“ชวน” มอบ “สถาบันพระปกเกล้า” วางรูปแบบคณะทำงานสร้างความปรองดอง หาทางออกร่วมผู้ชุมนุม
“ชวน หลีกภัย” ประธานสภาฯ มอบ “สถาบันพระปกเกล้า” วางรูปแบบคณะทำงานสร้างความปรองดอง หาทางออกร่วมผู้ชุมนุม
นายชวน หลีกภัย ประธานรัฐสภา กล่าวถึงการประชุมร่วมรัฐสภาสมัยวิสามัญ เพื่ออภิปรายทั่วไปหาทางออกประเทศตลอด 2 วันที่ผ่านมาเห็นตรงกันให้ตั้งคณะทำงานศึกษาสร้างความปรองดองขึ้นมาหาทางออกร่วมกับกลุ่มผู้ชุมนุมนั้น วันนี้ (28 ต.ค.63) ได้ประสานไปยังสถาบันพระปกเกล้า เพื่อให้ศึกษารูปแบบหาทางออกร่วมกัน และออกแบบโครงสร้างของคณะทำงานว่าควรจะเป็นอย่างไร เนื่องจากข้อเสนอจากรัฐสภายังไม่มีความชัดเจนว่าต้องการรูปแบบใด
“ต้องหาว่าจุดประสงค์ในการตั้งคณะทำงานคืออะไร สามารถทำได้และมีผลมากน้อยเพียงใด หากจะใช้รูปแบบคณะกรรมการ จะประกอบไปด้วยใครบ้าง และจะเชิญตัวแทนผู้ร่วมชุมนุมเข้าร่วมด้วยหรือไม่ จึงจำเป็นต้องให้สถาบันพระปกเกล้าช่วยคิด” ประธานรัฐสภา กล่าว
ส่วนจะต้องเสนอเป็นญัตติต่อที่ประชุมรัฐสภาเพื่อให้ลงมติตั้งคณะทำงานดังกล่าวหรือไม่นั้น นายชวน กล่าวว่า ขณะนี้ยังไม่ได้คิดไปไกลขนาดนั้น เพราะเป็นช่วงเริ่มต้นของการหารือ
นายชวน กล่าวถึงกรณีที่นายวิสาร เตชะธีราวัฒน์ ส.ส.เชียงราย พรรคเพื่อไทย กรีดแขนกลางสภาเมื่อวานนี้ (27 ต.ค.) ว่า โดยยืนยันว่ากรณีดังกล่าวยังไม่ถึงขั้นต้องติดตั้งเครื่องตรวจอาวุธก่อนเข้าห้องประชุม เพราะการรักษาความปลอดภัยหลักๆ เป็นการป้องกันการนำเข้าอาวุธจากภายนอกรัฐสภาเข้ามาประทุษร้ายกัน แต่กรณีนี้เป็นกรณีที่ ส.ส.นำมีดมาจากแม่ครัวในสภาฯ ดังนั้นจึงเป็นเรื่องยากที่จะควบคุม
“อยู่ที่วุฒิภาวะของแต่ละบุคคล ไม่ใช่ออกระเบียบมาเข้มข้น แต่กลับไม่ปฏิบัติ ซึ่งจริงๆ แล้วระเบียบอาจไม่ต้องมาก แต่ต้องช่วยกันปฏิบัติด้วยความรับผิดชอบ” ประธานรัฐสภา กล่าว
ส่วนกรณีที่นายสิระ เจนจาคะ ส.ส.กทม. พรรคพลังประชารัฐ เตรียมยื่นถอดถอนนายวิสารนั้น นายชวน กล่าวว่า ยังไม่มีการยื่นเข้ามา พร้อมแสดงความเป็นห่วงนายวิสาร แม้จะไม่เห็นด้วยกับการกระทำดังกล่าว และย้ำว่าประชาธิปไตยจะต้องอดทน ความเห็นแม้จะมีกันมากมาย ขัดแย้งกันด้วยคำพูด แต่ก็ไม่มีการทำร้ายกัน หรือหักโค่นกันด้วยกำลัง เพราะสภาฯ ถือเป็นพื้นที่ที่จะช่วยบรรเทาสถานการณ์ได้บ้าง
นายชวน กล่าวว่า การที่สังคมวิพากษ์วิจารณ์เรื่องดังกล่าว ถือเป็นเรื่องปกติ เพราะไม่เคยเกิดเหตุการณ์เช่นนี้ขึ้นมาก่อน และยืนยันว่า ได้ห้ามปรามนายวิสารแล้ว แต่เมื่อมีเหตุการณ์เกิดขึ้นก็ได้ให้เจ้าหน้าที่เข้าไปปฐมพยาบาล