สรุปภาวะตลาดต่างประเทศ ประจำวันที่ 28 ก.ย. 2563

สรุปภาวะตลาดต่างประเทศ ประจำวันที่ 28 ก.ย. 2563


ดัชนีดาวโจนส์ตลาดหุนนิวยอร์กปิดพุ่งขึ้นเมื่อคืนนี้ (28 ก.ย.) ขานรับความคืบหน้าเกี่ยวกับการออกมาตรการเยียวยาเศรษฐกิจรอบใหม่ของสหรัฐ นอกจากนี้ ตลาดยังได้แรงหนุนจากการที่นักลงทุนเข้าช้อนซื้อหุ้นกลุ่มพลังงานและกลุ่มธนาคาร หลังจากหุ้นทั้งสองกลุ่มร่วงลงอย่างหนักในช่วงที่ผ่านมา

ดัชนีเฉลี่ยอุตสาหกรรมดาวโจนส์ปิดที่ 27,584.06 จุด พุ่งขึ้น 410.10 จุด หรือ +1.51% ขณะที่ดัชนี S&P500 ปิดที่ 3,351.60 จุด เพิ่มขึ้น 53.14 จุด หรือ +1.61% ส่วนดัชนี Nasdaq ปิดที่ 11,117.53 จุด เพิ่มขึ้น 203.97 จุด หรือ +1.87%

 

ตลาดหุ้นยุโรปปิดพุ่งขึ้นเมื่อคืนนี้ (28 ก.ย.) เนื่องจากนักลงทุนขานรับจีนเปิดเผยข้อมูลผลกำไรภาคอุตสาหกรรมเพิ่มขึ้นในเดือนส.ค. และมีความเชื่อมั่นเกี่ยวกับแนวโน้มการออกมาตรการเยียวยาเศรษฐกิจในสหรัฐ ซึ่งช่วยหนุนหุ้นกลุ่มธนาคารและกลุ่มอื่นๆ ปรับตัวขึ้น แม้ว่าจะยังคงมีความวิตกในตลาดเกี่ยวกับจำนวนผู้ติดเชื้อโควิด-19 ที่เพิ่มขึ้น และความตึงเครียดระหว่างสหรัฐ-จีนก็ตาม

ดัชนี Stoxx Europe 600 บวก 2.22% ปิดที่ 363.39 จุด

ดัชนี CAC-40 ตลาดหุ้นฝรั่งเศสปิดที่ 4,843.27 จุด เพิ่มขึ้น 113.61 จุด หรือ +2.40%, ดัชนี DAX ตลาดหุ้นเยอรมนีปิดที่ 12,870.87 จุด เพิ่มขึ้น 401.67 จุด หรือ +3.22%, และดัชนี FTSE 100 ตลาดหุ้นลอนดอนปิดที่ 5,927.93 จุด เพิ่มขึ้น 85.26 จุด หรือ +1.46%

 

ตลาดหุ้นลอนดอนปิดปรับตัวขึ้นเมื่อคืนนี้ (28 ก.ย.) โดยได้แรงหนุนจากการพุ่งขึ้นของหุ้นกลุ่มธนาคาร หลังหุ้นเอชเอสบีซีทะยานขึ้นมากถึง 10% และการเปิดเผยข้อมูลเศรษฐกิจที่แข็งแกร่งของจีนช่วยเพิ่มความเชื่อมั่นให้กับนักลงทุนด้วย

ดัชนี FTSE 100 ตลาดหุ้นลอนดอนปิดที่ 5,927.93 จุด เพิ่มขึ้น 85.26 จุด หรือ +1.46%

 

สัญญาน้ำมันดิบเวสต์เท็กซัส (WTI) ตลาดนิวยอร์กปิดบวกเมื่อคืนนี้ (28 ก.ย.) ขานรับสัญญาณบวกที่ว่า สภาคองเกรสและทำเนียบขาวมีแนวโน้มที่จะบรรลุข้อตกลงการออกมาตรการเยียวยาเศรษฐกิจรอบใหม่ อย่างไรก็ดี นักลงทุนยังคงกังวลว่าการแพร่ระบาดของไวรัสโควิด-19 ทั่วโลกที่ยังไม่มีแนวโน้มบรรเทาลงนั้น อาจขัดขวางการเติบโตของเศรษฐกิจและความต้องการใช้น้ำมันในตลาดโลก

