คู่หมั้น “คาช็อกกี” ฟ้องศาลมะกัน ชี้เจ้าชาย “บิน ซัลมาน” เป็นผู้บงการฆ่าโหด!
คู่หมั้น “คาช็อกกี” ฟ้องศาลมะกัน ชี้เจ้าชาย “บิน ซัลมาน” เป็นผู้บงการฆ่าโหด!
น.ส.ฮาทิซ เชนกิซ คู่หมั้นของ นายจามาล คาช็อกกี นักข่าวชาวซาอุดีอาระเบียที่ถูกสังหารในสถานกงสุลซาอุดีอาระเบียประจำกรุงอิสตันบูลของตุรกีเมื่อเดือนต.ค. 2561 ได้ยื่นคำร้องต่อศาลสหรัฐให้สั่งฟ้อง เจ้าชายโมฮัมเหม็ด บิน ซัลมาน มกุฎราชกุมารแห่งซาอุดีอาระเบีย ฐานเป็นผู้สั่งการให้สังหารนายคาช็อกกี
โดยน.ส.เชนกิซซึ่งเป็นพลเมืองตุรกี และองค์กรกลุ่มประชาธิปไตยสำหรับโลกอาหรับในปัจจุบัน (DAWN) ซึ่งเป็นกลุ่มสิทธิมนุษยชนที่นายคาช็อกกีก่อตั้งขึ้นก่อนเสียชีวิตไม่นาน ได้ยื่นฟ้องคดีแพ่งต่อศาลในกรุงวอชิงตันดีซีของสหรัฐ เพื่อเรียกร้องค่าเสียหายจากเจ้าชายโมฮัมเหม็ด บิน ซัลมาน และชาวซาอุดีอาระเบียอีก 28 รายในฐานะจำเลย ที่มีส่วนพัวพันกับเหตุการณ์ฆาตกรรมโหดนายคาช็อกกีเมื่อ 2 ปีที่แล้ว
ทั้งนี้ น.ส.เชนกิซระบุในคำร้องว่า การเสียชีวิตของนายคาช็อกกีทำให้เธอต้องประสบกับความสูญเสียด้านการเงินและได้รับความเจ็บปวดทางจิตใจ ในขณะที่ DAWN อ้างว่า การสูญเสียผู้ก่อตั้งและบุคคลสำคัญได้ส่งผลกระทบต่อการดำเนินงานและวัตถุประสงค์ของทางกลุ่ม
โดยข้อความในคำร้องระบุว่า “การทรมานและการฆาตกรรมนายคาช็อกกีอย่างโหดเหี้ยมได้สร้างความตกใจให้กับผู้คนทั่วโลก และการฆาตกรรมนั้นก็มีวัตถุประสงค์อย่างชัดเจน ซึ่งก็คือ เพื่อหยุดยั้งความเคลื่อนไหวของนายคาช็อกกีในสหรัฐ โดยเฉพาะอย่างยิ่งในฐานะกรรมการบริหารของ DAWN ซึ่งเป็นองค์กรที่มุ่งปฏิรูปประชาธิปไตยในโลกอาหรับ”
ทั้งนี้ นายคาช็อกกีเป็นคอลัมนิสต์ของหนังสือพิมพ์วอชิงตัน โพสต์ และได้ลี้ภัยไปใช้ชีวิตอยู่ในต่างประเทศเพื่อหลีกเลี่ยงการถูกจับกุม จากการที่เขามักวิพากษ์วิจารณ์นโยบายของเจ้าชายโมฮัมเหม็ด บิน ซัลมาน มกุฎราชกุมารแห่งซาอุดีอาระเบีย และเรียกร้องให้มีการปฏิรูปการเมืองในประเทศ
อย่างไรก็ดี สถานทูตซาอุดีอาระเบียยังไม่ออกมาแสดงความคิดเห็นต่อการยื่นฟ้องดังกล่าว ในขณะที่มกุฎราชกุมารแห่งซาอุดีอาระเบีย ปฏิเสธมาตลอดว่าไม่ได้เป็นคนออกคำสั่งฆ่าคาช็อกกี
อนึ่ง นายคาช็อกกีถูกฆ่าหั่นศพในสถานกงสุลซาอุดีอาระเบียประจำอิสตันบูล ประเทศตุรกี โดยนายคาช็อกกีเดินทางไปยังสถานกงสุลเพื่อไปขอเอกสารที่จำเป็นสำหรับสมรสกับคู่หมั้น ได้แก่ น.ส.ฮาทิซ เชนกิซ ซึ่งเป็นพลเมืองตุรกี ภายหลังการหายตัวไปอย่างปริศนาเมื่อวันที่ 2 ต.ค. 2561