ศาลแพ่ง รับฟ้อง 3 สำนวน คดีเพิกถอนสถานการณ์ฉุกเฉินร้ายแรง นัดไต่สวนบ่ายนี้!

ศาลแพ่งมีคำสั่งรับฟ้องนิสิตจุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัยและนักศึกษามหาวิทยาลัยธรรมศาสตร์ กลุ่ม “คณะจุฬาฯ” และ “TPC Awaken” นำโดย น.ส.ศุกรียา วรรณายุวัฒน์ กับพวกรวม 6 คน ที่เป็นโจทก์ยื่นฟ้อง พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี และ รมว.กลาโหม, พล.อ.ประวิตร วงษ์สุวรรณ รองนายกรัฐมนตรี และ พล.ต.อ.สุวัฒน์ แจ้งยอดสุข ผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติ (ผบ.ตร.) เป็นจำเลยที่ 1-3 ฐานละเมิด พร้อมขอให้เพิกถอนประกาศสถานการณ์ฉุกเฉินที่มีความร้ายแรง เพิกถอนประกาศและคำสั่งหัวหน้าผู้รับผิดชอบในการแก้ไขสถานการณ์ฉุกเฉินร้ายแรง ห้ามมิให้นำมาตรการคำสั่งและการกระทำมาใช้กับโจทก์และผู้ชุมนุม พร้อมขอให้มีการไต่สวนฉุกเฉินเพื่อคุ้มครองชั่วคราวการชุมนุมด้วย

ศาลพิเคราะห์แล้วเห็นว่า ประกาศสถานการณ์ฉุกเฉินร้ายแรง เป็นคำสั่งทางปกครองของนายกรัฐมนตรี แต่มาตรา 16 ของ พ.ร.ก.ฉุกเฉินฯ ห้ามฟ้องศาลปกครอง แต่ให้โจทก์ฟ้องคดีต่อศาลยุติธรรมที่มีอำนาจพิพากษาคดีทั้งปวง ศาลแพ่งจึงมีอำนาจรับไว้พิจารณา มีคำสั่งรับฟ้องและรับไต่สวนฉุกเฉินในวันนี้ (22 ต.ค.63) เวลา 13.30 น.

ขณะที่อีก 2 สำนวนในเรื่องเดียวกันที่ นพ.ชลน่าน ศรีแก้ว ส.ส.น่าน พรรคเพื่อไทย กับพวก และที่นายวัชระ เพชรทอง อดีต ส.ส. พรรคประชาธิปัตย์ กับพวก ยื่นฟ้องนั้น ศาลมีคำสั่งรับฟ้องไว้และจะมีการไต่สวนฉุกเฉินเพื่อมีคำสั่งคุ้มครองชั่วคราวหรือไม่ ในวันนี้เช่นเดียวกัน

กลุ่มนิสิตนักศึกษาในฐานะโจทก์ กล่าวภายหลังศาลรับคำฟ้องว่า เหมือนเห็นแสงสว่าง ที่ยังมีความยุติธรรมให้เห็น ส่วนการที่นายกรัฐมนตรีบอกถอยคนละก้าวนั้น ความจริงเขานำเราไปก้าวหนึ่ง ต้องยกเลิกตรงนี้ และเราจะสู้ต่อไปให้ถึงที่สุด

ด้าน นายปรีดา นาคผิว ทนายความมูลนิธิผสานวัฒนธรรม ในฐานะทีมทนายความโจทก์ เปิดเผยว่า วันนี้ได้เตรียมพยานที่จะให้การในชั้นไต่สวนฉุกเฉินช่วงบ่ายแล้ว ประกอบด้วยนักศึกษา และอาจารย์คณะนิติศาสตร์ จุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย คาดว่าทั้ง 2 ปาก น่าจะครอบคลุม เชื่อว่าศาลจะรับฟังและมีคำสั่งจะคุ้มครองชั่วคราวหรือไม่ในวันนี้หรือพรุ่งนี้