สัญญาน้ำมันดิบ WTI ส่งมอบเดือนพ.ย. เพิ่มขึ้น 35 เซนต์ หรือ 0.9% ปิดที่ 40.60 ดอลลาร์/บาร์เรล

สัญญาน้ำมันดิบเบรนท์ (BRENT) ส่งมอบเดือนพ.ย. เพิ่มขึ้น 51 เซนต์ หรือ 1.2% ปิดที่ 42.43 ดอลลาร์/บาร์เรล

 

สัญญาทองคำตลาดนิวยอร์กปิดบวกเมื่อคืนนี้ (28 ก.ย.) เนื่องจากการอ่อนค่าของสกุลเงินดอลลาร์ช่วยเพิ่มความน่าดึงดูดให้กับราคาทองคำ นอกจากนี้ ความวิตกกังวลเกี่ยวกับสถานการณ์การแพร่ระบาดของไวรัสโควิด-19 ยังเป็นปัจจัยหนุนแรงซื้อทองคำในฐานะสินทรัพย์ที่ปลอดภัย

สัญญาทองคำตลาด COMEX (Commodity Exchange) ส่งมอบเดือนธ.ค. เพิ่มขึ้น 16 ดอลลาร์ หรือ 0.86% ปิดที่ 1,882.3 ดอลลาร์/ออนซ์

สัญญาโลหะเงินส่งมอบเดือนธ.ค. เพิ่มขึ้น 51.1 เซนต์ หรือ 2.21% ปิดที่ 23.604 ดอลลาร์/ออนซ์

สัญญาพลาตินัมส่งมอบเดือนต.ค. เพิ่มขึ้น 42.2 ดอลลาร์ หรือ 4.97% ปิดที่ 891.4 ดอลลาร์/ออนซ์

สัญญาพัลลาเดียมส่งมอบเดือนธ.ค. พุ่งขึ้น 49.30 ดอลลาร์ หรือ 2.2% ปิดที่ 2,271.50 ดอลลาร์/ออนซ์

 

ดอลลาร์สหรัฐอ่อนค่าลงเมื่อเทียบกับสกุลเงินหลักๆ ในการซื้อขายที่ตลาดปริวรรตเงินตรานิวยอร์กเมื่อคืนนี้ (28 ก.ย.) เนื่องจากนักลงทุนเทขายดอลลาร์ในฐานะสินทรัพย์ที่ปลอดภัย หลังจากตลาดหุ้นนิวยอร์กพุ่งขึ้นขานรับความหวังเกี่ยวกับการออกมาตรการเยียวยาเศรษฐกิจรอบใหม่ของสหรัฐ ขณะที่เงินปอนด์พุ่งขึ้นหลังมีสัญญาณบวกว่า อังกฤษจะสามารถบรรลุข้อตกลงการค้ากับสหภาพยุโรป (EU) ภายในเดือนต.ค.

ดัชนีดอลลาร์ ซึ่งเป็นดัชนีวัดความเคลื่อนไหวของดอลลาร์เมื่อเทียบกับสกุลเงินหลัก 6 สกุลในตะกร้าเงิน ลดลง 0.39% แตะที่ 94.2730 เมื่อคืนนี้

ดอลลาร์สหรัฐอ่อนค่าลงเมื่อเทียบกับเงินเยน ที่ระดับ 105.52 เยน จากระดับ 105.60 เยน และอ่อนค่าเมื่อเทียบกับฟรังก์สวิส ที่ระดับ 0.9245 ฟรังก์ จากระดับ 0.9288 ฟรังก์ นอกจากนี้ ดอลลาร์สหรัฐยังอ่อนค่าลงเมื่อเทียบกับดอลลาร์แคนาดา ที่ระดับ 1.3371 ดอลลาร์แคนาดา จากระดับ 1.3395 ดอลลาร์แคนาดา

ยูโรแข็งค่าขึ้นแตะที่ระดับ 1.1664 ดอลลาร์ จากระดับ 1.1622 ดอลลาร์ ขณะที่เงินปอนด์แข็งค่าขึ้นสู่ระดับ 1.2837 ดอลลาร์ จากระดับ 1.2730 ดอลลาร์ ส่วนดอลลาร์ออสเตรเลียแข็งค่าขึ้นแตะที่ระดับ 0.7070 ดอลลาร์สหรัฐ จากระดับ 0.7024 ดอลลาร์สหรัฐ

Back to top button