TPCH ปิดดีลซื้อ 2 โรงไฟฟ้าชีวมวล 132 ลบ. ดันกำลังผลิตรวมแตะ 125MW หนุนผลงานโตยาว
TPCH ปิดดีลซื้อ 2 โรงไฟฟ้าชีวมวล 132 ลบ. ดันกำลังผลิตรวมแตะ 125MW หนุนผลงานโตยาว
นางกนกทิพย์ จันทร์พลังศรี ประธานคณะกรรมการบริหาร บริษัท ทีพีซี เพาเวอร์ โฮลดิ้ง จำกัด (มหาชน) หรือ TPCH ประกอบธุรกิจหลักโดยการถือหุ้นในบริษัทอื่น (Holding Company) ที่ประกอบธุรกิจผลิตและจำหน่ายไฟฟ้าจากพลังงานหมุนเวียน เปิดเผยว่า ตามที่ประชุมคณะกรรมการ ครั้งที่ 7/2563 เมื่อวันที่ 10 พฤศจิกายน 2563 มีมติอนุมัติให้บริษัทเข้าลงทุนในกิจการที่ประกอบธุรกิจโรงไฟฟ้าพลังงานชีวมวล จำนวน 2 โครงการ ประกอบด้วย บริษัท ประชารัฐชีวมวล แม่ลาน จำกัด และ บริษัท ประชารัฐชีวมวล บันนังสตา จำกัด
ทั้งนี้ บริษัทฯ จะเข้าซื้อหุ้นสามัญเดิมของบริษัท อีโค เอ็นเนอร์ยี่ กรุ๊ป คอร์ปอเรชั่น จำกัด (“ECO ENERGY”) ซึ่งเป็นผู้ถือหุ้นในกิจการโรงไฟฟ้าพลังงานชีวมวลดังกล่าว จำนวน 52,375,434 หุ้น คิดเป็นสัดส่วน 99.87% ของทุนจดทะเบียน จากบริษัท เฟอร์รั่ม เอ็นเนอร์ยี่ จำกัด ซึ่งเป็นผู้ถือหุ้นรายใหญ่ของ ECO ENERGY โดยมีมูลค่าการเข้าลงทุนในกิจการโรงไฟฟ้าพลังงานชีวมวลดังกล่าวเป็นเงินจำนวนรวมทั้งสิ้นไม่เกิน 132,000,000 บาท และคาดว่าจะดำเนินการได้แล้วเสร็จภายในไตรมาส 4 ปี 2563
“การเข้าไปลงทุนใน 2 โครงการ เพื่อให้เป็นไปตามนโยบายการขยายธุรกิจโรงไฟฟ้าพลังงานทดแทนและจะช่วยสร้างรายได้เพิ่มมากขึ้น ซึ่งจะนำไปสู่การสร้างมูลค่าเพิ่มให้แก่ผู้ถือหุ้น และจะได้รับผลตอบแทนจากการลงทุนที่ดีในระยะยาว และจากการเข้าไปลงทุนในครั้งนี้ จะทำให้บริษัทฯ มีกำลังการผลิตกระแสไฟฟ้ารวมเพิ่มขึ้นเป็น 125 เมกะวัตต์ จากเดิมที่ COD โรงไฟฟ้าชีวมวลไปแล้ว 83 เมกะวัตต์ และอยู่ระหว่างการก่อสร้าง ทั้งโรงไฟฟ้าชีวมวลและโรงไฟฟ้าขยะ อีกประมาณ 42 เมกะวัตต์ “นางกนกทิพย์ กล่าว
ด้านนายเชิดศักดิ์ วัฒนวิจิตรกุล กรรมการผู้จัดการใหญ่ บริษัท ทีพีซี เพาเวอร์ โฮลดิ้ง จำกัด (มหาชน) หรือ TPCH กล่าวว่า บริษัท เฟอร์รั่ม เอ็นเนอร์ยี่ จำกัด เป็นผู้ถือหุ้นรายใหญ่ของบริษัท อีโค เอ็นเนอร์ยี่ กรุ๊ป คอร์ปอเรชั่น จำกัด ประกอบธุรกิจหลักเกี่ยวกับการผลิต และจำหน่ายไฟฟ้าจากเชื้อเพลิงที่หลากหลาย เช่น ชีวมวล ชีวภาพ พลังงานลม พลังงานแสงอาทิตย์ พลังงานน้ำ ก๊าซชีวภาพ พลังงานขยะ พลังงานจาการเผาไหม้วัสดุการเกษตร และพลังงานทดแทนอื่นๆ
