ยอดติดเชื้อ “โควิด” ไทยเพิ่ม 6 ราย มาจาก 5 ประเทศ ยอดป่วยสะสม 3,810 คน
ยอดติดเชื้อ “โควิด” ไทยเพิ่ม 6 ราย มาจาก 5 ประเทศ ยอดป่วยสะสม 3,810 คน
ศูนย์บริหารสถานการณ์การแพร่ระบาดโรคติดเชื้อไวรัสโคโรนาสายพันธุ์ใหม่ (โควิด-19) หรือ ศบค. รายงานสถานการณ์การแพร่ระบาดของไวรัสโควิด-19 ในประเทศวันนี้ (5 พ.ย.63) ว่า พบผู้ป่วยยืนยันติดเชื้อรายใหม่เพิ่ม 6 ราย เป็นผู้ที่เดินทางมาจากต่างประเทศและเข้าสถานกักกัน (State Quarantine) โดยมาจากฝรั่งเศส 2 ราย , เยอรมนี 1 ราย , เนเธอร์แลนด์ 1 ราย ฮังการี 1 ราย และเมียนมา 1 ราย ทั้งนี้ ผู้ติดเชื้อโควิดที่เดินทางมาจากเมียนมา ได้ส่งตัวกลับไปรักษาที่เมียนมา โดยมีรายละเอียดดังนี้
ผู้ป่วยรายใหม่ 2 รายแรกเดินทางมาจากฝรั่งเศสถึงไทยเมื่อวันที่ 29 ต.ค.63 เป็นคู่สามี-ภรรยา ฝ่ายชายสัญชาติฝรั่งเศส อายุ 59 ปี อาชีพที่ปรึกษาด้านการก่อสร้าง ส่วนฝ่ายหญิงสัญชาติจีน อายุ 46 ปี อาชีพแม่บ้าน เข้าพัก ASQ ใน จ.นนทบุรี ตรวจหาเชื้อครั้งแรกวันที่ 3 พ.ย.63 ทั้งคู่พบเชื้อแต่ไม่มีอาการ เข้ารับการรักษาที่ รพ.เอกชน
รายที่ 3 เดินทางจากเยอรมนีถึงไทยเมื่อวันที่ 31 ต.ค.63 เป็นหญิงสัญชาติไทย อายุ 73 ปี ว่างงาน เข้าพัก SQ ในกรุงเทพฯ ตรวจหาเชื้อครั้งแรกในวันที่ 2 พ.ย.63 พบเชื้อ มีอาการไข้ ปวดกล้ามเนื้อ ถ่ายเหลว สูญเสียการรับรสชาติ เข้ารับการรักษาที่ รพ.เลิดสิน
รายที่ 4 เดินทางจากเนเธอร์แลนด์ถึงไทยเมื่อวันที่ 31 ต.ค.63 เป็นชายสัญชาติเนเธอร์แลนด์ อายุ 53 ปี ว่างงาน เข้าพัก ASQ ใน จ.สมุทรปราการ ตรวจหาเชื้อครั้งแรกในวันที่ 3 พ.ย.63 พบเชื้อแต่ไม่มีอาการ เข้ารับการรักษาที่ รพ.เอกชน
รายที่ 5 เดินทางจากฮังการีถึงไทยเมื่อวันที่ 3 พ.ย.63 เป็นชายสัญชาติฮังการี อายุ 42 ปี อาชีพเจ้าหน้าที่การทูต เข้าพัก ASQ ในกรุงเทพฯ ตรวจหาเชื้อเมื่อมาถึงและตรวจซ้ำเมื่อวันที่ 4 พ.ย.63 พบเชื้อแต่ไม่มีอาการ เข้ารับการรักษาที่สถาบันบำราศนราดูร
รายที่ 6 เดินทางจากเมียนมาถึงไทยเมื่อวันที่ 31 ต.ค.63 เป็นชายชาวเมียนมา อายุ 27 ปี อาชีพขับรถรับส่งสินค้า ตรวจพบเชื้อเมื่อมาถึงแต่ไม่มีอาการ ไม่ได้เข้าสถานที่กักกันและไม่ได้รับการรักษาในไทย
สำหรับจำนวนผู้ป่วยยืนยันสะสมในประเทศล่าสุดอยู่ที่ 3,810 ราย เป็นผู้ป่วยที่ติดเชื้อภายในประเทศ 2,451 ราย และผู้ป่วยที่ตรวจพบในสถานกักกันที่รัฐจัดให้ 861 ราย มีผู้ป่วยรักษาหายเพิ่ม 11 ราย รวมผู้ป่วยที่รักษาหายแล้ว 3,623 ราย ยังมีผู้ป่วยรักษาตัวอยู่ในโรงพยาบาล 128 ราย ขณะที่ไม่มีผู้เสียชีวิตเพิ่มเติม โดยยอดผู้เสียชีวิตสะสมยังคงเดิมที่ 59 ราย