TASCO บวกแรง 5% ตามข่าวดี “ไบเดน” เตรียมคว้าชัย รับอานิสงส์ต้นทุนน้ำมันต่ำ
TASCO บวกแรง 5% รับข่าวดี “ไบเดน” เตรียมคว้าชัย กดต้นทุนน้ำมันต่ำ
ผู้สื่อข่าวรายงานว่า ราคาหุ้นบริษัท ทิปโก้แอสฟัลท์ จำกัด (มหาชน) หรือ TASCO ล่าสุด ณ เวลา 10.07 น. อยู่ที่ระดับ 15.80 บาท ปรับตัวขึ้น 0.80 บาท หรือ 5.33% ด้วยมูลค่าการซื้อขาย 154.62 ล้านบาท
ทั้งนี้ราคาหุ้นปรับตัวขึ้นอย่างมีนัยสำคัญ คาดว่าเกิดจากการที่จะได้รับอานิสงส์จากต้นทุนน้ำมันที่ต่ำลง ภายหลังจากผลคะแนนเลือกตั้งสหรัฐฯ ล่าสุด นายโจ ไบเดน มีโอกาสที่จะชนะ ซึ่งจะเป็นปัจจัยบวกต่อเศรษฐกิจโลก อีกทั้งคาดการณ์ว่าจะมีโอกาสเห็นการผ่อนคลายมาตรการคว่ำบาตรต่อเวเนซูเอล่าและอิหร่าน ซึ่งจะส่งผลบวกต่อกำลังการผลิต และทำให้ราคาน้ำมันอยู่ในระดับต่ำ ดังนั้น TASCO ที่มีต้นทุนส่วนใหญ่มาจากน้ำมันดิบจึงจะได้รับประโยชน์ตามไปด้วย
โดย บริษัทหลักทรัพย์ บล.กสิกรไทย วิเคราะห์กรณีผู้ชนะศึกเลือกตั้งสหรัฐอเมริกาว่า หากนายโจ ไบเดน ชนะ จะเป็นปัจจัยบวกต่อเศรษฐกิจโลก โดยเฉพาะในแง่ของการค้า ขณะที่ทิศทางการอ่อนค่าของเงินดอลลาร์ฯ จะดำเนินต่อไป ซึ่งจะหนุนราคาสินค้าโภคภัณฑ์ขึ้นจากภาพรวมการค้าโลกที่ดีขึ้น โดยหุ้นที่มีมุมมองเชิงบวก คือ
- กลุ่มโรงไฟฟ้า พลังงานสะอาด และอื่นๆ ที่จะได้ประโยชน์จากราคาน้ำมันที่ถูกลง (GULF-BGRIM-PTG-BGC-DCC และ OSP)
- การเปิดโต๊ะเจรจากับประเทศคู่ค้าอย่างอิหร่าน และเวเนซูเอลาใหม่ (เป็นบวกต่อ TASCO)
- ทีมบริหารของไบเดนที่ทำให้ข้อพิพาทระหว่างสหรัฐ-จีน ผ่อนคลายลง และอาจนำไปสู่การปรับลดภาษีลงได้ ทำให้ภาพรวมการค้าโลกดีขึ้น เป็นผลดีต่อสินค้าโภคภัณฑ์และอุตสาหกรรมเดินเรือ (TVO-PSL)
อย่างไรก็ตาม หาก โดนัลด์ ทรัมป์ ชนะ จะมีการดำเนินนโยบาย “American First” เข้มข้นขึ้น พ่วงกับความไม่แน่นอนด้านนโยบายต่างประเทศ โดยเฉพาะภาษีการค้ากับจีนและยุโรป ที่อาจทำให้ดัชนีดอลลาร์ฯ ปรับสูงขึ้นอัตราภาษียังอยู่ในระดับที่ต่ำ ซึ่งจะเป็นผลดีกับสินทรัพย์สกุลเงินดอลลาร์ฯ และกระแสเงินที่ไหลกลับเข้ากลุ่มเทคโนโลยี คาดว่าจะมีปัจจัยบวกเกิดขึ้นกับ
- กลุ่มพลังงาน (PTTEP และ TOP)
- หุ้นปันผล (กลุ่ม ICT และกอง REIT)
- หุ้นที่ได้ประโยชน์จากอัตราภาษีต่ำ (IVL)
ขณะเดียวกัน บล.ยูโอบีเคย์เฮียน ระบุว่า หากเกิดการแปลี่ยนตัวประธานาธิปดี คาดตลาดโลกจะตอบรับเชิงบวกจาก
1) ความผันผวนที่ลดลง 2) นโยบายทางเศรษฐกิจและการค้าที่มีแนวโน้มประนีประนอมกับประเทศต่างๆมากขึ้น (แต่อาจยังแข็งกร้าวกับจีน) 3) มีโอกาสเห็นการผ่อนคลายมาตรการคว่ำบาตรต่อเวเนซูเอล่าและอิหร่าน ซึ่งน่าจะส่งผลบวกต่อกำลังการผลิต และทำให้ราคาน้ำมันอยู่ในระดับต่ำ (บวกต่อกลุ่มผู้ใช้น้ำมันและพลังงาน อาทิ GULF, BGRIM, BGC และอาจรวมถึง TASCO)