ตร. เตรียมกำลัง 9 กองร้อย รับมือม็อบพรุ่งนี้ ปรามปาร์ตี้หมูกระทะ ผิดพ.ร.บ.ความสะอาด
ตร. เตรียมวางกำลัง 9 กองร้อย รับมือม็อบพรุ่งนี้ ปรามปาร์ตี้หมูกระทะ ผิดพ.ร.บ.ความสะอาด
พล.ต.ต.ปิยะ ต๊ะวิชัย รองผู้บัญชาการตำรวจนครบาล (รอง ผบช.น.) กล่าวว่า บช.น.ได้จัดกำลังพลที่จะดูแลความสงบเรียบร้อยด้านนอกอาคารรัฐสภาในวันพรุ่งนี้ (17 พ.ย.63) ไว้ผลัดละ 9 กองร้อย หลังจะมีกลุ่มผู้ชุมนุม ประกอบด้วย 1.กลุ่มไทยภักดี แจ้งว่าจะมีการชุมนุมในวันที่ 17 พ.ย.63 ตั้งแต่เวลา 09.00-14.00 น. 2.กลุ่มการเมืองภาคประชาชน แจ้งว่าจะมีการชุมนุมในวันที่ 17-18 พ.ย.63 ตั้งแต่เวลา 09.00-22.00 น. และ 3.กลุ่มราษฎร มีการประกาศทางโซเชียลเน็ตเวิร์คว่าจะมีการชุมนุมแต่ยังไม่แจ้งเจ้าหน้าที่ว่าจะชุมนุมในช่วงเวลาใด โดยทั้งสามกลุ่มมีเป้าหมายที่จะชุมนุมบริเวณโดยรอบรัฐสภา ดังนั้นจะปิดการจราจรถนนสามเสนด้านหน้าอาคารรัฐสภา
แม้ผู้ชุมนุมทั้ง 2 กลุ่มแรกได้แจ้งการชุมนุมแล้ว แต่ขอฝากถึงแกนนำผู้ชุมนุม ขอให้ปฏิบัติตามเงื่อนไข รวมถึงการปฏิบัติตามกฎหมายอื่นๆ ด้วย สำหรับกลุ่มที่ไม่ได้แจ้ง ทางเจ้าหน้าที่จะดำเนินการตามข้อเท็จจริง โดยยืนยันว่า ไม่ได้ 2 มาตรฐาน
“ใครที่แจ้งเจ้าพนักงานดูแลก็จะได้รับสิทธิ์ในการเลือกสถานที่ก่อน” พล.ต.ต.ปิยะ กล่าว
สำหรับเงื่อนไขของการชุมนุมนั้น ทางตำรวจ สน.บางโพ กำหนดเงื่อนไข 5 ข้อ คือ 1.ห้ามใช้ป้ายข้อความหมิ่นประมาท ยุยงปลุกปั่น เพื่อให้เกิดความวุ่นวายในบ้านเมือง 2.ห้ามเคลื่อนย้ายผู้ชุมนุม 3.ห้ามใช้เครื่องขยายเสียงเกินกว่าที่กฎหมายกำหนดหรือได้รับอนุญาต (115 เดซิเบล) 4.ชุมนุมโดยสงบ ปราศจากอาวุธ ไม่ละเมิดสิทธิของผู้อื่น และ 5.ต้องไม่กีดขวางทางเข้า-ออกของรัฐสภา กีดขวางการจราจร
นอกจากนี้ บช.น.ยังได้ประสานไปยังกรมเจ้าท่าที่รับผิดชอบการสัญจรทางน้ำเข้ามาช่วยดูแลให้เกิดความเรียบร้อยหลังมีข่าวกลุ่มผู้ชุมนุมจะปิดล้อมการสัญจรทางน้ำ ซึ่งพยายามจะหลีกเลี่ยงไม่ให้มีการชุมนุมทางเรือที่มีความอันตรา
พล.ต.ต.ปิยะ กล่าวว่า ในการชุมนุมครั้งต่อไป ทางเจ้าหน้าที่มีแนวคิดตั้งจุดคัดกรอง เพื่อตรวจอาวุธ ตามมาตรการของต่างประเทศ เช่น เกาหลีใต้ อังกฤษ สวีเดน
สำหรับการรับประทานหมูกระทะในระหว่างการชุมนุมตามที่ม็อบราษฎรได้ประกาศเชิญชวนมวลชนนั้น พล.ต.ต.ปิยะ กล่าวว่า ถือว่าผิดกฎหมายตามพ.ร.บ.รักษาความสะอาด และความเป็นระเบียบเรียบร้อยของบ้านเมือง ในการห้ามประกอบอาหาร รับประทานอาหารในที่สาธารณะ อีกทั้งผิด พ.ร.บ.การจรจาจรทางบกอีกด้วย