“นายกฯ” ย้ำหนุนแก้ รธน.-ตั้ง คกก.สมานฉันท์ ศึกษาหาทางออกปท. ตามกระบวนการรัฐสภา

“นายกฯ” ย้ำหนุนแก้ รธน.-ตั้ง คกก.สมานฉันท์ ศึกษาหาทางออกปท. ตามกระบวนการรัฐสภา


พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี และ รมว.กลาโหม กล่าวภายหลังการกระชุมคณะรัฐมนตรี (ครม.) วันนี้ (28 ต.ค.63) โดยยืนยันว่า เห็นด้วยกับการแก้ไขรัฐธรรมนูญ และข้อเสนอให้ตั้งคณะกรรมการสมานฉันท์เพื่อหาทางออกของประเทศ แต่จะต้องเป็นไปตามกระบวนการของรัฐสภา ขณะที่ระบุว่าจะทำหน้าที่นายกรัฐมนตรีต่อไปแม้ว่าจะมีเสียงเรียกร้องให้ลาออกจากกลุ่มผู้ชุมนุมและฝ่ายค้านก็ตาม

นายกรัฐมนตรี กล่าวว่า การประชุมร่วมรัฐสภาสมัยวิสามัญตลอด 2 วัน ที่ผ่านมา สิ่งที่สรุปได้มีหลายอย่างที่เห็นด้วย โดยเรื่องที่สำคัญที่ตนสนับสนุนคือเรื่องการแก้ไขรัฐธรรมนูญ ทั้งนี้การแก้ไขรัฐธรรมนูญ เป็นหน้าที่ของรัฐสภา ที่ต้องผ่านหลายกระบวนการตามรัฐธรรมนูญปัจจุบันที่ยังคงบังคับใช้อยู่ จนกว่าจะมีรัฐธรรมนูญฉบับใหม่ จึงยังไม่สามารถตั้งกฎกติกาใหม่ได้ในทันทีตามที่บางฝ่ายต้องการได้

ทั้งนี้ในส่วนที่จะกำหนดให้ ส.ว.มีหน้าที่เลือกหรือไม่เลือกนายกรัฐมนตรีนั้น ตนเองไม่ได้ให้ความสำคัญตรงนี้

“ผมเห็นด้วยกับการสนับสนุนแก้ไขรัฐธรรมนูญ ส่วนที่จะให้ ส.ว.เลือกนายกฯ หรือไม่ ก็แล้วแต่ ผมไม่ได้ให้ความสำคัญตรงนี้ ถ้าจะไม่ให้เลือกผมก็ได้ ผมไม่ได้ขัดข้องอะไร เป็นเรื่องที่ต้องหารือในที่ประชุม” พล.อ.ประยุทธ์ กล่าว

นอกจากนี้ ยังเห็นด้วยกับการตั้งคณะกรรมการสมานฉันท์ขึ้นมาเพื่อศึกษาหาทางออกในแนวทางของรัฐสภา ซึ่งทางรัฐสภาน่าจะเป็นผู้ตั้งคณะกรรมการที่มาจากหลายฝ่าย ทั้งในส่วนของรัฐสภา ส.ส. และ ส.ว. รวมทั้งกลุ่มที่เห็นด้วยและเห็นต่าง โดยขอให้เป็นการหารือโดยสงบ สามารถมีข้อยุติได้ ซึ่งจะต้องเป็นลักษณะของการมองถึงบริบทของประเทศไทย

ส่วนที่มีคำถามว่าคณะกรรมการชุดนี้จะถูกครอบงำหรือไม่นั้น นายกรัฐมนตรี กล่าวว่า จะพูดเช่นนั้นคงไม่ได้ เพราะต้องให้เกียรติทางสภาฯ และ ส.ส. รวมถึง ส.ว.ที่เสนอขึ้นมา ทั้งนี้ทุกคนต้องให้ความเคารพและเชื่อใจซึ่งกันและกัน ต้องไม่ตั้งธงไว้ล่วงหน้า

นายกรัฐมนตรี กล่าวอีกว่า ได้ย้ำผ่านกับสื่อมวลชนไปหลายครั้งและในการประชุมรัฐสภาเมื่อคืนที่ผ่านมาว่ามีความจำเป็นที่จะต้องนำพาประเทศให้ผ่านพ้นวิกฤติต่อไปในทุกๆเรื่อง โดยเฉพาะในช่วงเวลานี้ที่ทุกอย่างจะต้องเป็นไปตามกฎหมาย ตามรัฐธรรมนูญ ซึ่งปัญหาที่เกิดขึ้นในขณะนี้คงไม่ใช่เรื่องของตนเองเพียงฝ่ายเดียว แต่เป็นเรื่องที่ทุกคนจะต้องร่วมมือและหันหน้าเข้ามาพูดคุยกัน ในฐานะที่ทุกคนเป็นคนไทยด้วยกัน ให้เป็นไปอย่างประนีประนอม และสันติวิธี ซึ่งจะถือเป็นทางออกที่ดีที่สุด

    “ไม่เคยเหนื่อย ผมก็จำเป็นต้องนำพาประเทศต่อไปให้ผ่านพ้นวิกฤติให้ได้ในทุกเรื่อง โดยเฉพาะช่วงเวลานี้” พล.อ.ประยุทธ์ กล่าว

ทั้งนี้ นายกรัฐมนตรี กล่าวว่า ไม่ได้เกลียดชังใครทั้งสิ้น เพราะไม่ว่าใครจะว่าร้ายอย่างไร แต่ก็สามารถรับฟังได้ เพราะการเป็นนายกรัฐมนตรีจะต้องมีความอดทน และต้องไม่โมโห ต้องไม่โกรธง่าย ต้องพูดจาไพเราะ ซึ่งวันนี้ก็คิดว่าก็พูดเพราะกว่าหลายคนที่ได้ยินมาในระยะนี้

พร้อมย้ำว่า ทางออกของสถานการณ์นั้นมีอยู่แล้ว เพียงแต่ขอให้เจอทางออกนั้น เพราะคงไม่มีปัญหาใดที่แก้ไม่ได้

“ทางออกมีอยู่แล้ว ก็ขอให้เจอทางออกที่ว่า ไม่มีปัญหาอะไรแก้ไม่ได้ ขอให้เชื่อมั่นและมั่นใจว่าเราจะต้องช่วยกันเลือกหนทางที่ดีที่สุดเพื่อประเทศของเรา ไม่ใช่ผมคนเดียว ทุกคนต้องร่วมมือกัน” พล.อ.ประยุทธ์ กล่าว

ส่วนนายกรัฐมนตรีจะอยู่ครบวาระ 4 ปีโดยไม่รับข้อเสนอของผู้ชุมนุมหรือไม่นั้น นายกรัฐมนตรี กล่าวว่า ไม่ทราบ และย้ำว่าต้องพิจารณาว่าตนเองเข้ามาด้วยอะไร และจะออกจากตำแหน่งอย่างไร

  “ทำไมผมต้องตอบ ผมก็ไม่รู้เหมือนกัน ผมเข้ามาด้วยอะไร ก็ว่ากันไป จะออกด้วยอะไร ก็ว่ากันมา ไม่อยากให้เป็นบรรทัดฐานต่อไปในอนาคต เพราะรัฐบาลไม่ได้หยุดแค่รัฐบาลผม กระบวนการเลือกตั้ง กระบวนรัฐธรรมนูญมีอยู่แล้ว” พล.อ.ประยุทธ์ กล่าว

Back to top button