สำหรับ บริษัท ประชารัฐชีวมวล บันนังสตา จำกัด (“บจก. บันนังสตา”) จะดำเนินธุรกิจเกี่ยวกับการผลิตและจำหน่ายไฟฟ้าจากเชื้อเพลิงชีวมวล ซึ่งตั้งอยู่ที่จังหวัดยะลา ขนาดกำลังการผลิตติดตั้งอยู่ที่ 3 เมกะวัตต์ และเป็นผู้ได้รับสัญญาซื้อขายไฟฟ้า จำนวน 1 สัญญา กำลังการผลิตรับซื้อไม่เกิน 2.85 เมกะวัตต์ กับการไฟฟ้าส่วนภูมิภาค โดยมีอัตรารับซื้อไฟฟ้า Feed-in-Tariff หน่วยละ 5.14 บาทต่อกิโลวัตต์-ชั่วโมง เป็นระยะเวลาสนับสนุน 20 ปี นับจากวันเริ่มต้นจำหน่ายกระแสไฟฟ้าเชิงพาณิชย์ให้กับการไฟฟ้าส่วนภูมิภาค
ขณะที่ บริษัท ประชารัฐชีวมวล แม่ลาน จำกัด (“บจก. แม่ลาน”) ดำเนินธุรกิจหลักเกี่ยวกับการผลิตและจำหน่ายไฟฟ้าจากเชื้อเพลิงชีวมวล ซึ่งตั้งอยู่ที่จังหวัดปัตตานี ขนาดกำลังการผลิตติดตั้งอยู่ที่ 3 เมกะวัตต์ และเป็นผู้ได้รับสัญญาซื้อขายไฟฟ้า จำนวน 1 สัญญา กำลังการผลิตรับซื้อไม่เกิน 2.85 เมกะวัตต์ กับการไฟฟ้าส่วนภูมิภาค โดยมีอัตรารับซื้อไฟฟ้า Feed-in-Tariff หน่วยละ 5.14 บาทต่อกิโลวัตต์-ชั่วโมง เป็นระยะเวลาสนับสนุน 20 ปี นับจากวันเริ่มต้นจำหน่ายกระแสไฟฟ้าเชิงพาณิชย์ให้กับการไฟฟ้าส่วนภูมิภาค
“การเข้าซื้อกิจการโรงไฟฟ้าพลังงานชีวมวลในครั้งนี้ บริษัทฯ จะใช้แหล่งเงินทุนจากกระแสเงินสด ซึ่งปัจจุบันมีความพร้อมที่สามารถเข้าลงทุนได้โดยจะไม่ส่งผลกระทบต่อสภาพคล่อง หรือการดำเนินงานของบริษัทฯ แต่อย่างใด และจะช่วยเพิ่มศักยภาพในการผลิตกระแสไฟฟ้าให้มากขึ้น และการเข้าซื้อกิจการทั้งสองโครงการนี้ จะได้รับราคาค่าไฟฟ้าที่ 5.14 บาทต่อหน่วย รวมทั้งอัตราผลตอบแทนที่คาดหวังจากการลงทุน (Equity IRR) อยู่ที่ประมาณร้อยละ 13”นายเชิดศักดิ์กล่าว
สำหรับภาพรวมผลการดำเนินงานในงวด 9 เดือนของปี 2563 มีรายได้รวมอยู่ที่ 1,305.39 ล้านบาท กำไรสุทธิ 239.77 ล้านบาท ส่วนผลการดำเนินงานงวดไตรมาส 3/63 มีรายได้รวมอยู่ที่ 472.97 ล้านบาท กำไรสุทธิ 61.12 ล้านบาท