WIIK พุ่งกระฉูด! รับแผนเพิ่มทุน PP ดึงพันธมิตรจีนเข้าถือกว่า 24% ขึ้นแท่นผถห.อันดับ 1

ผู้สื่อข่าวรายงานว่า บริษัท วิค จำกัด (มหาชน) หรือ WIIK  ณ เวลา 10.47 น. อยู่ที่ระดับ 2.78 บาท บวก 0.24 บาท หรือ 9.345% ด้วยมูลค่าซื้อขาย 30.72 ล้านบาท ราคาหุ้นพุ่งแรงในรอบ 2 ปี 7 เดือน โดยเทียบตั้งแต่หุ้นยืนที่ระดับ 2.88 บาท เมื่อวันที่ 27 ก.พ.61

ด้าน WIIK แจ้งว่าที่ประชุมคณะกรรมการบริษัทเมื่อวันที่ 9 ต.ค. อนุมัติกำหนดราคาและรายละเอียดการเสนอขายหุ้นสามัญเพิ่มทุนจำนวน 140 ล้านหุ้น ที่ได้รับอนุมัติจากที่ประชุมสามัญผู้ถือหุ้นประจำปี 2563 โดยเสนอให้กับบุคคลในวงจำกัด (PP) คือ Lesso (Thailand) Investment Limited ที่ราคาเสนอขายหุ้นละ 2 บาท คิดเป็นมูลค่า 280 ล้านบาท โดยกำหนดจองซื้อและชำระค่าหุ้นระหว่างวันที่ 15-30 ต.ค. 63 ส่งผลให้  Lesso (Thailand) เข้ามาถือหุ้นในบริษัท 24.25% เป็นผู้ถือหุ้นใหญ่อันดับหนึ่ง

สำหรับ Lesso (Thailand)  มี Lesso Group (Thailand) Holdings Limited (British Virgin Islands) เป็นผู้ถือหุ้นใหญ่ 100% ขณะที่  Liansu Group Company Limited (Hong Kong) และ Lau Ngan Hung ถือหุ้น 80% และ 20% ใน Lesso Group (Thailand) ส่วน  Liansu Group Company Limited (Hong Kong) มี China Lesso Group Holdings Limited ถือหุ้นทั้ง 100%

China Lesso Group Holdings Limited เป็นผู้นำในอุตสาหกรรมขนาดใหญ่ ที่ผลิตวัสดุก่อสร้างและตกแต่งภายใน ในจีนแผ่นดินใหญ่จดทะเบียนในตลาดหลักทรัพย์ฮ่องกง กลุ่มบริษัทมีผลิตภัณฑ์คุณภาพกว่า 10,000 ประเภท ได้แก่ ระบบท่อพลาสติก, สุขภัณฑ์, ห้องครัวแบบครบวงจร, ระบบประตูและหน้าต่าง, อุปกรณ์ตกแต่ง, อุปกรณ์ดับเพลิงและวัสดุสุขภัณฑ์ เป็นต้น

ทั้งนี้ การที่บริษัทได้ China Lesso Group Holdings Limited เข้ามาร่วมเป็นพันธมิตร และเป็นธุรกิจที่สอดคล้องกับธุรกิจหลักของบริษัท จะช่วยส่งเสริมการผลิตและการกระจายสินค้าของบริษัท รวมถึงบริษัทมีแผนขยายธุรกิจท่อ PE และการบริหารจัดการทรัพยากรน้ำอย่างครบวงจร เพื่อให้มีความแข็งแกร่งมากขึ้นในอนาคต  ซึ่ง China Lesso Group สามารถที่จะสนับสนุนบริษัทด้านเครื่องจักร, Production Technology และ Technical Support รวมทั้งจะช่วยเสริม Product Line ของบริษัทสำหรับสินค้าบางชนิดที่บริษัทยังไม่มี เช่น PVC Pipe ซึ่งจะทำให้บริษัทสามารถขยายฐานลูกค้า และเพิ่มยอดขายได้ในอนาคต นอกจากนี้บริษัทมีแผนจะนำเงินที่ได้จากการเพิ่มทุนจำนวน 280 ล้านบาทไปใช้ชำระหนี้กลุ่มบริษัท เพื่อช่วยลดภาระในการจ่ายดอกเบี้ยจากการกู้ยืมเงินบางส่วน