึ่งมั่นใจว่าจะได้รับความสนใจจากหน่วยงานต่าง ๆ ซึ่งจะผลักดันอัตรากำไรขั้นต้นในปี 63 เพิ่มขึ้นมาที่ระดับ 23% จากปีก่อนที่ 21%

ขณะที่ยังคงเป้าหมายรายได้ทั้งปีเติบโต 10% จากปีก่อน เนื่องจากมองว่าโครงการจัดซื้อของภาครัฐที่ชะลอตัวจากวิกฤติโควิด-19 จะกลับมาในช่วงครึ่งหลังของปีนี้ที่เริ่มมีสัญญาณที่ดี ซึ่งขณะนี้บริษัทอยู่ระหว่างรอผลในหลายโครงการใหญ่ที่จะเข้ามาช่วยเพิ่มเติมงานในมือ (Backlog) ที่ปัจจุบันมีตัวเลขอยู่ที่ 300 กว่าล้านบาท

สำหรับผลประกอบการในไตรมาส 2/63  มีกำไรสุทธิจำนวน 13.89 ล้านบาท คิดเป็น 8.88% ของรายได้รวม เมื่อเทียบกับงวดเดียวกันของปีก่อนซึ่งมีผลขาดทุนสุทธิ 1.12 ล้านบาท หรือ -0.67% ของรายได้รวม ผลการดำเนินงานที่ดีขึ้นมาจากกำไรขั้นต้นที่สูงขึ้นและการลดค่าใช้จ่ายในการขายและบริหาร

ส่วนรายได้จากการขายสินค้าและบริการมีจำนวน 154.83 ล้านบาท เมื่อเทียบกับงวดเดียวกันของปีก่อนที่ทำได้ 165.38 ล้านบาท ลดลง 10.55 ล้านบาท หรือลดลง 6.36% ขณะที่รายได้รวมในงวด 6 เดือนแรกของปี 63 มีจำนวน 328.35 ล้านบาท เมื่อเทียบกับงวดเดียวกันของปีก่อนที่ทำได้  326.23 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 2.12 ล้านบาท หรือเพิ่มขึ้น 0.65%

ขณะที่ผลประกอบการในช่วงครึ่งแรกของปี ที่บริษัทมีผลขาดทุนสุทธิ 1.18 ล้านบาท หรือคิดเป็น -0.36% ของรายได้รวมเมื่อเทียบกับงวดเดียวกันของปีก่อนซึ่งมีผลกำไรสุทธิ 0.80 ล้านบาท หรือ 0.25% ของรายได้รวม บริษัทฯ มีกำไรลดลง 1.98 ล้านบาท สาเหตุมาจากผลขาดทุนในไตรมาสที่ 1/63 จึงทำให้ยังมีผลขาดทุนสะสมสำหรับงวดหกเดือนแรกของปีนี้