CPN บวกสวนกำไร Q3 หดตัว “เมย์แบงก์ฯ” มองปีหน้าฟื้นตัวแกร่ง เคาะเป้า 66 บ.
CPN บวกสวนกำไร Q3 หดตัว “เมย์แบงก์ฯ” มองปีหน้ากำไรฟื้นตัวแกร่ง เคาะเป้า 66 บ.
ผู้สื่อข่าวรายงานว่า ราคาหุ้น บริษัท เซ็นทรัลพัฒนา จำกัด (มหาชน) หรือ CPN ล่าสุด ณ เวลา 15.03 น. อยู่ที่ระดับ 43 บาท ปรับตัวขึ้น 3.50 บาท หรือ 8.86% ด้วยมูลค่าการซื้อขาย 917.47 ล้านบาท
ทั้งนี้ ราคาหุ้นปรับตัวขึ้นอย่างมีนัยสำคัญ สวนกำไรสุทธิไตรมาส 3/2563 ที่ประกาศออกมาเช้าวันนี้ (9 พ.ย.2563) โดยกำไรสุทธิปรับตัวลดลง 12% จากช่วงเดียวกันเมื่อปีก่อน อย่างไรก็ตามนักวิเคราะห์มองว่าผลการดำเนินงานจะฟื้นตัวอย่างก้าวกระโดดในปี 2564
ด้าน บล.เมย์แบงก์ กิมเอ็ง (ประเทศไทย) ระบุ ในบทวิเคราะห์ แนะ “ซื้อ” หุ้น CPN กำไรปกติ 9 เดือนปี 63 คิดเป็น 98% ของคาดการณ์กำไรปีนี้ ทำให้มีอัพไซด์ต่อประมาณการ ส่วนปีหน้าคาดว่ากำไรจะฟื้นตัวอย่างมีนัยสำคัญจากฐานต่ำ และคาดว่าจะทยอยกลับมาปรับขึ้นค่าเช่าได้ตั้งแต่กลางปีหน้าเป็นต้นไป อีกทั้งมีการเปิดโครงการ Mixed use แห่งใหม่ใน ครึ่งปีหลังของปี 2564 ที่ อยุธยา และ ศรีราชา โดยให้ราคาเป้าหมาย (DCF) 66 บาท
โดยกำไรสุทธิไตรมาส 3/63 เท่ากับ 2,481 ล้านบาท (+431% จากไตรมาสก่อน, -12% จากช่วงเดียวกันเมื่อปีก่อน) หากไม่รวมรายการพิเศษคือ กำไรเกี่ยวกับเครื่องมือทางการเงิน 119 ล้านบาท กำไรปกติเท่ากับ 2,362 ล้านบาท ดีกว่าที่คาดการณ์จากการที่ต้นทุนและค่าใช้จ่ายในการดำเนินงานลดลงถึง 21% จากช่วงเดียวกันเมื่อปีก่อน แม้รายได้ค่าเช่าลดลง 15% จากช่วงเดียวกันเมื่อปีก่อน เนื่องจากยังมีการให้ส่วนลดค่าเช่าประมาณ 20% แต่ฟื้นตัว 73% จากไตรมาสก่อน หลังจากคลายล็อกดาวน์ โดยให้ส่วนลดค่าเช่าน้อยลง และจำนวนลูกค้าเข้าโครงการเฉลี่ย (Traffic) ฟื้นตัวมาที่มากกว่า 85% (ไม่รวมศูนย์การค้าในพื้นที่ท่องเที่ยว) โดยอัตราเข้าเช่าอยู่ที่ 92% เท่ากับปีก่อน อัตรากำไรขั้นต้นลดลง 53 bps จากช่วงเดียวกันเมื่อปีก่อน เป็น 49.3% แต่ฟื้นตัวอย่างมีนัยยะจาก 28.6% ในไตรมาส 2/63 จากการควบคุมต้นทุน และค่าไฟลดลง ส่วนค่าใช้จ่ายลดลง 29% จากช่วงเดียวกันเมื่อปีก่อนจากการลดค่าใช้จ่ายโดยเฉพาะการทำกิจกรรมการตลาดซึ่งหันมาเน้นทางออนไลน์มากขึ้น
ด้าน แนวโน้มผลประกอบการไตรมาส 4/63 ฟื้นตัวดีขึ้นจากไตรมาสก่อน แต่ยังลดลง จากช่วงเดียวกันเมื่อปีก่อน เนื่องจากยังมีการให้ส่วนลดค่าเช่าอยู่บางส่วน แต่ส่วนลดจะค่อยๆ ลดลง อีกทั้งคาดว่า Traffic จะเพิ่มขึ้นเป็นมากกว่า 85% เนื่องจากเข้าสู่ช่วงเทศกาลและได้รับผลบวกจากมาตรการกระตุ้นการบริโภค ขณะที่การชุมนุมมีผลกระทบค่อนข้างจำกัด นอกจากนั้น CPN จะมีการรับรู้รายได้จากการโอนโครงการที่อยู่อาศัยมากขึ้น เนื่องจากการโอนโครงการส่วนใหญ่จะอยู่ในช่วงปลายปี