GULF-BGRIM พุ่งต่อ! เก็งรับผลดี “ไบเดน” จ่อคว้าชัยเลือกตั้ง โบรกฯชี้ผลงานเติบโตสูง
GULF-BGRIM พุ่งต่อ! เก็งรับผลดี “ไบเดน” จ่อคว้าชัยเลือกตั้ง โบรกฯชี้ผลงานเติบโตสูง
ผู้สื่อข่าวรายงานว่า ล่าสุด ณ เวลา 10.42 น. ราคาหุ้น บริษัท กัลฟ์ เอ็นเนอร์จี ดีเวลลอปเมนท์ จำกัด (มหาชน) หรือ GULF อยู่ที่ 33.25 บาท บวก 2 บาท หรือ 6.40% สูงสุดที่ 33.50 บาท ต่ำสุดที่ 31.50 บาท ด้วยมูลค่าซื้อขาย 1.35 พันล้านบาท
ราคาหุ้น บริษัท บี.กริม เพาเวอร์ จำกัด (มหาชน) หรือ BGRIM อยู่ที่ 47.25 บาท บวก 1.75 บาท หรือ 3.85% สูงสุดที่ 47.75 บาท ต่ำสุดที่ 45.50 บาท ด้วยมูลค่าซื้อขาย 773.21 ล้านบาท
โดยบล.ทรีนีตี้ จำกัด ประเมินว่า นายโจ ไบเดน ที่มีนโยบายพลังงานสะอาด (Clean energy) ซึ่งถือเป็นนโยบายเรือธงแรก ๆ ของพรรคเดโมแครตจะถูกผลักดันออกมาก็มีโอกาสสูง เนื่องจากเป็นกระแสสิ่งแวดล้อมระดับโลก ด้วยเหตุนี้มีโอกาสที่นักลงทุนทั่วโลกจะเริ่มโฟกัสการลงทุนในกลุ่มของพลังงานทางเลือกนี้มากขึ้น มองตัวเลือกในตลาดหุ้นไทยที่น่าสนใจบนการลงทุนธีมนี้ได้แก่ GULF, GPSC, บริษัท พลังงานบริสุทธิ์ จำกัด (มหาชน) หรือ EA และ BGRIM (เรียงตามขนาด Market cap)
ด้านบล.เคจีไอ (ประเทศไทย) ระบุว่า กำไรจากธุรกิจหลักในไตรมาส 4/2563 ของหุ้นโรงไฟฟ้าจะได้แรงหนุนจากต้นทุนก๊าซ SPP ที่ลดลงประมาณ 10.30% จากไตรมาสก่อน และอุปสงค์จากผู้ใช้ไฟฟ้าในภาคอุตสาหกรรม (IU) ที่ฟื้นตัวขึ้นจากการเพิ่มอัตราการผลิตในหลายอุตสาหกรรม จึงคาดต้นทุนก๊าซของ SPP จะลดลงอีกในปี 2564 ตามราคาน้ำมันดิบที่ลดลง (ปกติจะตามหลังประมาณ 6-12 เดือน)
โดยเลือก EGCO และ RATCH เป็นหุ้นเด่นในกลุ่มในฐานะหุ้นปันผล และเลือก BGRIM และ GULF เป็นหุ้นเด่นในฐานะหุ้นเติบโตสูง เนื่องจากอุปสงค์การใช้ไฟฟ้าของ IU ฟื้นตัวอย่างต่อเนื่องในไตรมาส 4/2563 รวมถึงได้อานิสงส์จากต้นทุนก๊าซของ SPP ลดลงในไตรมาส 4/2563 และคาดว่ากำไรปี 2564 จะโตอย่างแข็งแกร่งถึง 24.70% และ 100.80% ตามลำดับ นอกจากนี้ยังคลายความกังวลเกี่ยวกับภาวะภัยแล้งลงไป เนื่องจากระดับน้ำในเขื่อนในภาคตะวันออกของไทยสูงขึ้นเกินกว่าระดับเมื่อปี 2562 แล้ว
ขณะที่บล.โนมูระ พัฒนสิน ระบุในบทวิเคราะห์ แนะนำ “ซื้อ” หุ้น GULF ราคาเป้าหมาย 37.5 บาท คาดกำไรปกติไตรมาส 3/63 เป็น New high ราว 1,330 ล้านบาท (เพิ่มขึ้น 33% เมื่อเทียบจากปีก่อน และ 34% เมื่อเทียบจากไตรมาสก่อน) สูงเป็นประวัติการณ์
โดยกำไรโตเมื่อเทียบจากปีก่อนตาม GPM และส่วนแบ่งกำไรฯ โตเมื่อเทียบจากไตรมาสก่อนตาม GPM และเงินปันผล และคาดกำไรปกติไตรมาส 4/63 แม้ลดลงเมื่อเทียบจากไตรมาสตาม seasonal และไม่มีเงินปันผลมาหนุน แต่ยังโตสูงเมื่อเทียบจากปีก่อน จากโรงไฟฟ้าใหม่เข้ามาเสริม และการปิดซ่อมลดลง ทั้งนี้ปรับลดกำไรปกติปี 2563-2564 ลงสะท้อน GPM ต่ำกว่าคาดจากต้นทุนก๊าซฯ และการเลื่อนนำเข้า LNG